รับบทนางรอง ที่ต่อให้พยายามเท่าไหร่ก็ทำได้แค่มอง สำหรับ “เงือกจอย” เจนจิรา ศรีสอาด นักว่ายน้ำสาวไทย ที่มักจะตกเป็นอันดับ 2 มาตลอดในเวทีระดับนานาชาติ โดยเฉพาะซีเกมส์

11 ปีนับตั้งแต่ ซีเกมส์ ครั้งแรกของเธอ เมื่อปี 2011 ที่อินโดนีเซีย เจนจิรา ที่แม้จะเป็นที่สุดของประเทศ แต่ในโลกกว้างนั้นไม่ใช่ เธอมีคู่แข่งตัวฉกาจที่มักจะโผล่มาขวางทางการเป็นสุดยอดนักว่ายน้ำ และความฝันเหรียญทอง

ความผิดเดียวของ เจนจิรา คือดันมาอยู่ในยุคเดียวกับสองนักว่ายน้ำชาวสิงคโปร์อย่าง กวาห์ ทิง เหวิน เจ้าของสถิติ 24 เหรียญทอง และ อแมนดา ริม ที่กวาดรวมไปแล้ว 11 เหรียญทอง ซึ่ง 8 เหรียญเงิน ที่เจนจิรา ทำได้ อาจจะมองว่าเป็นความสำเร็จที่มากเกินพอแล้วสำหรับนักว่ายน้ำคนหนึ่ง แต่อีกแง่มุมมันคือขีดจำกัดของตัวเองที่ไม่สามารถก้าวข้ามไปได้เสียที

เหรียญเงินในท่ากบ 50 เมตร ในปี 2019 คือเหรียญที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงที่สุด เพราะเธอแพ้ไปเพียงเสี้ยววินาที เท่านั้น ทำให้ในซีเกมส์ 2021 ที่เวียดนาม ท่ากบ 50 เมตร คือท่าที่เธอเน้นมาโดยตลอด แต่จนแล้วจนรอดเอาเข้าจริงเธอก็ยังตกเป็นที่ 2 อยู่ดี

แม้จะเหลือการแข่งขันอยู่ แต่ความหวังสูงสุดได้จบไปแล้ว 3 เหรียญเงินที่อยู่ในมือจาก กบ 50 เมตร ฟรีสไตล์ 100 เมตร และ ฟรีสไตล์ 4×100 เมตร คือสิ่งที่ตอกย้ำถึงขีดจำกัดของเธอ ก่อนจะลงว่ายในผีเสื้อ 50 เมตร เป็นรายการต่อไป โดยมีคู่แข่งอย่าง กวาห์ ทิง เหวิน ยืนขวางทางในลู่ข้างๆเหมือนเดิม
ราวกับเสียงปล่อยตัว คือสัญญานยุติความพยายามกว่า 11 ปี เพราะเจนจิรา ที่ลงว่ายด้วยความผ่อนคลาย ไม่คิดอะไร สามารถแตะขอบสระเป็นคนแรกได้สำเร็จ คว้าเหรียญทองซีเกมส์ ครั้งแรกในชีวิต

“ก่อนแข่งพยายามไม่กดดันตัวเอง เพราะกดดันเมื่อไหร่จะทำเวลาได้ไม่ดี ดีใจมากๆ เพราะเป็นเหรียญทองที่ต้องการมาโดยตลอด”

11 ปีที่รอคอย วันนี้ เงือกจอย เจนจิรา ปลดล็อกคว้าเหรียญทองให้กับตัวเองได้เรียบร้อยแล้ว และจากนี้หวังว่าเหรียญทองที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 จะตามมาเรื่อยๆ








Advertisement

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน