เสือใต้ฟอร์มโหดชนะรวด 6 นัด แถมทำให้บาร์เซโลนาไม่มีส่วนร่วมรอบน็อกเอาต์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ในรอบ 18 ปี ส่วนเชลซีเจ๊าส่งท้าย หล่นไปรองแชมป์กลุ่ม

การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม กลุ่มอี “เสือใต้”บาเยิร์น มิวนิก จากเยอรมนี เปิดสนามอัลลิอันซ์ อารีนา รับการมาเยือนของ “เจ้าบุญทุ่ม”บาร์เซโลนา จากสเปน

เกมนี้เจ้าบ้านส่ง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี, โธมัส มุลเลอร์, จามาล มูเซียลา ลงสนาม ส่วนทีมเยือนใช้งาน เมมฟิส เดอปาย, แซร์จินโญ เดสต์, อุสมาน เดมเบเล

ครึ่งแรกนาที 34 โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี โยกหลอกคู่แข่งทางด้านซ้ายของกรอบเขตโทษ ก่อนงัดลอยไปให้ โธมัส มุลเลอร์ ขึ้นโขกย้อยข้ามเส้นประตูไป โรนัลด์ อเราโฮ ตามมางัดออกแต่ไม่ทัน บาเยิร์นออกนำ 1-0

นาที 43 คิงสเลย์ โกม็อง พาบอลบุกขึ้นมาแล้วส่งให้ เลอรอย ซาเน ตะบันด้วยซ้ายจากระยะร่วม 30 หลา บอลพุ่งผ่านมือนายทวารเสียบตาข่ายสวยงาม บาเยิร์นจึงทิ้งห่าง 2-0

ครึ่งหลังนาที 62 อัลฟอนโซ เดวิส หลุดเข้าด้านซ้ายของเขตโทษ กระชากผ่านนักเตะบาร์เซโลนาแล้วตบให้ จามาล มูเซียลา ตวัดยิงเข้าไป บาเยิร์นทิ้งห่าง 3-0

หลังจากนั้นไม่ค่อนมีจังหวะหวาดเสียวเกิดขึ้นมากนัก จบเกมบาเยิร์นเป็นฝ่ายชนะอย่างขาดลอย 3-0

อีกคู่ในกลุ่มนี้ เบนฟิกา (โปรตุเกส) ชนะ ดินาโม เคียฟ (ยูเครน) 2-0

ทำให้จบ 6 นัด บาเยิร์นชนะรวดและคว้าแชมป์กลุ่ม (18 คะแนน) ตามด้วยอันดับ 2 เบนฟิกา (8 คะแนน) ทั้งคู่เข้ารอบต่อไป ส่วนอันดับ 3 บาร์เซโลนา (7 คะแนน) ไปยูฟ่า ยูโรปา ลีก และอันดับ 4 ดินาโม เคียฟ (1 คะแนน) ตกรอบ

ทั้งนี้ บาร์เซโลนาต้องพลาดมีส่วนร่วมกับรอบน็อกเอาต์รายการนี้เป็นหนแรกในรอบ 18 ปี นับตั้งแต่ฤดูกาล 2003-04 ซึ่งตอนนั้้น “เจ้าบุญทุ่ม” ทำได้เพียงคว้าโควต้าไปเล่นยูฟ่า คัพ

ส่วนกลุ่มเอฟ “ปีศาจแดง”แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จากอังกฤษ เสมอกับยัง บอยส์ จากสวิตเซอร์แลนด์ 1-1

เจ้าบ้านได้ประตูจาก เมสัน กรีนวูด นาที 9 ส่วนทีมเยือนได้จาก ฟาเบียน รีเดอร์ นาที 42

อีกคู่ระหว่างอตาลันตา (อิตาลี) พบกับบียาร์เรอัล (สเปน) ต้องเลื่อนไปเตะวันที่ 9 ธันวาคม เนื่องจากสภาพอากาศไม่ดีมีหิมะตกหนัก

สถานการณ์ล่าสุด แมนฯ ยูไนเต็ดได้แชมป์กลุ่มและเข้ารอบเรียบร้อย (ลงเตะ 6 นัด เก็บไป 11 คะแนน) ขณะที่ยัง บอยส์ จบอันดับ 4 (6 นัด 5 คะแนน) ตกรอบแค่นี้

ส่วนอันดับ 2 บียาร์เรอัล (5 นัด 7 คะแนน) และอันดับ 3 อตาลันตา (5 นัด 6 คะแนน) ต้องแย่งตั๋วอีกใบในนัดตกค้างดังกล่าว

กลุ่มจี “หมาป่า”โวล์ฟสบวร์ก จากเยอรมนี แพ้คารังต่อลีลล์ จากฝรั่งเศส 1-3

เจ้าบ้านได้ประตูจาก เรนาโต สเตฟเฟน นาที 89 ส่วนทีมเยือนได้จาก บูรัก ยิลมาซ นาที 11, โจนาธาน เดวิด นาที 72, แองเจิล โกเมส นาที 78

อีกคู่ เรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก (ออสเตรีย) ชนะ เซบียา (สเปน) 1-0

ทำให้จบ 6 นัด ลีลล์คว้าแชมป์กลุ่ม (11 คะแนน) ตามด้วยอันดับ 2 ซัลซ์บวร์ก (10 คะแนน) เข้ารอบทั้งคู่ ส่วนอันดับ 3 เซบียา (6 คะแนน) ไปยูฟ่า ยูโรปา ลีก และอันดับ 4 โวล์ฟสบวร์ก (5 คะแนน) ตกรอบ

กลุ่มเอช เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก จากรัสเซีย เปิดบ้านเสมอ “สิงโตน้ำเงินคราม”เชลซี แชมป์เก่าจากอังกฤษ 3-3

เจ้าบ้านได้ประตูจาก เคลาดินโญ นาที 38, ซาร์ดาร์ อัซมูน นาที 41, มาโกเมด ออซโดเยฟ นาที 90 ส่วนทีมเยือนได้จาก ติโม แวร์เนอร์ นาที 2 และ 85, โรเมลู ลูกากู นาที 62

อีกคู่ ยูเวนตุส (อิตาลี) ชนะ มัลโม (สวีเดน) 1-0

ทำให้จบ 6 นัด ยูเวนตุสได้แชมป์กลุ่ม (15 คะแนน) ตามด้วยอันดับ 2 เชลซี (13 คะแนน) เข้ารอบทั้งคู่ ส่วนอันดับ 3 เซนิตฯ (5 คะแนน) ไปยูฟ่า ยูโรปา ลีก และอันดับ 4 มัลโม (1 คะแนน) ตกรอบ

สรุปทีมที่ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย

แชมป์กลุ่ม : แมนเชสเตอร์ ซิตี้, ลิเวอร์พูล, อาแจ็กซ์, เรอัล มาดริด, บาเยิร์น มิวนิก, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ลีลล์, ยูเวนตุส

รองแชมป์กลุ่ม : ปารีส แซงต์ แชร์กแมง, แอตเลติโก มาดริด, สปอร์ติง ลิสบอน, อินเตอร์ มิลาน, เบนฟิกา, เรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก, เชลซี

สำหรับการจับสลากประกบคู่จะมีขึ้นในวันที่ 13 ธันวาคม เวลา 18.00 น. ของประเทศไทย โดยทีมแชมป์กลุ่มจะเจอกับรองแชมป์กลุ่ม ซึ่งทีมจากกลุ่มเดียวกันหรือจากชาติเดียวกันจะไม่เจอกันในรอบนี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน