พ่อบ้านบอลไทย นายพาทิศ สุภะพงษ์ ยืนยันช้างศึกชุดใหญ่ มีโปรแกรมอุ่นเครื่องฟีฟ่าเดย์เดือนมี.ค. ไม่ชัวร์คีร์กิสถาน มาเลเซีย รอคอนเฟิร์มอย่างเป็นทางการ
พ่อบ้านบอลไทย นายพาทิศ สุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เผยโปรแกรมฟีฟ่าเดย์ช่วงเดือนมี.ค. ระหว่าง 23-30 มี.ค. ทีมชาติไทยชุดใหญ่ ภายใต้การนำของ มาโน โพลกิง กุนซือใหญ่ชาวบราซิเลียน จะมีคิวอุ่นเครื่องแน่นอน
ก่อนหน้านี้ “มาดามแป้ง”นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมชาติไทย เผยว่า “เสือเหลือง”มาเลเซีย และคีร์กิสถาน ส่งหนังสือขอเดินทางมาอุ่นเครื่องกับทีมชาติไทย ที่ประเทศไทย แต่ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ
ล่าสุดนายพาทิศ สุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เผยว่า “อย่างที่ทราบว่าทีมชาติไทย รุ่นไม่เกิน 23 ปี เราตอบรับเข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลรายการพิเศษที่ดูไบ (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) ดังนั้นสมาคมจึงปรึกษากับคุณแป้งว่าทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ควรจะมีโปรแกรมอุ่นเครื่องเช่นเดียวกัน”
“ที่ผ่านมาเรามีทีมที่ติดต่ออยากให้ทีมชาติไทยไปอุ่นเครื่องด้วยหลายทีม เพราะหลายชาติมีมาตรการการเข้าประเทศในช่วงโควิด-19 ผ่อนปรนมากกว่าไทย แต่ด้วยการที่ไทยยังมีมาตรการการเข้า-ออกประเทศค่อนข้างเคร่งครัด การไปเล่นต่างประเทศอาจจะส่งผลกระทบกับนักเตะเมื่อกลับไทย และต้องเข้ากักตัวก่อนกลับสโมสร”
“เพื่อความสะดวกและปลอดภัยสำหรับทุกฝ่ายเราจึงตัดสินใจที่จะให้ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ อุ่นเครื่องในประเทศ ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า คีร์กิสถาน กับ มาเลเซีย ต้องการมาอุ่นเครื่องกับไทยนั้น ถึงตอนนี้ยังไม่มีการยืนยันว่าไทยจะอุ่นเครื่องกับสองทีมนี้หรือไม่ เพราะทั้งสองชาติมีแผนของตัวเองเช่นกัน”
“แต่เป็นที่แน่นอนแล้วว่าตอนนี้เรามีโปรแกรมอุ่นเครื่องสำหรับทีมชาติชุดใหญ่ ช่วงฟีฟ่าเดย์เดือนมี.ค. ซึ่งการเจรจาลุล่วงไปด้วยดีคาดว่าภายในสัปดาห์นี้จะประกาศอย่างเป็นทางการว่าทีมชาติไทยจะอุ่นเครื่องกับทีมใดบ้าง ซึ่งทางสมาคมฟุตบอลพยายามให้ทีมชุดใหญ่มีโปรแกรมอุ่นเครื่องอย่างน้อย 2 นัด”
“ส่วนทีม 23 ปี ซึ่งจะไปเตะฟุตบอลรายการพิเศษที่ดูไบ ตอนนี้ โค้ชโย่ง (วรวุธ ศรีมะฆะ) ได้ลิสต์รายชื่อนักเตะที่ต้องการใช้งานออกมาแล้ว และเตรียมจะส่งให้สโมสรต้นสังกัดพิจารณาปล่อยตัว เราเชื่อว่าด้วยช่วงฟีฟ่าเดย์เดือนมี.ค. ไม่มีโปรแกรมฟุตบอลลีกแข่งขัน น่าจะได้นักเตะชุดที่ดีที่สุดร่วมทัวร์นาเมนต์ครั้งนี้”
ทั้งนี้มีรายงานว่าทีมชาติชุดใหญ่จะลงอุ่นเครื่องสองนัด โดยนัดแรกจะเตะที่บีจี สเตเดียม รังเหย้าของบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ส่วนนัดที่สองจะย้ายสังเวียนแข้งไปที่ชลบุรี สเตเดียม บ้านของชลบุรี เอฟซี เนื่องจากต้องการให้แฟนบอลชาวไทยในต่างจังหวัดได้ชมเกมทีมชาติ ประกอบกับชาติที่มาอุ่นเครื่องไม่ต้องการเดินทางไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก
ขณะเดียวกันทีม 23 ปี มีการยืนยันว่าจะมีคิวเตะอย่างน้อย 3 นัด ประกอบด้วยวันที่ 23 มี.ค. จะพบกับกาตาร์ และวันที่ 26 มี.ค. จะพบกับโครเอเชีย หลังจากนั้นจะเป็นเกมสำหรับการจัดอันดับ ซึ่งทัวร์นาเมนต์ดูไบคัพ มี 8 ทีมเข้าร่วมแข่งขัน
นอกจากนี้รายงานยังระบุว่าทั้งทีมชาติไทย ชุดใหญ่ และทีมไม่เกิน 23 ปี ที่ลงสนามในช่วงฟีฟ่าเดย์จะมีการถ่ายทอดสดให้แฟนบอลชาวไทยได้รับชมด้วย โดยแม่ข่ายหลักคือ เอไอเอสเพลย์ ส่วนฟรีทีวียังอยู่ในช่วงการเจรจาสัญญา