โค้ชเตี้ย สะสม พบประเสริฐ กุนซือใหญ่ชลบุรี เอฟซี ออกโรงแจงกรณี ศศิศ สิงห์โตทอง ผู้จัดการทีมจวกแหลกนักเตะไร้ใจขอให้เดินมาบอก เป็นแค่บรรยากาศในเกม
โค้ชเตี้ย สะสม พบประเสริฐ กุนซือใหญ่ทัพ “ฉลามชล”ชลบุรี เอฟซี ออกโรงชี้แจงกรณีที่ “เสี่ยบอล”ศศิศ สิงห์โตทอง ผู้จัดการทีมฉะแหลกนักเตะหลังเกมที่ออกไปเสมอกับเมืองทอง ยูไนเต็ด 3-3 ว่าหากใครไม่มีใจเล่นขอแค่เดินมาบอก
โดยเกมดังกล่าวชลบุรี เอฟซี เป็นฝ่ายนำเมืองทอง ยูไนเต็ด ถึง 3-0 แต่เจ้าบ้านใช้เวลาเพียง 14 นาทีในครึ่งหลังตามตีเสมอ 3-3 แบ่งแต้มกันไป ซึ่งหลังเกม “เสี่ยบอล” ได้ฉะแหลกผู้เล่นของชลบุรี โดยบอกว่าใครไม่มีใจเล่นให้กับทีมขอแค่ให้เดินมาบอก จนกลายเป็นที่ฮือว่าคำพูดดังกล่าวหมายถึงนักเตะหรือเจ้าหน้าที่รายใด
ล่าสุด กุนซือใหญ่ฉลามชล เผยว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเพียงอารมณ์ในการแข่งขันเท่านั้น เนื่องจากทุกคนรู้สึกผิดหวังที่ต้องเสียแต้มสำคัญไปถึง 2 คะแนน กับเกมที่เจอทีมใหญ่ด้วยกัน ดังนั้นการด่ากันแม้ว่าจะรุนแรงไปบ้าง แต่เป็นเรื่องที่นักเตะทุกคนรับได้
“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผมมองว่าเป็นเรื่องของอารมณ์มากกว่า เพราะเราคิดว่าเป็นการด่าที่เรารับกันได้ เมื่อเกมจบลงทุกอย่างก็จบลง เพราะในวันนั้นบรรยาศที่ตึงเครียดมากๆ จึงมีการระเบิดอารมณ์กัน”
“ตัวผมเองใช้คำรุนแรงในเกมนั้นเหมือนกัน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่านี่คือความเป็นชลบุรี ที่ต้องจริงจังกับการแข่งขัน จริงกับการเล่น และเมื่อเกมจบทุกอย่างจบ ดังนั้นเราต้องเดินหน้ากันต่อไป แน่นอนอาจมีผลต่อจิตใจนักเตะรุ่นใหม่บ้าง แต่ถ้าเราจะก้าวเป็นนักเตะอาชีพเรื่องพวกนี้เราต้องผ่านมันไปให้ได้”
พร้อมกันนี้หัวหน้าผู้ฝึกสอนชลบุรี เอฟซี ยังกล่าวด้วยว่าการเข้าร่วมพูดคุยกับผู้ตัดสินในเรื่องกฎกติกา และการใช้วีเออาร์นั้นแทบไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย
“การที่ทีมในไทยลีกได้ร่วมรับฟังแนวทางการทำงานของผู้ตัดสินและวีเออาร์เมื่อช่วงเช้า (16 ก.ย.) แทบไม่ได้อะไรเลย เพราะสิ่งที่เราอยากรู้ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน ผู้ตัดสินพยายามบ่ายเบี่ยงที่จะตอบให้ชัดว่านักเตะเราทำผิดจริงหรือไม่”
“อย่างในกรณีเกมกับเมืองทอง ยูไนเต็ด ที่เราเสียจุดโทษ ผมถามผู้ตัดสินว่าเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นผู้เล่นเราทำผิดจริงจนถึงขั้นเสียจุดโทษและจบเกมด้วยการเสมอกันหรือไม่ ผู้ตัดสินไม่ตอบเรื่องนี้ให้ชัดเจน บอกแต่เพียงว่าผู้ตัดสินจะพัฒนากันต่อไป”
“การที่ผู้ตัดสินไม่สามารถให้คำตอบที่ชัดเจนกับสโมสรได้คงไม่เกิดประโยชน์อะไรกับการพูดคุยหรือการรับฟังแนวทางร่วมกันในอนาคต ในเมื่อคุณไม่เปิดใจรับฟังข้อคิดเห็นของตัวแทนสโมสร ดังนั้นเราคงหวังพึ่งอะไรจากใครไม่ได้ เราต้องทำตัวเองให้ดีที่สุดและพร้อมที่สุดในทุกนัดนับจากนี้”
