ปีศาจแดงหวิดเสียท่าอตาลันตา คริสเตียโน โรนัลโด สวมบทฮีโร่ยิงเบิ้ลช่วยเซฟแต้ม ขณะที่เสือใต้-ม้าลายชนะรวด เข้ารอบน็อกเอาต์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก เรียบร้อยแล้ว
การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน กลุ่มเอฟ “เทพธิดา”อตาลันตา จากอิตาลี เปิดสนามเกวิสส์ สเตเดียม รับการมาเยือนของ “ปีศาจแดง”แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จากอังกฤษ
- คอนเต เปิดใจหลังรับงานคุมทัพไก่เดือยทอง – เผยเหตุปัดข้อเสนอเมื่อช่วงซัมเมอร์
- เอเยนต์มุ่งพา เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ ย้ายร่วมทัพบาร์ซ่า
- นิวคาสเซิล เบนเป้า หวังดึง อูไน เอเมอรี นั่งแท่นกุนซือใหม่
เกมนี้เจ้าถิ่นจัด ดูบัน ซาปาตา, มาริโอ ปาซาลิช, โยซิป อิลิชิช ประสานงานกันในแนวรุก ส่วนทีมเยือนมี คริสเตียโน โรนัลโด, มาร์คัส แรชฟอร์ด, บรูโน แฟร์นานเดส เป็นตัวจริง
ครึ่งแรกนาที 12 ดูบัน ซาปาตา รับบอลได้ทางริมกรอบเขตโทาด้านซ้าย ก่อนจ่ายทะลุช่องมาตรงกลางให้ โยซิป อิลิชิช สับไกยิง บอลพุ่งเรียดทะลักผ่านเซฟนายทวารเข้าไป อตลาตันตานำ 1-0
นาที 45 บรูโน แฟร์นานเดส โฉบเข้าไปรับบอลในเขตโทษในจุดที่เหลือเพียงนายทวารขวางหน้าแล้ว แต่ตัดสินใจดีดย้อนหลังให้ คริสเตียโน โรนัลโด เป็นผู้ตะบันเสียบตาข่าย แมนฯ ยูไนเต็ดตีเสมอ 1-1 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลังนาที 56 โฮเซ ปาโลมิโน หยอดบอลจากครึ่งสนามข้ามแนวรับให้ ดูบัน ซาปาตา โฉบมารับในเขตโทษแล้วยิงผ่านนายทวารไม่เหลือ เดิมทีผู้ตัดสินเป่าเป็นลูกล้ำหน้า แต่เมื่อดูวีเออาร์แล้วจึงกลับคำให้เป็นประตู อตาลันตาจึงนำ 2-1
นาที 85 อตาลันตามีโอกาสลุ้น ดูบัน ซาปาตา ลองส่องจากระยะกว่า 30 หลา บอลพุ่งต่ำแถมมีเด้งพื้นตรงกรอบน่ากลัว ดาบิด เด เคอา พุ่งปัดทิ้งได้เยี่ยม
นาที 90+1 คริสเตียโน โรนัลโด พยายามเลี้ยงตัดเข้ากลาง แล้วโดนสกัดไปเข้าทาง เมสัน กรีนวูด เดาะคืนกลับให้โรนัลโดวอลเลย์จากบริเวณหัวกะโหลกหน้าเขตโทษ บอลพุ่งเสียบตาข่ายอย่างเฉียบคม แมนฯ ยูไนเต็ดตีเสมอ 2-2
นาที 90+4 แมนฯ ยูไนเต็ดมีลุ้นได้ประตูชัย เจดอน ซานโช จ่ายจากริมเส้นด้านซ้ายเข้าเขตโทษให้ ดอนนี ฟาน เดอ เบก สอดมารับแล้วยิงมุมแคบ แต่นายทวารยังเซฟได้ จบเกมทั้งคู่เสมอกันแบบระทึก 2-2
อีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน บียาร์เรอัล(สเปน) ชนะ ยัง บอยส์(สวิตเซอร์แลนด์) 2-0
ทำให้ผ่านไป 4 นัด แมนฯ ยูไนเต็ดกับบียาร์เรอัลเก็บไป 7 คะแนนเท่ากัน แต่แมนฯ ยูไนเต็ดนำจ่าฝูงเพราะเฮดทูเฮดดีกว่า อันดับ 3 อตาลันตา (5 คะแนน) และอันดับ 4 ยัง บอยส์ (3 คะแนน)
กลุ่มอี “เสือใต้”บาเยิร์น มิวนิก จากเยอรมนี เปิดบ้านถล่ม “เหยี่ยวลิสบอน”เบนฟิกา จากโปรตุเกส 5-2
เจ้าบ้านได้จาก โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ทำแฮตทริกนาที 26, 61 และ 84 นอกจากนี้ เจ้าตัวยังพลาดจุดโทษนาที 45 ส่วนลูกที่เหลือ แซร์ช กนาบรี นาที 32, เลอรอย ซาเน นาที 49 ด้านทีมเยือนได้จาก โมราโต นาที 38, ดาร์วิน นูนเญซ นาที 74
อีกคู่ ดินาโม เคียฟ(ยูเครน) แพ้ บาร์เซโลนา(สเปน) 0-1
ทำให้ผ่านไป 4 นัด บาเยิร์นชนะรวด กวาดไป 12 คะแนนเต็ม นำจ่าฝูงและการันตีเข้ารอบเรียบร้อย อันดับ 2 บาร์เซโลนา (6 คะแนน), อันดับ 3 เบนฟิกา (4 คะแนน), อันดับ 4 ดินาโม เคียฟ (1 คะแนน)
กลุ่มจี “หมาป่า”โวล์ฟสบวร์ก จากเยอรมนี เปิดบ้านชนะเรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก จากออสเตรีย 2-1
เกมนี้เจ้าถิ่นได้จาก ริเดล บากู นาที 3, ลูคัส เอ็นเมชา นาที 60 ส่วนทีมเยือนได้จาก มักซิมิเลียน โวเบอร์ นาที 30
อีกคู่ เซบียา(สเปน) แพ้ ลีลล์(ฝรั่งเศส) 1-2
หลังผ่าน 4 นัด ซัลซ์บวร์กเก็บไป 7 คะแนน นำจ่าฝูง ตามด้วยอันดับ 2 ลีลล์ (5 คะแนน), อันดับ 3 โวล์ฟสบวร์ก (5 คะแนน), อันดับ 4 เซบียา (3 คะแนน)
กลุ่มเอช “ม้าลาย”ยูเวนตุส จากอิตาลี เปิดบ้านชนะเซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก จากรัสเซีย 4-2
เกมนี้เจ้าบ้านได้จาก เปาโล ดีบาลา นาที 11 และ 58(จุดโทษ), เฟเดริโก เคียซา นาที 74, อัลบาโร โมราตา นาที 82 ส่วนทีมเยือนได้จาก เลโอนาร์โด โบนุชชี นาที 26(ทำเข้าประตูตัวเอง), ซาร์ดาร์ อัซมูน นาที 90
อีกคู่ มัลโม(สวีเดน) แพ้ เชลซี(อังกฤษ) 0-1
ผ่านไป 4 นัด ยูเวนตุสชนะรวด เก็บไป 12 คะแนนเต็ม นำจ่าฝูงและการันตีเข้ารอบแล้ว อันดับ 2 เชลซี (9 คะแนน), อันดับ 3 เซนิตฯ (3 คะแนน), อันดับ 4 มัลโม (0 คะแนน)
