เมื่อวันที่ 19 ต.ค.64 ที่ สนามกีฬาราชมังคลาฯ หัวหมาก ชาติซ้าย นายสมชาติ เจริญวัชรวิทย์ นายกสมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทย เชิญบุคคลวงการมวยมาร่วมหารือ แนวทางป้องกันและปราบปรามขบวนการจ้างล้มมวย
หลังเกิดกระแส จากกรณี “เสี่ยโบ๊ท”ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ โปรโมเตอร์ศึกเพชรยินดี แจ้งความเอาผิด ผู้จ้างวานล้มมวย ฟ้าวันใหม่ ช.ไทยเศรษฐ์ นักชกในสังกัดวัย 19 ปี หลังสารภาพทรยศต่อวิชาชีพ รับสินบนจาก นายอุดม จารย์ลี เซียนมวยเป็นข่าวครึกโครมในสังคม จนเป็นที่มาให้ “ชาติซ้าย” ในฐานะ นายกสมาคมกีฬามวยอาชีพฯ ต้องออกมาเผยบทบาท พร้อมเชิญคนวงการมวยมาร่วมเสวนาในวันนี้


โดยมีโปรโมเตอร์ มาร่วมหารือ อาทิ “เสี่ยโบ๊ท” ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ ,สองโปรโมเตอร์รุ่นเก๋า อย่าง “แชแม้” นิวัฒน์ เหล่าสุวรรณวัฒน์ และ “จ่าตุ๊” จ.ส.ต.ประพันธ์ พงษ์สว่าง อีกทั้งโปรโมเตอร์อื่นๆอย่าง “เสี่ยหนุ่ม” นริศ ว่องประเสริฐการ ,”เสี่ยกบ” ฐากูร ผ่องสุภา ,”ซ้อเอ๋ จิตรเมืองนนท์” สุนทรี โลหะพืช โปรโมเตอร์หญิง มาร่วมแสดงความคิดเห็น รวมทั้งบรรดาเซียนมวยชื่อดัง หลายราย อย่าง ตี๋ ทีเด็ด99 ,หมวดปอง สุพรรณ ,ตี๋ ราม ฯลฯ

โดยเนื้อหาหลัก นับตั้งแต่มี พรบ.มวย ฉบับ พ.ศ.2542 ตราออกใช้เป็นกฏหมายสามารถดำเนินความผิด ผู้ล้มมวย ,ผู้จ้างวาน ฯลฯ มีโทษถึงปรับ และ จำคุก ทว่าจนถึงปัจจุบันกลับไม่มี ผู้ต้องหารายใดได้รับโทษอย่างเด็ดขาด คงมีเพียงแค่ไกล่เกลี่ย ยอมความกันไป หรือรอลงอาญา เท่านั้น
นอกจากนี้ในที่ประชุมยังมีการทั้งมีการยกประเด็นถึง การหาทางเอาผิดต่อ กรรมการ ผู้ตัดสิน ที่มีส่วนรู้เห็นในการล้มมวยอีกด้วย
สำหรับกรณี “เสี่ยโบ๊ท” แจ้งความเอาผิด ผู้จ้างวานฟ้าวันใหม่ ถือเป็นคดีใหญ่ในประวัติศาสตร์วงการมวยที่มีเจ้าทุกข์ และยืนยันจะดำเนินการให้ถึงที่สุดในชั้นศาล ซึ่งไม่เพียงแต่ คดีอาญา แต่กำลังจะดำเนินคดีแพ่งเรียกร้องค่าเสียหายในฐานะเป็นโปรโมเตอร์อีกคดี

“เสี่ยโบ๊ท” กล่าวว่า เจตนารมณ์ของตนในวันนี้ ก็เพื่อต้องการสานต่อการทำหน้าที่ จากปัญหาที่มีมาตั้งแต่รุ่นพ่อมาสู่รุ่นลูก คือการจัดการเรื่องล้มมวย ซึ่งเพชรยินดีจะต้องรับผิดชอบต่อแฟนมวยในฐานะผู้จัด และในวันนี้รู้สึกดีใจที่บุคคลหลายๆฝ่ายในวงการมวยมาร่วมหารือกัน เพื่อแก้ปัญหาที่มีมานาน

“นี่คือมรดกจากรุ่นพ่อที่ส่งต่อมาให้ ไม่ว่าจะเป็นทองหรือยาพิษ แต่มันเป็นหน้าที่ๆผมต้องรับผิดชอบ วงการมวยทุกวันนี้นับวันด้อยค่าลง เราไปขอจัดมวยที่ไหนเขาก็ยกเลิก ทั้งๆที่รู้ว่า นี่คือศิลปะประจำชาติของเราแท้ๆ ปัญหาการล้มมวยเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้น ผมขอประกาศว่า ขอเปิดตัวแลกเพื่อต่อสู้ และจะเป็นศัตรูกับการล้มมวยอย่างชัดเจน”

“จ่าตุ๊” โปรโมเตอร์รุ่นอาวุโส กล่าวว่า ตนเคยเป็นหนึ่งในคณะกรรมการปราบปรามมวยล้มในยุคสมัยเฮียเหลา (แคล้ว ธนิกุล) เป็นผู้ทรงอิทธิพลในวงการมวยเมื่อหลายสิบปีก่อน แม้ปัจจุบันโลกมันเปลี่ยนไป แต่วงการมวยก็ยังไม่ไปไหน เพราะมันขึ้นอยู่กับการพนัน ทว่าทุกวันนี้ซ้ำร้ายมันผิดเพี้ยนไปหมด ยุคสมัยก่อนการทำมวยป้อนเวทีมาตรฐาน ราชดำเนิน-ลุมพินี เพื่อหวังให้นักมวยได้เป็นแชมเปียน แต่ปัจจุบัน อิทธิพลของการถ่ายทอดสดทางทีวี เติบโตมีมากมายหลายช่องแยกย้ายกันไป ความสำคัญของหัวหน้าคณะนักมวยลดน้อยถอยลง ค่าตัวนักมวยน้อยลง การเสนอมวยชกต้องไปอ้อนวอนผู้จัด ยิ่งวิกฤตโควิด เศรษฐกิจตกต่ำ ปัจจุบันค่ายมวยต่างๆปิดตัวลงไปมาก
ถือเป็นปัญหาตกต่ำที่สุด

“หัวหน้าคณะนักมวยทุกวันนี้ ไม่ต่างกับหมาดีๆนี่เอง ผมก็เป็นหัวหน้าคณะ และคงจะเลิกทำมวยในไม่ช้า แต่ก็อยากให้ทุกคนตระหนักว่า การจ้างล้มมวยเป็นปัญหาใหญ่ มวยล้มเกิดจากคนไปจ้างล้ม มันก็พวกเราในวงการนี่แหละ มันไม่มีหมดไปจากวงการมวย ปราบได้ยาก แต่อยากใหัคนมวยสามัคคีกัน เพื่อช่วยปรามให้มันน้อยลง ถ้าปราบมวยล้มได้หมดผมยอมให้ตัดคอ แต่ขอเพียงให้มันลดน้อยลงได้ ก็ต้องถือว่าขอขอบคุณ”

เช่นเดียวกับ “ซ้อเอ๋ จิตรเมืองนนท์” โปรโมตี้สาว ยืนยันพร้อมร่วมสนับสนุน การล้มมวยคือเนื้อร้ายของวงการ ต้องช่วยกันตัดทิ้งไป

ขณะที่ “เสี่ยกบ” ฐากูร เจ้าของค่าย ศศิประภายิม ยอมรับว่า การจ้างล้มมวยนั้นมีจริง และเกิดขึ้นมานาน ตนเองเข้มงวดกับนักมวยในค่าย เมื่อจับได้ว่าล้มมวยก็ขับไล่ออกเป็นการลงโทษอย่างเด็ดขาด เพราะถือว่า ทรยศต่อวิชาชีพ

ทางด้าน เสียงของแฟนมวย นายบุญโด่ง ผลเจริญ เสนอต่อสมาคมกีฬามวยอาชีพ ควรแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ ขึ้นมาทำงานเพื่อสอดส่องดูแล พฤติกรรมว่าจ้างล้มมวยในเวที ในขณะที่ เซียนมวยอย่าง “ตี๋ ทีเด็ด 99” และ “ตี๋ ราม” มองว่า การตั้งคณะเจ้าหน้าที่ติดตามพฤติการณ์ดังกล่าวนั้น ควรจะเป็น เจ้าหน้าที่ของสำนักงานมวย ที่ขึ้นกับ กกท. เข้ามาดูแล เพื่อป้องกันการลำเอียงเล่นพรรคพวกของโปรโมเตอร์ต่างศึกต่างสายกันมากกว่า

ส่วน “เสี่ยหนุ่ม” นริศ ว่องประเสริฐการ ซึ่งเป็นทั้งโปรโมเตอร์และหนึ่งในคณะกรรมการบริหารของ สมาคมกีฬามวยอาชีพ ให้เหตุผลว่า การดำเนินการเอาผิดคดีล้มมวย จ้างวานต่างๆนั้น เป็นคำสั่งของ สำนักงานมวย ที่ขึ้นตรงจาก การกีฬาแห่งประเทศไทยเป็นสำคัญ
“เรามีหน้าที่รายงานไปให้ สำนักงานมวยรับทราบ จากนั้นจึงจะมี คำสั่งออกมาให้ปฏิบัติ มิเช่นนั้นดูจะเป็นการข้ามหน้าข้ามตาของการปฏิบัติหน้าที่ ทางสมาคมฯจึงได้นิ่งเงียบเพื่อรอดูท่าที่ แต่มิได้นิ่งนอนใจตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา”

ด้าน “ชาติซ้าย” นายสมชาติ นายกสมาคมกีฬามวยอาชีพ กล่าวสรุป ในวันนี้ ได้เห็นความสามัคคีร่วมมือกันของคนวงการมวยในทุกๆฝ่าย ถือเป็นเรื่องน่ายินดี แต่ที่ต้องเรียนให้สังคมรับทราบคือ ปัจจุบันเมื่อมีกฏหมายมวย ตราออกมาเป็น พรบ.แล้ว จึงเป็นหน้าที่หลักของ สำนักงานมวย และการกีฬาแห่งประเทศไทย ที่จะมีคำสั่งลงมา ทั้งนี้ปัญหาที่เกิดขึ้น ย่อมจะต้องรายงานไปยัง ผู้ว่าฯกกท. และ รัฐมนตรีท่องเที่ยวและกีฬา ให้รับทราบปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้น ซึ่งทาง สมาคมมวยอาชีพฯเอง จะทำหนังสือรายงาน ลำดับเหตุการณ์ต่างๆ เป็นลายลักษณ์อักษรอย่างเป็นทางการ เพื่อให้มีมาตรการดำเนินการ เอาผิดต่อผู้เกี่ยวข้องปัญหาล้มมวยตามลำดับต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน