ราล์ฟ รังนิก ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชี้การเปลี่ยนแผนในช่วงครึ่งหลังเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้บุกเอาชนะ เบรนต์ฟอร์ด พร้อมแจงเหตุผลในการเปลี่ยนตัว คริสเตียโน โรนัลโด ออก
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับมาคืนฟอร์มเก่งอีกครั้ง หลังบุกเอาชนะ เบรนต์ฟอร์ด 3-1 จากประตูในช่วงครึ่งหลังทั้งหมดของ อันโธนี อีลันกา นาที 55, เมสัน กรีนวูด นาที 62 และ มาร์คัส แรชฟอร์ด นาที 77 ส่วนเจ้าถิ่นได้ลูกยิงตีไข่แตกจาก ไอแวน โทนีย์ นาที 85
- ปีศาจแดงบุกหลอนเบรนต์ฟอร์ดศึก พรีเมียร์ลีก เจ้าหนูอีลันกาประเดิมยิงทีมชุดใหญ่
- ตกค้างเพียบ พรีเมียร์ลีก เตรียมแก้มาตรการขอเลื่อนแมตช์แข่งขัน
- ทีมลีกซาอุฯ ยื่นข้อเสนอคว้า โอบาเมยอง เสริมแดนหน้า
จากผลดังกล่าวทำให้ “ปีศาจแดง” เก็บเพิ่มเป็น 35 คะแนน อยู่อันดับ 7 ของตาราง ส่วน “ผึ้งน้อย” หยุดอยู่ที่ 23 คะแนน รั้งอันดับ 14 ของตาราง นอกจากนั้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังทำสถิติเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ที่เก็บชัยครบ 300 นัดในการเล่นทีมเยือนในพรีเมียร์ลีกด้วย
หลังการแข่งขัน รังนิก ระบุว่า การเปลี่ยนแท็กติกในช่วงครึ่งหลังคือกุญแจสำคัญที่ทำให้ทีมคว้าชัยในแมตช์นี้ “ผมจะไม่พูดว่าเราพูดคุยกันอย่างเข้มข้นในช่วงพักครึ่ง แต่ชัดเจนว่าเราต้องมีการเปลี่ยนแปลง ในครึ่งแรกเราทำได้ไม่ดีในทุกด้านของเกม การจ่ายบอลที่สะเปะสะปะ ความไม่แข็งแกร่งพอในจังหวะ 50-50 และเสียบอลตลอดเวลา”
“ในครึ่งหลัง เราเร่งรีบมากขึ้น เราโจมตีพวกเขาสูงขึ้นในสนาม เรากำลังอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องเมื่อเราโต้กลับ และเรายิงได้ นี่คือความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ นอกจากนั้นผมยังมีความสุขกับผู้เล่นดาวรุ่งทั้ง 3 คนที่ทำประตูได้ แต่เราต้องให้เครดิต บรูโน แฟร์นานเดส ที่เซตอัพได้เป็นอย่างดี”
Advertisement
นอกจากนั้นเฮดโค้ชชาวเยอรมัน ยังกล่าวถึงจังหวะที่เปลี่ยนตัว คริสเตียโน โรนัลโด กองหน้าชื่อดังออกในนาที 71 ซึ่งส่งผลให้ “ซีอาร์ เซเว่น” แสดงท่าทีไม่พอใจอย่างชัดเจนจนเจ้าตัวต้องรุดเข้าไปเคลียร์ในทันทีว่า “ปฏิกิริยาของเขาคือ ทำไมต้องเป็นผม ผมบอกเขาว่าต้องตัดสินใจเพื่อผลประโยชน์ของสโมสร เพราะเรามีสถานการณ์ที่ วิลลา ซึ่งเราขึ้นนำ 2-0 และเสมอ 2-2 และผมโกรธตัวเองที่ไม่เปลี่ยนไปเล่นหลังห้า
“ผมตัดสินใจเปลี่ยนไปเล่นกองหลัง 5 ตัวโดยส่ง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ลงมา เขาไม่มีความสุข เขาเป็นกองหน้า และต้องการอยู่ต่อไป รวมถึงทำประตู ผมบอกเขาว่าผมเข้าใจ และไม่มีปัญหากับเขาเลย”