ฝรั่งเศสแชมป์เก่าศึกยูฟ่า เนชันส์ ลีก ฤดูกาลที่แล้ว ยังไม่อาจประเดิมชัยชนะได้ในฤดูกาลนี้ เมื่อเป็นฝ่ายนำโครเอเชียก่อน แต่ก็มาโดนจุดโทษตีเสมอ
การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า เนชันส์ ลีก เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน “ตาหมากรุก”โครเอเชีย รองแชมป์โลก 2018 เปิดสนามสตาดิโอน โปลยุด รับการมาเยือนของ “ตราไก่”ฝรั่งเศส แชมป์โลก 2018 และแชมป์รายการนี้เมื่อฤดูกาลก่อน
เจ้าบ้านจัด อันเต บูดิมีร์, โยวิป เบรกาโล, ลูกา โมดริช ลงสนาม ขณะที่ทีมเยือนนำโดย วิสซัม เบน เยดแดร์, คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู, มุสซา ดิยาบี
นาที 18 โครเอเชียมีโอกาสดี มาเตโอ โควาชิช แทงบอลทะลุแนวรับให้ อันเต บูดิมีร์ หลุดเข้ามาในเขตโทษ แต่จังหวะยิงช้าไปเลยโดนกองหลังตามมาบล็อก แล้วบอลแฉลบมาติดนายทวารออกหลัง
นาที 31 มุสซา ดิยาบี จ่ายบอลผ่านแนวรับให้ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู หลุดเข้าไปชิพผ่านนายทวารชนเสาเข้าสู่ก้นตาข่าย แต่ผู้กำกับเส้นยกธงล้ำหน้าไปก่อนแล้ว ฝรั่งเศสชวดขึ้นนำ
นาที 39 โอกาสเป็นของฝรั่งเศสอีกครั้ง คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู จ่ายบอลให้ มุสซา ดิยาบี สปีดแซงแนวรับเข้าไปยิงมุมแคบทางด้านขวาของเขตโทษ ผู้รักษาประตูยังเซฟไว้ได้
นาที 40 ฝรั่งเศสได้เสียวอีก ออเรเลียง ชูอาเมนี รับบอลจากเพื่อนแล้วตะบันอย่างถนัดถนี่จากระยะประมาณ 30 หลา นายทวารต้องพุ่งตัวทุบออกไป จบครึ่งแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0
ครึ่งหลังนาที 52 วิสซัม เบน เยดแดร์ ตักบอลทะลุแนวรับให้ อาดริยอง ราบิโอต์ สปีดหลุดเข้าทางด้านซ้ายของเขตโทษ ก่อนแปยัดเสาแรกผ่านมือนายทวารตุงตาข่าย ฝรั่งเศสนำ 1-0
นาที 70 โครเอเชียมีโอกาสตีเสมอ ลูกา โมดริช รับบอลจากเพื่อนแล้วล็อกผ่านคู่แข่ง ก่อนจะหาช่องยิงจากบริเวณเส้นหัวกะโหลกหน้าเขตโทษ ไมก์ เมนญอง ต้องพุ่งปัดทิ้ง
นาที 76 ฝรั่งเศสน่าได้ประตูเพิ่ม คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ตัดบอลได้บริเวณกลางสนามแล้วพาขึ้นหน้ามา ก่อนไหลให้ อองตวน กรีซมันน์ แตะเข้าไปยิงในเขตโทษโดยไร้คนขวาง โดมินิก ลิวาโควิช ยังเซฟช่วยทีมไว้ได้
นาที 80 มิสลาฟ ออร์ซิช แทงบอลทะลุช่องให้ ลูกา ซูชิช หลุดเข้าเขตโทษแล้วยิงไปติดบล็อกนายทวาร อังเดร ครามาริช เกี่ยวบอลได้แล้วโดน โฌนาต็อง โคลสส์ เกี่ยวล้มลง ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษ แต่ผู้กำกับเส้นยกธงล้ำหน้าจังหวะเล่นของซูชิช
ด้วยเหตุนี้ จึงต้องมีการพิจารณาวีเออาร์เกิดขึ้น ก่อนที่ผลจะกลายเป็นว่าโครเอเชียได้จุดโทษ ครามาริชรับหน้าที่สังหารเข้าไปนิ่มๆ “ตาหมากรุก” ตีเสมอ 1-1
นาที 87 โครเอเชียเกือบขึ้นนำ นิโคลา วลาซิช พาบอลเลี้ยงขึ้นมาแล้วยิงจากหน้าเขตโทษ ไมก์ เมนญอง ยังพุ่งปัดไว้ได้เยี่ยม จบเกมเสมอกันไป 1-1 ทำให้ผ่านไป 2 นัด ทั้งคู่ต่างยังไม่ชนะใคร มีอยู่ 1 คะแนนเท่ากัน
อีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน ออสเตรียเปิดสนามแอร์นส์ต-ฮัปเปิล-สตาดิโอน รับการมาเยือนของ “โคนม”เดนมาร์ก คู่นี้ต้องเริ่มเกมช้ากว่ากำหนดเดิมถึง 1 ชั่วโมง 30 นาที เนื่องจากระบบไฟฟ้าของสนามมีปัญหา
เกมนี้ออสเตรียแพ้คารังตัวเอง 1-2 เจ้าบ้านได้ประตูจาก ซาเวอร์ ชลาเกอร์ นาที 67 ส่วนทีมเยือนได้จาก ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก นาที 28, เยนส์ สตรีเกอร์ ลาร์เซน นาที 84
ทำให้ผ่าน 2 นัด เดนมาร์กชนะรวด เก็บไป 6 คะแนนเต็ม นำจ่าฝูง ส่วนออสเตรียมี 3 คะแนน
ผลคู่อื่น ลีกบี : ไอซ์แลนด์ เสมอ แอลเบเนีย 1-1 ลีกซี : เบลารุส เสมอ อาเซอร์ไบจาน 0-0, สโลวะเกีย แพ้ คาซัคสถาน 0-1 ลีกดี : ลัตเวีย ชนะ ลิกเตนสไตน์ 1-0, อันดอร์รา เสมอ มอลโดวา 0-0
