ศึกศักดิ์ศรี แดงเดือด หนนี้แทบไม่เห็นความสูสี หงส์แดงเป็นฝ่ายถล่มปีศาจแดงอีกครา แซงขึ้นจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก และเพิ่มโอกาสกวาดครบ 4 แชมป์ยิ่งกว่าเดิม
การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันที่ 19 เมษายน ศึกแดงเดือดหนที่ 209 นับเฉพาะเกมทางการ “หงส์แดง”ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟิลด์ รับการมาเยือนของ “ปีศาจแดง”แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เกมนี้เจ้าบ้านจัด โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน, หลุยส์ ดิอาซ ลงนำแนวรุก ส่วนทีมเยือนใช้ มาร์คัส แรชฟอร์ด, อันโธนี อีลังกา, บรูโน แฟร์นานเดส เป็นตัวจริง
เริ่มเกมมาแค่ 5 นาที โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลุดมาทางด้านขวาของเขตโทษแบบไม่มีคู่แข่งตามมาขวาง ก่อนจะปาดเข้ากลางให้ หลุยส์ ดิอาซ ยิงเข้าไปนิ่มๆ ลิเวอร์พูลนำ 1-0
นาที 7 แฟนบอลลิเวอร์พูลพร้อมใจร้องเพลง You’ll Never Walk Alone เพื่อร่วมแสดงความเสียใจต่อ คริสเตียโน โรนัลโด กองหน้าแมนฯ ยูไนเต็ด ที่เพิ่งสูญเสียลูกชายฝาแฝด ขณะที่แฟนแมนฯ ยูไนเต็ดก็ชูเสื้อแข่งที่มีชื่อดาวเตะรายนี้
นาที 10 แมนฯ ยูไนเต็ดต้องเปลี่ยนตัวคนแรก ปอล ป๊อกบา มีอาการบาดเจ็บถูกถอดออกมา โดยเป็น เจสซี ลินการ์ด ลงไปแทน
นาที 22 ลิเวอร์พูลต่อบอลกันอย่างแม่นยำฉับไว ก่อนจะเป็น ซาดิโอ มาเน ตวัดลอยข้ามแนวรับให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลุดเข้ามายิงในเขตโทษไม่เหลือ สกอร์ห่างเป็น 2-0
นาที 35 ฟาบินโญ พาบอลลุยเข้าไปยิงในเขตโทษโดนไม่เต็มเท้าไหลไปเข้าทาง หลุยส์ ดิอาซ ยิงเผาขนเข้าไป แต่ดิอาซอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าก่อน ลิเวอร์พูลชวดได้ประตูเพิ่ม จบครึ่งแรก “หงส์แดง” นำสบาย 2-0
ครึ่งหลังนาที 68 หลุยส์ ดิอาซ รับบอลทางด้านซ้ายของเขตโทษ แล้วจ่ายเข้ากลางให้ ซาดิโอ มาเน ตวัดยิงตุงตาข่าย ลิเวอร์พูลทิ้งห่าง 3-0
นาที 85 ดิโอโก โชตา แทงทะลุแนวรับให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลุดเข้าเขตโทษ ก่อนยิงติดขากองหลังที่สไลด์เข้ามาบล็อก บอลกลายเป็นดีลอยข้ามนายทวารเข้าสู่ก้นตาข่าย ลิเวอร์พูลชนะไปขาดลอย 4-0
ทำให้สถิติระหว่างคู่นี้ ลิเวอร์พูลขยับจำนวนชนะเพิ่มเป็น 70 นัด ที่เหลือเสมอกัน 58 นัด และแมนฯ ยูไนเต็ดชนะ 81 นัด
นอกจากนี้ ลิเวอร์พูลยังลงเตะไปแล้ว 32 นัด เก็บเพิ่มเป็น 76 คะแนน ขึ้นนำจ่าฝูงชั่วคราว เหนือกว่าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่แข่งน้อยกว่า 1 นัด มีอยู่ 74 คะแนน ส่วนแมนฯ ยูไนเต็ดลงสนาม 33 นัด นิ่งอยู่ที่ 54 คะแนน อยู่อันดับ 6
