การท่าเรือ เอฟซี ฟอร์มย่ำแย่ต่อเนื่องหลังจากออกไปพ่าย พีที ประจวบ 0-1 ในศึกรีโว ไทยลีก 2021/22 เมื่อวันที่ 5 มีนาคม ที่ผ่านมา
ก่อนเกมการท่าเรือ ให้ “เซอร์เด็จ” จเด็จ มีลาภ หวนกลับมาคุมทีมอีกครั้ง หลังจากที่ “โค้ชแขก” วีรยุทธ์ บินอับดุลเลาะมาน กุนซือขัดตาทัพติดโควิด-19 โดยรั้งอันดับ 8 มี 32 คะแนน ส่วน พีที ประจวบ อันดับ 14 มี 25 คะแนน อยู่ในโซนตกชั้น
เกมนี้ พีที ประจวบ มาได้ประตูขึ้นนำก่อน 1-0 ในนาที 18 จากจังหวะแฮนด์บอลของ วิลเลียม ไวเดอร์โซ ก่อนจะเป็น วิลเลน โมตา รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาด จากนั้น การท่าเรือ เป็นฝ่ายขึงเกมรุกเข้าใส่ เจ้าถิ่นอยู่ฝ่ายเดียว แต่ทำอะไรไม่ได้ ทำให้พ่ายไปในที่สุด โดย พีทีประจวบ ขยับขึ้นมามี 27 คะแนน รั้งอันดับ 12 พ้นจากโซนตกชั้น ส่วน การท่าเรือ แพ้ 4 นัดรวดแล้ว
อีกคู่ที่น่าสนใจ แบงค็อก ยูไนเต็ด เปิดบ้านพบ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เกมนี้ แบงค็อก เจ้าถิ่นได้ประตูออกนำก่อน จากการหลุดเข้าไปยิงแบบคมกริบของ ชนานันท์ ป้อมบุปผา ในนาที 37 จากนั้นทีมเยือน บีจี ต้องเหลือ 10 คนในช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก เมื่อ ดิโอโก หลุยส์ ซานโต ไปชักศอกใส่ ทริสตอง โด
กลับมาครึ่งหลัง บีจี ที่เหลือผู้เล่นน้อยกว่า เซอร์ไพรส์ตีเสมอได้สำเร็จ 1-1 จาก สุมัญญา ปุริสาย ในนาที 58
ช่วงเวลาที่เหลือ ทั้งสองทีมผลัดกันรุกรับอย่างสนุก แม้บีจี จะเหลือผู้เล่นน้อยกว่า แต่ฟอร์มโดยรวมไม่ได้ด้อยกว่า แต่จนแล้วจนรอดไม่มีประตูเพิ่ม จบ 90 นาที แบงค็อก ยูไนเต็ด เสมอ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 0-0 แบ่งแต้มกันไปทีมละ 1 แต้ม โดย แบงค็อก มี 40 คะแนน รั้งอันดับ 3 ส่วน บีจี ปทุม มี 42 คะแนน รั้งอันดับ 2
ส่วนคู่ บุรีรมย์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านรับการมาเยือน ราชบุรี มิตรผล เอฟซี เกมนี้ บุรีรัมย์ ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ใน นาที 38 จากจังหวะ ราฟาเอล แจนเซน ปราการหลังราชบุรี ทำฟาวล์ โจนาธาน โบลินกิ ในเขตโทษ และเป็น โบลินกิ รับหน้าที่สังหาร และไม่พลาด
จากนั้นเกมยังเป็น บุรีรัมย์ ที่ครองบอลได้มากกว่า ขณะที่ราชบุรี อาศัยเกมรับและโต้กลับ กระทั่งนาที 90 พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี มาซัดฟรีคิกสุดสวยปิดกล่องให้บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เอาชนะ ราชบุรี 2-0 ทำให้บุรีรัมย์ เก็บเพิ่มเป็น 54 คะแนน ขาดอีกเพียง 7 แต้มเท่านั้น จะคว้าแชมป์รีโว ไทยลีก แม้จะเหลือการแข่งขันอีก 6 นัด
สำหรับโปรแกรมนัดต่อไปของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะพบ ชลบุรี เอฟซี วันที่ 9 มีนาคม, พบ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด วันที่ 20 มีนาคม ไปเยือนขอนแก่น วันที่ 2 เมษายน
