เผย มาห์จาบิน ฮาคิมี นักวอลเลย์บอล เยาวชนหญิงทีมชา อัฟกานิสถาน ถูกฆ่าตัดคอโดยกลุ่มติดอาวุธ ตาลีบัน ในกรุงคาบูล ที่ไม่ต้องการให้ผู้หญิงเล่นกีฬาตามการตีความหลักศาสนาภายใต้กฎหมายอิสลาม
ภายหลังจาก กลุ่มตาลีบันยึดครองประเทศอัฟกานิสถาน และคาดว่าการจัดตั้งรัฐบาลใหม่จะใช้กฎหมายอิสลาม “ชารีอะห์”ล่าสุดในการสัมภาษณ์ของ อาห์มาดุลลาห์ วาซิก รองผู้อำนวยการคณะกรรมการวัฒนธรรมตาลีบัน กับ สถานทีโทรทัศน์ เอสบีเอส ของออสเตรเลีย ระบุว่า การเล่นกีฬาของผู้หญิงถูกพิจารณาว่าไม่มีความเหมาะสมและจำเป็นแต่อย่างใด เป็นเหตุให้นักกีฬาหญิงจำนวนมากรู้สึกหวาดกลัวและบางรายต้องลี้ภัยออกจากต่างประเทศเพื่อที่จะยังได้เล่นกีฬาต่อไป โดย โค้ชของ นักวอลเลย์บอลผู้โชคร้ายเผยว่าเธอถูกฆ่าตัดคอเมื่อต้นเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา แต่ครอบครัวถูกขู่ฆ่าหากเผยแพร่เรื่องโหดร้ายนี้ โดยสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ(เอฟไอวีบี) พยายามสืบหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการสังหารนักกีฬาเยาวชนทีมชาติ และทราบเพียงว่ามีนักกีฬาเพียง 2 คนเท่านั้นที่หลบหนีออกจากอัฟกานิสถานได้
“นักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทุกคนอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย พวกเธอหวาดกลัวและสิ้นหวัง พวกเธอถูกบีบให้ต้องหลบหนี หรือต้องย้ายไปอยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัย”โค้ชผู้ขอไม่เผยชื่อเผยเรื่องราวดังกล่าว
ขณะที่อาเรียน ซาดิกี หัวหน้านักกีฬาอัฟกานิสถานชุดเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาคนพิการ พาราลิมปิก โตเกียว 2020 ยอมรับว่านักกีฬา 12 คนยังอยู่ในประเทศและหลบหนีออกมาไม่ได้ “หากเด็กสาวไม่ได้รับความช่วยเหลือ พวกเขาจะอยู่ในเงื้อมมือของตาลิบันและอาจจะถูกสังหารในที่สุด” โดยช่วงพาราลิมปิกมีเพียง ซาเกีย คูดาดาดี (เทควันโด หญิง) และ ฮอสเซน ราซูลี (กรีฑา ชาย) ที่หลบหนีและไปแข่งขันที่ญี่ปุ่นได้
รายงานระบุว่านักฟุตบอล และ บาสเกตบอลหญิง และเจ้าหน้าที่รวม 57 คน ได้รับการช่วยเหลือจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ(ฟีฟ่า), กาตาร์ และ อัลแบเนีย ในการบินไปลี้ภัยในกาตาร์ ก่อนหน้านี้มีนักกีฬาเทควันโดหญิง 7 คน ต้องลี้ภัยไปออสเตรเลีย และยังมีนักกีฬาหญิงอีกจำนวนมากที่ต้องการหลบหนีจากความหวาดกลัวนี้
