การแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก คู่แรก ประจำวันเสาร์ที่ 23 ต.ค. “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี จ่าฝูง พรีเมียร์ ลีก เปิดบ้านรับ นอริช ทีมบ๊วยของตาราง
โดยผลการแข่งขันไม่มีผิดคาด เชลซี ดาหน้าถล่มได้ประตูแรกตั้งแต่นาที 8 จากลูกยิงไกลของ เมสัน เมาต์ ขึ้นนำ 1-0 
นาที 18 มัตเตโอ โควาซิช จ่ายทะลุช่องฉีกแนวรับนอริชทั้งแผงให้ คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย หลุดเข้าไปแปเล่นทางผ่านมือ ทิม ครูล นายด่านนอริช เข้าไปนำ 2-0
นาที 42 เมสัน เมาต์ ไหลให้ รีช เจมส์ สอดขึ้นมากระดกบอลข้าม ครูล เข้าไปอย่างสวยงาม จบครึ่งแรกนำห่าง 3-0
ครึ่งหลัง นอริช มีโต้บ้าง นาที 54 เบน ชิลเวลล์ จ่ายบอลคืนหลังพลาด มิลอต ราชิกา แนวรุกนอริช ฉกหลุดเดี่ยวพยายาม แตะผ่าน เอดูอาร์ด เมนดี นายด่านเชลซี ไปแล้ว แต่ เมนดี ยังไวยื่นขาป้องกันลูกยิงไว้ได้อีก
นาที 57 เกมรุกเชลซีหลากหลายกว่าเยอะ โควาซิช ผ่านให้ เบน ชิลล์เวลล์ มาแก้ตัวในจังหวะก่อนหน้าได้ ด้วยการยิงสุดสวยเสียบเสาให้ เชลซี ออกนำ 4-0
นาที 63 เชลซี ยิงไม่หยุดไม่หย่อน คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย พยายามเปิดบอลยัดเข้ากลาง ไปแฉลบ แม็กซ์ อารอน กองหลังนอริช เปลี่ยนทางทำให้ ครูล ปัดป้องไม่ทันบอลไหลเข้าประตูไปออกนำ 5-0
นอริช ยิ่งสาหัสเข้าไปอีก นาที 65 เบน กิบสัน ไปหงายปุ่มใส่ข้อเท้า รีช เจมส์ ผู้ตัดสินชักใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออก นอริช ที่ตามหลัง 5 ประตูต้องเล่น 10 คน หลังจากนั้นเชลซี แม้จะพักตัวหลัก แต่ก็ยังบุกแหลก
นาที 83 อันโตนิโอ รูดิเกอร์ ยิงไปติด แมทเธียส นอร์แมน บอลออกหลังไป แต่ ผู้ตัดสินเช็ก VAR เห็นว่า นอร์แมน กางแขนขวางไว้ และชี้เป็นจุดโทษ เมสัน เมาต์ อาสายิงแต่บอลไปติดมือ ครูล ล้มตัวถูกทาง อย่างไรก็ตาม จังหวะดังกล่าว ครูล ถลำออกมานอกเส้น ผู้ตัดสินให้ยิงใหม่ คราวนี้ เมาต์ แก้ตัวสำเร็จ ยิงนำครึ่งโหล 6-0
ยังไม่หยุด 90+1 รูเบน ลอฟตัส ชีค ถวายพานให้ เมสัน เมาต์ ซัดแฮตทริก ปิดกล่องที่ 7-0 เก็บ 3 แต้มเพิ่มเป็น 22 คะแนน และโกยผลต่างประตูได้เสียเป็น +20 เหนือกว่า ลิเวอร์พูล ที่มี 18 แต้ม (+16) ก่อนที่ หงส์แดง จะลงเตะเกมแดงเดือด กับแมนฯยู ในวันอาทิตย์ที่ 24 ต.ค.
