หมอซ้ง ณรงค์ เฮงตระกูล แมตช์เมคเกอร์ไทย ชี้เคล็ดลับ แมนนี่ ปาเกียว ยอดมวยโลกเพื่อนซี้ น่าติดโผ 1 ใน 3 ตัวเต็งที่จะลุ้น เก้าอี้ผู้นำฟิลิปปินส์ ในปีหน้า

“หมอซ้ง” ณรงค์ เฮงตระกูล (ใส่แว่น) เคียงข้าง แมนนี่ ปาเกียว ยอดมวยโลก

ฟิลิปปินส์เริ่มต้นฤดูกาลเลือกตั้งอีกครั้ง เปิดให้มีการลงสมัครรับเลือกตั้งตำแหน่งประธานาธิบดีคนต่อไป ในวันที่ 9 พฤษภาคม 2022 ปีหน้า เแทน โรดริโก ดูเตร์เต ผู้นำปัจจุบันที่จะพ้นวาระ หลังบริหารประเทศมานานจะครบ 6 ปีในปีหน้า

ดูเตร์เต ประกาศวางมือทางการเมือง หลังมีการคาดการณ์ว่า เจ้าตัวอาจจะลงสมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี ในศึกเลือกตั้งครั้งนี้ด้วยเช่นกัน เนื่องจากเขาไม่สามารถลงชิงเก้าอี้ ผู้นำสูงสุดได้เป็นสมัย 2 ตามรัฐธรรมนูญฟิลิปปินส์ ที่ กำหนดให้ ประธานาธิบดี อยู่ในตำแหน่งได้เพียงสมัยเดียว ด้วยวาระ 6 ปี

ขณะเดียวกันเมื่อเดือนก่อน ผลการหยั่งเสียงชาวปินอยส์ (ฟิลิปปินส์) ชี้ว่า นาง ดูเตร์เต-คาร์ปิโอ บุตรสาวของประธานาธิบดีนั้นมีคะแนนนำ แม้ว่าเธอจะไม่ได้ประกาศลงสมัครในขณะนี้ก็ตามที แต่ก็ยังมีคู่แข่งอื่นๆที่น่าจับตาไม่น้อยเช่นกัน

ประเทศ ฟิลิปปินส์ ซึ่งมีประชากร 109.6 ล้านคน (ปี 2563) แต่จะมีเพียง 63 ล้านคน สามารถออกมาใช้สิทธิ์เลือกประธานาธิบดี ในวันที่ 9 พ.ค. ปีหน้า บรรยากาศการเมืองในฟิลิปปินส์ส่อเค้าดุเดือดอย่างยิ่ง หลังผ่านเส้นตายลงทะเบียนรับสมัครไปเมื่อวันที่ 8 ต.ค.64 ปรากฏว่ามีผู้สมัครลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างน้อย 50 คน ในจำนวนนี้ มีบุคคลสำคัญ ที่น่าสนใจได้แก่
1.นาง ดูเตร์เต-คาร์ปิโอ ลูกสาวของ ดูเตร์เต้ ปธน.คนปัจจุบัน ซึ่งเป็นนายกเทศมนตรีเมืองดาเวาขณะนี้ (แต่ยังไม่ได้สมัครผู้ท้าชิง)
2. นายเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ หรือ “บองบอง” บุตรชายอดีตผู้นำเผด็จการ เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ที่ถูกประวัติศาสตร์ตราหน้าว่า เป็น ทรราชย์
3.นาง เลนี โรเบรโด รองประธานาธิบดีคนปัจจุบันของฟิลิปปินส์
4. แมนนี ปาเกียว อดีตนักชกขวัญใจประชาชน และตำนานยอดมวยโลก 8 พิกัดรุ่น
5. อิสโก โมเรโน นายกเทศมนตรีกรุงมะนิลา
6. แพนฟิโล แลคสัน อดีตผู้บัญชาการตำรวจ


ตามกระแสข่าวดินแดนตากาล็อก สื่อจำนวนไม่น้อย แนะให้จับตาลูกสาวดูเตร์เตกลับลำ โดย นางซารา ดูเตร์เต-คาร์ปิโอ บุตรสาวประธานาธิบดีล่าสุด ประกาศชัดว่าเธอจะไม่ลงสมัครชิงเก้าอี้ต่อจากบิดา ทว่าจะลงชิงเก้าอี้นายกเทศมนตรีเมืองดาเวา เป็นสมัยที่ 3 และเป็นสมัยสุดท้าย แม้กระนั้นตามกฏหมาย ยังอนุโลมให้ผู้สมัคร สามารถถอนตัวได้จนถึงวันที่ 15 พ.ย.21

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา มีการจัดทำโพลสำรวจโดย Pulse Asia เผยว่า นางซารา ดูเตร์เต-คาร์ปิโอ จะมีคะแนนนำ หากว่าเธอประกาศลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ

อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายกำลังจับตาว่า เธออาจใช้ช่องโหว่ของกติกาแบบที่บิดาของเธอเคยทำ ด้วยการเปลี่ยนใจลงสมัครในนาทีสุดท้าย ซึ่งหลายคนเชื่อว่าเธอน่าจะทำแน่ เพราะกำลังถูกกดดันให้ต้องรักษาอำนาจไว้เพื่อปกป้องบิดาด้วยเอกสิทธิ์ทางการเมืองในอนาคต เนื่องจากศาลอาญาระหว่างประเทศกำลังไต่สวนกรณีการสังหารหมู่ภายใต้นโยบายปราบปรามยาเสพติดของผู้เป็นบิดา

“หมอซ้ง” นายณรงค์ เฮงตระกูล นักธุรกิจชาวไทย ผู้มีอาชีพ เป็นแมตช์เมคเกอร์ ติดต่อประสานมวยต่างประเทศ วัย 63 ปี จบนิติศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถือเป็นคนไทย ที่มีความคุ้นเคยใกล้ชิดกับ แมนนี่ ปาเกียว ตำนานยอดมวยโลกที่เพิ่งประกาศแขวนนวม มากที่สุดคนหนึ่ง (ไม่นับรวมพ่อครัวคนไทยในบ้านปาเกียว) เนื่องจากหมอซ้งเคยไปช่วยปาเกียวหาเสียงที่ฟิลิปปินส์ จนได้เป็น สส.สมัยแรก ทั้งยังได้ติดตาม สถานการณ์การเมืองอย่างใกล้ชิด ได้วิเคราะห์ให้ข้อมูลอีกว่า

นอกจาก คาร์ปิโอ บุตรสาวของ ดูเตร์เต แล้ว นายเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ หรือ “บองบอง” บุตรชายอดีตทรราชย์ เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ก็เป็นอีกตัวเต็ง ที่สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี หลายฝ่ายต่างจับตาว่าทายาทเผด็จการ พยายามหวนคืนสู่อำนาจของตระกูลมาร์กอส ก็มีโอกาสจะได้ทวงคืนตำแหน่งเดิมที่บิดาของตนเคยมีอำนาจมาแล้วด้วยเช่นกัน

บองบอง วัย 64 ปี อดีตสมาชิกวุฒิสภา เคยลงสมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี เมื่อปี 2559 แต่ประสบความพ่ายแพ้จนนำไปสู่การต่อสู้คดีในศาล โดยแพ้คะแนน นางเลนี โรเบรโด รองประธานาธิบดีคนปัจจุบัน แบบสูสี 2 แสนเสียงในโค้งสุดท้ายอย่างไม่น่าเชื่อ
บองบอง เคยตอบคำถามสาธารณชน เมื่อครั้งถูกสื่อแทงใจดำว่า เขาเป็นลูกทรราชย์แต่เหตุใดจึงกล้ากลับมาทวงอำนาจคืน โดยบองบอง ตอบว่า “นั่นเป็นเรื่องราวของคนรุ่นพ่อ ซึ่งผมไม่มีความเกี่ยวข้อง และไม่ได้เป็นผู้กระทำด้วย ผมจึงไม่สามารถขอโทษประชาชนได้ แต่ผมมีความจริงใจ และมั่นใจที่จะเข้ามาเพื่อช่วยเหลือประชาชน นั่นคือตัวตนของผมในวันนี้”

คู่แข่งสำคัญอีกรายที่น่าจับตาคือ นาง “เลนี โรเบรโด” ในวัย 56 ปี รองประธานาธิบดีคนปัจจุบัน เธอเป็นทนายความด้านสิทธิมนุษยชนและเป็นผู้นำฝ่ายค้านที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดีดูเตร์เต โดยเฉพาะการทำสงครามปราบปรามยาเสพติด
การลงสมัครครั้งนี้หลายฝ่ายมองว่า แม้เธอจะมีความเห็นด้านนโยบายบางเรื่องที่ไม่สอดคล้องกับ ดูเตร์เต โดยเฉพาะประเด็นสงครามยาเสพติด อย่างไรก็ตาม หากได้รับการเลือกตั้ง โรเบรโดน่าจะสานต่อนโยบายของผู้นำฟิลิปปินส์ได้ดี ในด้านการบริหารจัดการวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 และการฟื้นฟูเศรษฐกิจ

มาถึงคิวของ “แพ็คแมน” แมนนี่ ปาเกียว อดีตแชมป์โลก 8 พิกัดรุ่นผู้เป็นตำนานมวยโลกชาวเอเชีย ที่เพิ่งประกาศแขวนนวมเป็นทางการ เพื่อโดดเข้าชิงตำแหน่งผู้นำประเทศอย่างเต็มตัว โดยล่าสุดยังคงมีสถานะเป็น สมาชิกวุฒิสภา อยู่ด้วย

เรื่องนี้ “หมอซ้ง” นายณรงค์ เฮงตระกูล แมตช์เมคเกอร์ชาวไทย ผู้ประสานงานพานักมวยต่างประเทศมาชกในเมืองไทย ปัจจุบันอายุ 63 ปี ปูพื้นเรื่องว่า “ผมไปฟิลิปปินส์ครั้งแรกราวๆ ปี พ.ศ. 2532 พา ทรงชัย รัตนสุบรรณ กับ เสี่ยส่ง กาญจนชูศักดิ์ ไปเจรจา เอา เทรซี่ มาร์คาลอส มาป้องกันแชมป์โลก IBF รุ่น 108 ในเมืองไทย ก่อนแพ้คะแนนเสียแชมป์โลกให้ เมืองชัย กิตติเกษม ถึงทุกวันนี้ เดินทางไปมาอีกราวๆ 60 กว่าครั้ง ไปเดินเข้านอกออกในเหมือนเป็นญาติอยู่ในบ้านปาเกียว ก็เพราะเคยไปช่วยหาเสียง ปี ค.ศ.2010 ที่ แพ็คแมนได้เป็น สส.สมัยแรก จนสื่อมวลชนฟิลิปปินส์ลงสกู๊ปใหญ่ครึ่งหน้าหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับเรื่องราวคนไทยคนหนึ่งที่ไปช่วยยอดมวยโลกของเขาจนได้เป็น สส.”

ปาเกียว ปัจจุบัน วัย 42 ปี มีอาชีพคู่ขนานการชกมวย คือเป็นนักการเมือง เป็น สว. สังกัดพรรคพลังประชาธิปไตยประชาชนฟิลิปปินส์ หรือ PDP-Laban ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลในปัจจุบัน แต่ล่าสุดเขาได้ประกาศแขวนนวมและลงสู่สังเวียนการเมืองเต็มตัว
ปาเกียว ประกาศนโยบายขุดรากถอนโคนปัญหาคอร์รัปชัน และแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน ขณะที่แผนกลยุทธ์ดึงกลุ่มฐานเสียงที่เคยเชียร์มวยมาเทคะแนนให้เขา ซึ่งอาจจะได้ผลเหมือนที่สมัยเคยใช้มาแล้วครั้งลงสมัครสมาชิกสภาคองเกรส และ สมาชิกวุฒิสภา
อย่างไรก็ตาม ปาเกียว ลงทะเบียนภายใต้พรรค PROMDI พรรคการเมืองท้องถิ่นในจังหวัดเซบู ทั้งที่ยังดำรงตำแหน่งประธานพรรค PDP-Laban ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งจะพิจารณาเร็วๆนี้ว่าจะสามารถทำได้หรือไม่

หมอซ้ง กล่าวอีกว่า ในการชิงชัยเลือกผู้นำคนใหม่ในปีหน้านั้น นอกจากตัวเต็งที่กล่าวมา ก็ยังมี แฟนฟิโล แลคสัน อดีตผู้บัญชาการตำรวจ วัย 73 ปี ซึ่งเคยลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีมาแล้วเมื่อปี 2547 เขาเป็นที่รู้จักในฐานะอดีตผู้บัญชาการตำรวจ ผู้ประกาศว่าจะเข้าสู่ทำเนียบมาลากันยังด้วยนโยบายการปราบคอร์รัปชัน อาชญากรรมและปราบปรามยาเสพติด

หรือ อิสโก โมเรโน่ นายกเทศมนตรีกรุงมะนิลา วัย 46 ปี ผู้ประกาศตัวพร้อมเยียวยาทุกสิ่ง จากเด็กสลัม เก็บขยะและเศษอาหารมากินประทังชีวิต ก่อนเข้าสู่เส้นทางบันเทิงเป็นพระเอกหนัง และกลายเป็นนักการเมืองเต็มตัว ชูนโยบายว่าหากได้เข้ามาเป็นประธานาธิบดี เขาจะคงไว้ซึ่งนโยบายด้านโครงสร้างพื้นฐานของดูเตร์เต และจะเดินหน้าปราบปรามยาเสพติดโดยไม่ให้มีใครเสียเลือดเนื้อ

เมื่อมองภาพโดยรวมขณะนี้ นายณรงค์ ซึ่งเกาะติดสถานการณ์เช็คข่าวสารตามสื่อ รวมทั้งเพื่อนพ้องชาวฟิลิปปินส์อย่างใกล้ชิด รายงานว่า ขณะนี้ ทั้ง เลนี กับ บองบอง เป็นสองตัวเต็งที่มีคะแนนนิยมสูสีคู่คี่่กันมาก ขณะเดียวกัน ตัวเลือกอันดับ 3 รองลงมา ก็น่าจะเป็น ปาเกียว ยอดมวยโลก

ทั้งนี้ หมอซ้งให้เหตุผลว่า “สำหรับปาเกียว ถ้าผมเป็นที่ปรึกษาเขา คิดว่า จำเป็นที่จะต้องหยิบจุดขายในการที่ตนเคยเป็นคนยากจนมาก่อนและพร้อมจะใช้อดีตเหล่านั้นให้เป็นประโยชน์ ด้วยเหตุที่ตนเองย่อมจะเข้าใจพื้นฐานของคนรากหญ้าด้วยกันได้ดี และยิ่งต้องทำการบ้านออกตระเวณลงพื้นที่ให้มากที่สุด ซึ่งก็ยังมีเวลาอีกหลายเดือน ขณะเดียวกันจุดอ่อนสำคัญเลยก็คือ ปาเกียว ไม่เคยจับงานบริหารมาก่อนเลย แม้เขาจะเคยเป็น สส. และ สว. มาแล้ว แต่นั่นก็เพียงแค่ฝ่ายนิติบัญญัติ ในความเป็นจริงเขายังไม่เคยได้สัมผัสงานฝ่ายบริหารมาเลย ผิดกับคู่แข่งหลายคน”

ขณะเดียวกัน หมอซ้ง เปรียบเทียบให้ฟังอีกว่า “จากอดีตที่ผมเองเคยสัมผัสมา ในยุค เฟอร์ดินาน มาร์กอส เป็นผู้นำเผด็จการนั้น บ้านเมืองของเขาเจริญ แม้จะถูกเนรเทศขับไล่และตราหน้าว่า เป็นยุคที่มีการคดโกง และคอร์รัปปชั่นมากที่สุด แต่หลังจากนั้นมา ผมก็ไม่ได้เห็นว่า ฟิลิปปินส์ มีอะไรที่พัฒนาขึ้นในวันนี้ ผมยังจำได้ในยุคทรราชย์นั้น เศรษฐกิจที่นั่นดีมาก เงินดอลล่าร์สหรัฐ มีค่าแลกได้ 7 เปโซ ในขณะที่ปัจจุบัน 1 ดอลล่าร์ฯ มีค่าสูงถึง 50.48 เปโซ เมื่อยุค 30 กว่าปีที่แล้ว 1 บาทมีค่าพอๆกับเงิน 1 เปโซ แต่ปัจจุบันเปลี่ยนไปมาก 1 เปโซ เท่ากับ 0.66 บาท ที่ นครมะนิลา มีรถไฟฟ้าก่อนบ้านเรา เป็นนครใหญ่ที่เป็นรองแค่โตเกียว ของญี่ปุ่นเท่านั้น ช่วงราวปี พ.ศ.2510 มีคนไทยไปเรียนต่อที่ฟิลิปปินส์กันเยอะมาก ลองไปถาม น้าแอ๊ด คาราบาว ดู บ้านเมืองไปเละเทะ และการจราจรแออัดเหมือนอย่างในปัจจุบัน ถึงมาร์กอส จะถูกตราหน้าว่าเป็น ทรราชย์ แต่เลดี้เฟิร์ส ภรรยาของเขา ก็เคยเป็น ผู้ว่ากรุงมะนิลา และจัดหาที่อยู่ให้พวกจรจัดที่นอนอยู่ข้างถนนได้มีที่พักอาศัย สิ่งเหล่านี้ จึงเป็นเหตุเป็นผลให้น่าคิดว่า ยังมีผู้คนอีกไม่น้อยพร้อมจะสนับสนุนบองบอง ลูกของมาร์กอสให้กลับมามีอำนาจอีกครั้ง”

“ถามว่า แล้ว แมนนี่ มีความจริงใจที่จะรับใช้ประชาชนมากแค่ไหน ซึ่งตัวเขาเองต้องเข้าใจหัวใจคนจนได้ดีไม่น้อยกว่าใคร และต้องพยายามทุกวิถีทางเพื่อเอาชนะหัวใจคนจนเหล่านั้นให้ได้ ปาเกียว จึงจะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน