การแข่งขันจักรยานทางไกลสตรีนานาชาติ “วีเมนส์ ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2022” ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในรูปแบบชีวิตวิถีใหม่ New Normal เส้นทางจังหวัดมุกดาหาร และนครพนม เมื่อวันที่ 9 เมษายน เป็นการแข่งขันสเตจที่ 2 เส้นทางเริ่มจากสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2-ผ่านภูจ้อก้อ-อำเภอคำชะอี-อำเภอนิคมคำสร้อย-อำเภอหนองสูง-เข้าเส้นชัยที่วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ ระยะทาง 134.20 กิโลเมตร
โดยได้รับเกียรติจาก นายเฉลิมพล มั่งคั่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ให้เกียรติเป็นประธานพิธีเปิดและปล่อยตัวนักกีฬา ร่วมกับ “เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่บริเวณเชิงสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2
นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจาก นายเอกราช มณีกรรณ์ ปลัดจังหวัดมุกดาหาร, นายพลสัณห์ อัมพะเศวต รองผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครพนม, นายนราวิช มณีฤทธิ์ นายอำเภอดงหลวง, ด.ต.วิเชียร พรมจันทร์ รองนายกเทศมนตรีเมืองมุกดาหาร, นางสาวนันทวัน วงษ์ประเสริฐ ผู้แทนจากการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.), นายเจริญชัย ทองขัน รองนายกเทศมนตรีตำบลบางทรายใหญ่ โดยสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ และยูทูบ ให้ชมตั้งแต่ต้นจนจบการแข่งขัน ซึ่งมียอดผู้ชมการแข่งขันทางเฟซบุ๊กไลฟ์ มากกว่า 420,000 วิว และยอดผู้ชมต่อเนื่องกว่า 3,800 คน
นายเฉลิมพล มั่งคั่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า การแข่งขันครั้งนี้นอกจากจะสร้างชื่อเสียงให้แก่จังหวัดมุกดาหารแล้ว ยังเป็นการสร้างรายได้มวลรวม ซึ่งสมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้นำพาเข้ามาทำให้เศรษฐกิจของจังหวัดมุกดาหารดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในเรื่องการท่องเที่ยว และธุรกิจโรงแรม อีกทั้งยังมีการเสนอข่าวในเชิงบวกทำให้ทั่วโลกได้รู้จักจังหวัดมุกดาหาร ต้องขอขอบคุณท่านพลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานฯ ที่มาสร้างคุณประโยชน์ให้แก่จังหวัดของเรา
ด้านผลการแข่งขันปรากฏว่า แชมป์ประจำสเตจที่ 2 ได้แก่ “แพร” สิบตรีหญิง เพชรดารินทร์สมราช นักปั่นอาชีพจากทีมไทยแลนด์ วีเมนส์ ไซคลิง ซึ่งปั่นหนีเดี่ยวมาตั้งแต่ 30 กิโลเมตรสุดท้าย แล้วมาปั่นขึ้นเขาที่ยอดภูมโนรมย์เข้าเส้นชัยเป็นคนแรก ด้วยเวลา 3.29.36 ชั่วโมง
จากผลงานอันยอดเยี่ยมของ ส.ต.หญิง เพชรดารินทร์ ที่สู้อย่างสุดหัวใจจนประทับใจแฟนกีฬาชาวไทยทั้งประเทศ พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานฯ จึงได้มอบเงินรางวัลพิเศษให้แก่ ส.ต.หญิง เพชรดารินทร์ จำนวน 50,000 บาท ในการทุ่มเทแรงกายแรงใจ นอกจากนี้ เพชรดารินทร์ ยังคว้ารางวัลผู้นำเวลารวม ด้วยเวลา 5.41.32 ชั่วโมง ได้ “เสื้อเหลือง” ไปครอง
ขณะที่อันดับที่ 2 เป็นของ ฮันนาห์ ซีลิเกอร์ นักปั่นจากทีมไซคลิง ดีวีลอปเม้นต์ ฟาวเดชั่น ของออสเตรเลีย เวลา 3.32.07 ชั่วโมง, อันดับที่ 3 ซีติ นูร์ อดิบาห์ อัคมาร์ โมฮัมหมัด ฟูอัด จากทีมชาติมาเลเซีย เวลา 3.32.18 ชั่วโมง
ส่วนผลนักปั่นไทยคนอื่น ๆ ที่น่าสนใจ อันดับที่ 4 น.ส.กมลรดา ขาวปลอด นักปั่นทีมชาติไทย เวลา 3.32.33 ชั่วโมง, อันดับที่ 7 พันตรีหญิง จันทร์เพ็ง นนทะสิน จากทีมไทยแลนด์ วีเมนส์ ไซคลิง เวลา 3.33.14 ชั่วโมง, อันดับที่ 13 น.ส.ปิยะธิดา ทิศจันทร์ จากทีมไทยแลนด์ วีเมนส์ ไซคลิง เวลา 3.37.10 ชั่วโมง ด้าน “ผู้กองบีซ” ร้อยเอกหญิง จุฑาธิป มณีพันธุ์ นักปั่นทีมชาติไทยที่ได้แชมป์สเตจแรก เข้าเส้นชัยอันดับที่ 26 เวลา 3.38.03 ชั่วโมง
รางวัลเจ้าความเร็ว หรือ Intermadiate Sprint (IS) มีทั้งหมด 2 จุด ดังนี้ IS1 เป็นของ ซูบีร์ นูร์ เอียสยาห์ โมฮาเหม็ด นักปั่นสาวทีมชาติมาเลเซีย โดยมี ร.อ.หญิง จุฑาธิป ได้อันดับที่ 3, IS2 ได้แก่ ธิ เควียน บุย จากทีมชาติเวียดนาม โดยมี น.ส.กมลรดา นักปั่นทีมชาติไทย ได้อันดับที่ 2, รางวัลเจ้าภูเขา หรือ KOM มี 2 จุด ผลปรากฏว่า KOM1 ได้แก่ ธิ เควียน บุย จากทีมชาติเวียดนาม ส่วน ส.ตงหญิง เพชรดารินทร์ ได้อันดับที่ 2 และ KOM2 ตกเป็นของ ส.ต.หญิง เพชรดารินทร์ ส่งผลให้ “แพร” คว้ารางวัลผู้นำคะแนนรวมเจ้าภูเขา มี 13 คะแนน ได้รับ “เสื้อม่วง” ไปครองอีก 1 ตัว
รางวัลผู้นำคะแนนรวมเจ้าความเร็ว ได้แก่ ธิ เควียน บุย จากทีมชาติเวียดนาม มี 32 คะแนน ได้ “เสื้อเขียว” ไปครอง โดยมี ร.อ.หญิง จุฑาธิป ตามมาเป็นอันดับ 2 มี 26 คะแนน, รางวัลแชมป์รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ประจำสเตจที่ 2 ได้แก่ ฮันนาห์ ซีลิเกอร์ นักปั่นจากทีมไซคลิง ดีวีลอปเม้นต์ ฟาวเดชั่น พร้อมทั้งคว้ารางวัลผู้นำเวลารวมอายุไม่เกิน 23 ปี ด้วยเวลา 5.44.06 ชั่วโมง ได้ “เสื้อม่วง” ไปครอง โดยมี น.ส.กมลรดา ตามมาเป็นอันดับ 2 ด้วยเวลา 5.44.37 ชั่วโมง นอกจากนี้ ฮันนาห์ ซีลิเกอร์ ยังได้ตำแหน่งนักกีฬาบู๊ยอดเยี่ยมประจำสเตจที่ 2 อีกหนึ่งรางวัล
เวลารวมประเภททีม อันดับที่ 1 ทีมไทยแลนด์ วีเมนส์ ไซคลิง เวลา 17.16.18 ชั่วโมง, อันดับที่ 2 ทีมไซคลิง ดีวีลอปเม้นต์ ฟาวเดชั่น ของออสเตรเลีย 17.22.46 ชั่วโมง, อันดับที่ 3 ทีมชาติมาเลเซีย เวลา 17.23.10 ชั่วโมง ขณะที่ผลการแข่งขันทั้งหมดสามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ของสมาคมฯ www.thaicycling.or.th
หลังการแข่งขัน พลเอกเดชา เปิดเผยว่า ต้องชื่นชม เพชรดารินทร์ ที่มีหัวใจนักสู้เต็มร้อย รวมทั้งนักปั่นคนอื่น ๆ ในทีมด้วย พวกเขาทำงานกันเป็นทีม ทั้งทีมไทยแลนด์ วีเมนส์ ไซคลิง และทีมชาติไทย ขณะที่นักปั่นเวียดนามก็มีความแข็งแกร่งมาก ตอนแรกคิดว่า เหงียน ธิ ทัต ไม่ได้ร่วมทีมมาด้วย คงจะไม่น่ากลัวสักเท่าใด แต่พอ ธิ เควียน บุย ได้เจ้าความเร็ว IS2 ก็รู้สึกว่าไม่น่าไว้วางใจแล้ว สตาฟฟ์โค้ชเลยเปลี่ยนแผนสั่งให้ เพชรดารินทร์ หนีออกไปช่วง 30 กิโลเมตรสุดท้าย เพราะถ้ามาสปรินต์สู้กันเราคงสู้เขาไม่ได้แน่ ตอนที่ เพชรดารินทร์ หนีออกไปเหลือ 15 กิโลเมตรก่อนถึงเส้นชัย ระยะห่างถูกบีบแคบเหลือ 1 นาทีเศษ ตนจึงให้สตาฟฟ์โค้ชบอกกับ เพชรดารินทร์ ว่าหากชนะสเตจนี้จะให้เงินอัดฉีด 30,000 บาท แต่ตอนหลังมาเพิ่มให้เป็น 50,000 บาท ซึ่ง เพชรดารินทร์ ก็สู้เต็มที่และทำได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม เพื่อนร่วมทีมคนอื่น ๆ ก็สู้เต็มที่กันทุกคน ต้องขอชื่นชมจากใจจริง ขอบคุณนักกีฬา ขอบคุณสตาฟฟ์โค้ชทุกคนที่ช่วยกันอย่างสุดความสามารถ
ด้าน ส.ต.หญิง เพชรดารินทร์ กล่าวว่า ดีใจมากที่คว้าแชมป์และคว้าเสื้อเหลืองมาครองได้สำเร็จ ขอมอบเป็นของขวัญวันสงกรานต์ให้แก่พี่น้องชาวไทยทุกคน ที่สำคัญขอขอบคุณท่านพลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานฯ ที่ให้โอกาสตนเองเข้าร่วมการแข่งขัน ขอบคุณสตาฟฟ์โค้ชและพี่น้องในทีมไทย วีเมนส์ ไซคลิง รวมไปถึงทีมชาติไทยทุกคน ที่ทำได้ตามแผน คือการรักษาเสื้อเหลืองเอาไว้ให้อยู่กับนักปั่นไทยจนกระทั่งจบการแข่งขัน ตอนที่ตนปั่นหนีออกมาช่วง 30 กิโลเมตรสุดท้ายรู้สึกกังวลใจพอสมควรว่าจะไหวหรือไม่ เพราะช่วงสุดท้ายต้องปั่นขึ้นเขา แต่พยายามบอกตัวเองว่านี่คือการแข่งขันไทม์ไทรอัลบุคคล คือแข่งกับตัวเองและทำเวลาให้ดีที่สุด ส่วนตอนที่ท่านนายกสมาคมฯ ประกาศอัดฉีด 50,000 บาท ก็สู้อย่างเต็มที่ เพราะเงินก้อนนี้เราจะไปแบ่งกันภายในทีม ทำให้มีกำลังใจขึ้นมามาก และขอขอบคุณกำลังใจจากพี่น้องชาวไทยทุกคนที่ติดตามเชียร์นักปั่นไทยทั้งชายและหญิง
สำหรับการแข่งขันสเตจที่ 3 ซึ่งเป็นสเตจสุดท้าย วันที่ 10 เมษายน ได้รับเกียรติจาก นายเฉลิมพล มั่งคั่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานปล่อยตัวนักกีฬา เวลา 09.00 น. เส้นทางเริ่มต้นจากสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2-ผ่านตลาดอินโดจีน-ผ่านหอแก้วมุกดาหาร-ภูผาเทิบ-ผ่านมัสยิดกลางมุกดาหาร-เข้าเส้นชัยที่สะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 2 ระยะทาง 83.30 กิโลเมตร.
