การแข่งขันกอล์ฟอาชีพสะสมคะแนนอันดับโลก ออล ไทยแลนด์ กอล์ฟ ทัวร์ 2021 จัดแข่งขันตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จากการสนับสนุนโดย บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด, การกีฬาแห่งประเทศไทยและกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, จังหวัดภูเก็ต, ลากูน่า กอล์ฟ ภูเก็ต รวมถึงสปอนเซอร์ของออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์ ร่วมกันจัดแข่งขัน แซนด์บ็อกซ์ สะวิง รายการ “สิงห์ ลากูน่า ภูเก็ต โอเพ่น 2021” ชิงเงินรางวัลรวม 3 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 7-10 ตุลาคม 2564 ณ สนามกอล์ฟ ลากูน่า กอล์ฟ ภูเก็ต จ.ภูเก็ต ระยะ 6,674 หลา พาร์ 70 ผู้ชนะจะรับเงินรางวัลไปครอง 450,000 บาท และคะแนนอันดับโลก 5 แต้ม
รอบสุดท้ายของการแข่งขันเมื่อวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา สดมภ์ แก้วกาญจนา หนุ่มจากนราธิวาส ซึ่งออกสตาร์ตรอบสุดท้ายด้วยการนำสองสโตรกยังร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงกลางรอบที่เก็บเข้ามาถึง 6 เบอร์ดี้ในช่วง 7 หลุมเริ่มตั้งแต่หลุม 8 แม้จะไปพลาดเสียสองสโตรกในช่วงสี่หลุมสุดท้ายแต่ไม่เสียหายอะไร ก่อนกลับขึ้นคลับเฮ้าส์ 4 อันเดอร์พาร์ 66 รวมสี่วัน 13 อันเดอร์พาร์ 267 คว้าแชมป์โดยทิ้งห่างอันดับสองถึง 4 สโตรก
นับเป็นการคว้าแชมป์เป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกันของ สดมภ์ ที่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่งจะคว้าแชมป์ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์รายการแรกในชีวิตมาครองในการแข่งขันที่บลูแคนยอน คันทรี่คลับ เลกส์คอร์ส และเป็นการคว้าแชมป์รายการระดับอาชีพเป็นรายการที่ห้าในชีวิตของนักกอล์ฟจากนราธิวาส โดยก่อนหน้านี้เคยชนะออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์ 2 รายการในรายการสิงห์ พัทยา โอเพ่น 2017 สมัยยังเป็นนักกอล์ฟสมัครเล่นและรายการธงชัย ใจดี ฟาวเดชั่น เมื่อปี 2019 และยังคว้าแชมป์ระดับเอเชี่ยนทัวร์มาครองอีก 1 รายการในการแข่งขันที่บังคลาเทศเมื่อปี 2019
เจ้าของแชมป์สิงห์ ลากูน่า ภูเก็ต โอเพ่น 2021 เปิดเผยว่า “ดีใจและภูมิใจครับที่เราทำได้ จริงๆก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้แชมป์สองอาทิตย์ติด แต่ว่าเราก็พยายามทำให้ดีที่สุดในแต่ละช็อต ผลงานที่ออกมาก็พอใจครับ รู้สึกภูมิใจมากๆครับ
สำหรับเกมการเล่นในรอบสุดท้ายรวมๆอยู่ในเกณฑ์ที่เราคิดไว้ แค่รอจังหวะครับ แรกๆออกไปอาจจะตีเสียบ้าง แต่พอจังหวะเรามาเราก็พยายามทำให้ได้ ช่วงที่ผมได้เบอร์ดี้ที่หลุม 8 จนถึง 14 ช่วงนั้นครับ เป็นช่วงที่จังหวะเรามา รู้สึกว่าเราเล่นได้ดี พัตต์ได้ดีในช่วงนั้น ก็เลยทำให้หลุมที่เหลือเล่นง่ายขึ้นครับ”
ทางด้าน รัชชานนท์ ฉันทนานุวัฒน์ นักกอล์ฟสมัครเล่นวัย 14 ปีจากกรุงเทพฯ ที่แสดงความนิ่งเกินอายุ โดยเฉพาะช็อตแอพโพรชในรอบสุดท้ายที่มีโอกาสขึ้นไปยิงเบอร์ดี้ถึง 14 หลุมก่อนจบสกอร์รอบสุดท้ายเข้ามา 3 อันเดอร์พาร์ 67 รวมสี่วันจบการแข่งขันในอันดับสองด้วยสกอร์รวม 9 อันเดอร์พาร์ 271 คว้ารางวัลนักกอล์ฟสมัครเล่นที่ทำผลงานดีที่สุดเป็นรายการที่สองติดต่อกันหลังจากเมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่งจบอันดับห้าร่วมในรายการสิงห์ ออลไทยแลนด์ แชมเปียนชิพ ที่สนามบลูแคนยอน คันทรีคลับ แคนยอนคอร์ส โดยรายการนี้ รัชชานนท์ เก็บคะแนนสะสมอันดับโลกไป 3 คะแนน
ส่วน ถิรวัฒน์ แก้วศิริบัณฑิต นักกอล์ฟวัย 31 ปีจากขอนแก่นเจ้าของแชมป์ออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์ 2 รายการที่ออกสตาร์ตรอบสุดท้ายด้วยการตามหลังผู้นำเพียงสองสโตรก โดยเจ้าตัวพยายามเร่งฟอร์มเก็บ 3 เบอร์ดี้ในการเล่น 11 หลุมแรก แต่มาพลาดออกโบกี้ที่หลุม 15 ตามด้วยดับเบิลโบกี้ที่หลุม 16 ทำให้หมดลุ้น อย่างไรก็ตามเบอร์ดี้ที่หลุม 18 ทำให้ ถิรวัฒน์ จบสกอร์รอบสุดท้ายเข้ามา 1 อันเดอร์พาร์ 69 รวมสี่วัน 8 อันเดอร์พาร์ 272 ขึ้นมาจบอันดับสามแต่เพียงผู้เดียว รับเงินรางวัล 285,000 บาท ส่วน ปิยะ สว่างอรุณพร จบสี่วัน 7 อันเดอร์พาร์ 273 ได้ที่สี่ รับเงินรางวัล 165,000 บาท
สำหรับการแข่งขันในสนามต่อไป ของ ออลไทยแลนด์ กอล์ฟ ทัวร์ ในรายการ “สิงห์ พัทยา โอเพ่น 2021” ชิงเงินรางวัลรวม 3 ล้าน ระหว่างวันที่ 21-24 ตุลาคม 2564 ที่สนามบูรพา กอล์ฟ แอนด์รีสอร์ท จ.ชลบุรี ต่อด้วยรายการ “ไทยแลนด์ โอเพ่น ครั้งที่ 49 ชิงถ้วยพระราชทาน รัชกาลที่ 9 พร้อมเงินรางวัล 10 ล้านบาท ที่สนามริเวอร์เดล จ.ปทุมธานี วันที่ 28-31 ตุลาคม 2564
สรุปผลการแข่งขันสิงห์ ลากูน่า ภูเก็ต โอเพ่น (สนามพาร์ 70)
267 สดมภ์ แก้วกาญจนา 69-65-67-66 (เงินรางวัล 450,000 บาท)
271 รัชชานนท์ ฉันทนานุวัฒน์ (สมัครเล่น) 70-67-67-67
272 ถิรวัฒน์ แก้วศิริบัณฑิต 70-65-68-69 (เงินรางวัล 285,000 บาท)
273 ปิยะ สว่างอรุณพร 74-66-65-68 (เงินรางวัล 165,000 บาท)
274 ภูสิทธิ์ ทรัพย์อัประไมย 67-70-67-70 (เงินรางวัล 124,500 บาท)
275 วิชญภัทร สินสร้าง 68-68-69-70 (เงินรางวัล 96,000 บาท)
276 พีรดนย์ ปัญญาธนะเศรษฐ์ 70-72-68-66, วอลเมอร์ มูริลโล (เวเนซูเอล่า) 69-66-73-68 (เงินรางวัลคนละ 72,950 บาท)
277 วงศกร พิกุลสวัสดิ์ 69-71-69-68, สาริศ สุวรรณรัตน์ 73-67-68-69, เด่นวิทย์ เดวิด บริบูรณ์ทรัพย์ 71-66-70-70 (เงินรางวัลคนละ 57,900 บาท)
278 อติรุจ วินัยเจริญชัย 73-67-69-69, จาตุรนต์ ดวงไพชุม 73-66-69-70 (เงินรางวัลคนละ 51,225 บาท)
279 นิติธร ทิพย์พงษ์ 70-72-69-68 (เงินรางวัล 48,000 บาท)
280 ศักดิ์ชัย ศิริมายา 68-71-71-70, ฟิลลิป มาทซอน 75-64-70-71, ชนะโชค เดชภิรัตนมงคล 70-66-72-72, โคสุเก ฮามาโมโต้ 69-72-71-68, เศรษฐี ประคองเวช 72-66-69-73, วรุณ เอี่ยมแก้ว 71-69-72-68 (เงินรางวัลคนละ 41,950 บาท)
