การแข่งขันฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบสี่ เมื่อวันที่ 5 ก.พ. “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี จากพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เปิดบ้านรับการมาเยือนของ พลีมัธ สโมสรจาก ลีก วัน

เกมนี้แม้ว่าจะเป็นฟุตบอลถ้วยแต่เชลซียังจัดทัพแบบเต็บสูบ ใส่ทั้ง โรเมลู ลูกากู, ฮาคิม ซิเยก และ คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย ลงบู๊ในแดนหน้า ส่วนแดนกลางมี เมสัน เมาต์, จอร์จินโญ และ มาเตโอ โควาซิช

แต่เปิดฉากมาครึ่งแรกเป็นทีมเยือนพลีมัธที่ได้ประตูขึ้นนำก่อน จากจังหวะลูกตั้งเตะ จอร์แดน ฮอจ์ตัน เปิดเข้าไปในเขตโทษให้ แม็กกอลีย์ กิลเลสพีย์ โหม่งเข้าไป ในนาทีที่ 8

แต่หลังจากนั้นเจ้าบ้าน เชลซี ได้ประตูตีเสมอจากจังหวะที่ เมสัน เมาต์ ปาดเข้าเขตโทษให้ เชซาร์ อัซปิลิกูเอตา ซัดเข้าไป ในนาทีที่ 41 ก่อนจะจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ดังกล่าว

ครึ่งหลัง เชลซี มีโอกาสลุ้นประตูหลายครั้ง แต่ ไมเคิล คูเปอร์ นายด่านทีมเยือนโชว์ซูเปอร์เซฟหลายหน ช่วยให้ทีมรอดพ้นจากการเสียประตู และหมดเวลา 90 นาที ทั้งสองทีมยังเสมอกัน 1-1 ต้องไปดวลกันต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษ

ช่วงต่อเวลาพิเศษเชลซียังพยาบุกต่อเนื่อง และมาได้ประตูขึ้นนำ 2-1 จากจังหวะที่ ไค ฮาเวิร์ตซ์ รับบอลจาก ติโม แวร์เนอร์ หลุดไปสุดเส้นฝั่งซ้ายเขตโทษ ก่อนเปิดเข้ากลางให้ มาร์กอส อลอนโซ ยิงเข้าไป ในนาที 105+2

จากนั้นนาที 117 พลีมัธ ได้โอกาสทองจากลูกจุดโทษ แต่ ไรอัน ฮาร์ดี ยิงไปติดเซฟของ เกปา นายด่านเชลซีที่เซฟไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม

ช่วงที่เหลือไม่มีทีมไหนยิงเพิ่มได้ จบเกม เชลซี เฉือนชนะ พลีมัธ 2-1 ผ่านเข้ารอบ 5 เอฟเอ คัพ ได้สำเร็จ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน