เชลซีโชว์แกร่งสอนเชิงทีมจากนอกลีก เลสเตอร์ไว้ลายแชมป์เก่า เอฟเอ คัพ เปิดรังถลุงวัตฟอร์ด ส่วนเบิร์นลีย์และนิวคาสเซิลแพ้คารังจอดป้ายแค่รอบสาม

การแข่งขันฟุตบอล เอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบสาม เมื่อวันที่ 8 มกราคม “สิงโตน้ำเงินคราม”เชลซี รองแชมป์เก่าจากพรีเมียร์ลีก เปิดสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ รับการมาเยือนของเชสเตอร์ฟิลด์ จากเนชันแนล ลีก

เกมนี้เจ้าบ้านจัด โรเมลู ลูกากู, ติโม แวร์เนอร์, ฮาคิม ซิเยช นำเกมรุก ส่วนทีมเยือนมี คาบองโก ชิมันกา, เจมส์ เคลเลอร์แมน, ไซดู ข่าน เป็นตัวจริง

เริ่มเกมมาเพียง 6 นาที ฮาคิม ซิเยช ได้บอลด้านขวาของกรอบเขตโทษ แล้วยิงติดเซฟนายทวารที่ถลันออกมาบล็อก แต่ลูกยังกระดอนไปหา ติโม แวร์เนอร์ ยิงซ้ำเผาขนเข้าสู่ก้นตาข่ายที่ว่างเปล่า เชลซีจึงออกนำ 1-0

นาที 11 เชลซีมีลุ้นอีก ฮาคิม ซิเยช โยกหนีคู่แข่งทางริมด้านขวาของกรอบเขตโทษ แล้วสับไกยิงเข้าไปทั้งแบบนั้น นายทวารต้องออกแรงทุบทิ้ง

นาที 18 คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย รับบอลได้ทางริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนลากตัดเข้ากลางแล้วปั่นจากระยะประมาณ 25 หลา บอลลอยผ่านมือนายทวารเข้าเสาสอง เชลซีทิ้งห่างเป็น 2-0

นาที 20 ลูอิส ฮอลล์ อาศัยความขยันไล่ตามบีบผู้เล่นเชสเตอร์ฟิลด์จนแย่งบอลได้ทางฝั่งซ้าย ก่อนตบเข้ากลางให้ โรเมลู ลูกากู เข้าชาร์จไม่มีเหลือ เชลซีบวกเพิ่มเป็น 3-0

นาที 39 ลูอิส ฮอลล์ สับไกยิงบริเวณหัวกะโหลกหน้าเขตโทษ นายทวารปัดแล้วเด้งมาเข้าทาง แอนเดรียส คริสเตนเซน โหม่งซ้ำลอยโด่งย้อยเข้าไป เชลซีทิ้งห่าง 4-0 และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังนาที 48 เชลซีเกือบบวกเพิ่ม ฮาคิม ซิเยช ลากแหวกผู้เล่นเชสเตอร์ฟิลด์มาถึงหัวกะโหลกหน้าเขตโทษแล้วสับไกยิง นายทวารยังทุบทิ้งไปได้

นาที 54 คริสเตียน ปูลิซิช พยายามเจาะเข้าทางด้านขวาของกรอบเขตโทษแล้วโดน คัลวิน มิลเลอร์ สกัดล้มลง ผู้ตัดสินให้จุดโทษเชลซี ฮาคิม ซิเยช สังหารเข้าไปเป็น 5-0

นาที 76 ติโม แวร์เนอร์ หลุดเข้าเขตโทษแล้วปาดต่อให้ ไค ฮาเวิร์ตซ์ สไลด์ตัวจิ้มเข้าไป แต่ผู้กำกับเส้นยกธงล้ำหน้าตั้งแต่จังหวะของแวร์เนอร์แล้ว เชลซีชวดได้ประตูเพิ่ม

นาที 80 คาบองโก ชิมันกา โยกผ่านแนวรับเชลซีจนได้เข้าไปยิงในพื้นที่เขตโทษ นายทวารเชลซีเซฟแล้วกระฉอกมาให้ อควาซี อซานเต ซ้ำเผาขนไม่เหลือ เชสเตอร์ฟิลด์ไล่มา 1-5 ก่อนจะจบเกมด้วยสกอร์นี้ในที่สุด เชลซีผ่านเข้ารอบสี่ต่อไป

ส่วนคู่ที่ทีมพรีเมียร์ลีกเจอกันเอง “สุนัขจิ้งจอก”เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมแชมป์เก่า เปิดบ้านถล่ม “แตนอาละวาด”วัตฟอร์ด 4-1

เจ้าบ้านได้ประตูจาก ยูรี ตีเลอมันส์ นาที 7(จุดโทษ), เจมส์ แมดดิสัน นาที 25, ฮาร์วีย์ บาร์นส์ นาที 54, มาร์ก อัลไบรตัน นาที 85 ส่วนทีมเยือนได้จาก เชา เปโดร นาที 27

ด้านทีมจากพรีเมียร์ลีกที่จอดป้ายแค่รอบนี้ เบิร์นลีย์แพ้คาบ้านต่อฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ (แชมเปียนชิพ) 1-2 และนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด แพ้คาบ้านต่อเคมบริดจ์ ยูไนเต็ด (ลีก วัน) 0-1

ผลคู่อื่น

แมนส์ฟิลด์ ทาวน์ (ลีก ทู) 2-3 มิดเดิลสโบรห์ (แชมเปียนชิพ)

โคเวนทรี ซิตี้ (แชมเปียนชิพ) 1-0 ดาร์บี เคาน์ตี (แชมเปียนชิพ)

ฮาร์ตลีพูล ยูไนเต็ด (ลีก ทู) 2-1 แบล็กพูล (แชมเปียนชิพ)

บริสตอล ซิตี้ (แชมเปียนชิพ) 0-0 ฟูแลม (แชมเปียนชิพ) ***ต่อเวลาบริสตอลแพ้ 0-1***

มิลล์วอลล์ (แชมเปียนชิพ) 1-2 คริสตัล พาเลซ (พรีเมียร์ลีก)

บอแรม วูด (เนชันแนล ลีก) 2-0 เอเอฟซี วิมเบิลดัน (ลีก วัน)

เวสต์บรอมวิช อัลเบียน (แชมเปียนชิพ) 1-1 ไบรตัน (พรีเมียร์ลีก) ***ต่อเวลาเวสต์บรอมวิชแพ้ 1-2***

คิดเดอร์มินสเตอร์ แฮร์เรียร์ส (เนชันแนล ลีก นอร์ท) 2-1 เรดดิง (แชมเปียนชิพ)

พอร์ทเวล (ลีก ทู) 1-4 เบรนต์ฟอร์ด (พรีเมียร์ลีก)

วีแกน แอธเลติก (ลีก วัน) 3-2 แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส (พรีเมียร์ลีก)

บาร์นสลีย์ (แชมเปียนชิพ) 4-4 แบร์โรว์ (ลีก ทู) ***ต่อเวลาบาร์นสลีย์ชนะ 5-4***

ปีเตอร์โบโรห์ ยูไนเต็ด (แชมเปียนชิพ) 2-1 บริสตอล โรเวอร์ส (ลีก ทู)

ควีนส์พาร์ก เรนเจอร์ส (แชมเปียนชิพ) 0-0 ร็อตเธอร์แฮม ยูไนเต็ด (ลีก วัน) ***ต่อเวลาเสมอ 1-1 ควีนส์พาร์กชนะจุดโทษ 8-7***

สวอนซี ซิตี้ (แชมเปียนชิพ) 1-1 เซาธ์แฮมป์ตัน (พรีเมียร์ลีก) ***ต่อเวลาสวอนซีแพ้ 2-3***

ฮัลล์ ซิตี้ (แชมเปียนชิพ) 2-2 เอฟเวอร์ตัน (พรีเมียร์ลีก) ***ต่อเวลาฮัลล์แพ้ 2-3***

เบอร์มิงแฮม ซิตี้ (แชมเปียนชิพ) 0-0 พลีมัธ อาร์ไกล์ (ลีก วัน) ***ต่อเวลาเบอร์มิงแฮมแพ้ 0-1***

เยโอวิล ทาวน์ (เนชันแนล ลีก) 1-3 บอร์นมัธ (แชมเปียนชิพ)

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน