สมาคมลูกหนัง ไม่ประมาทหลังจากราชมังคลากีฬาสถาน ติดคอนเสิร์ตใหญ่ ตัดสินใจไม่ใช้เป็นรังเหย้าในรอบแรกชิงแชมป์อาเซียน เล็งหาสนามอื่นแทน
สมาคมลูกหนัง เดินหน้าเตรียมแผนสำรองเอาไว้แล้วกรณีที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน อาจฟื้นฟูไม่ทันสำหรับเอเอฟเอฟ มิตซูิบิชิ อิเล็กทริก คัพ 2022 เนื่องจากติดงานคอนเสิร์ตใหญ่ โดยเล็งสนามแข่งที่ไม่ต้องเดินทางไกล
หลังจากที่สหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน (เอเอฟเอฟ) จัดพิธีจับสลากแบ่งสายฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเล็กทริก คัพ 2022” ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดย “ช้างศึก”ทีมชาติไทย แชมป์เก่าภายใต้การคุมทัพของ มาโน โพลกิง หัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวบราซิเลียน เป็นทีมวาง ถูกจับไปอยู่ในสายเอ ร่วมกับฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย (รองแชมป์เก่า) กัมพูชา และทีมจากรอบคัดเลือก (บรูไน หรือติมอร์ เลสเต)
สำหรับฟุตบอลเอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเล็กทริก คัพ 2020 กำหนดจัดแข่งขันระหว่าง 20 ธ.ค.65 – 16 ม.ค.66 โดยทีมชาติไทย มีโปรแกรมรอบแบ่งกลุ่มประกอบด้วย นัดแรกวันที่ 20 ธ.ค. ออกไปเยือนทีมจากรอบคัดเลือก (บรูไน หรือ ติมอร์ เลสเต) จากนั้นนัดที่สอง จะกลับมาเล่นในบ้านวันที่ 26 ธ.ค. ด้วยการพบกับฟิลิปปินส์ ต่อด้วยนัดที่สาม จะออกไปเยือนอินโดนีเซีย วันที่ 29 ธ.ค. และนัดสุดท้ายรอบแรก จะเล่นในบ้านตัวเองพบกับกัมพูชา วันที่ 2 ม.ค.
อย่างไรก็ดีมีความเป็นไปได้ที่ในรอบแรกทัพช้างศึก จะไม่ได้ลงเล่นในบ้านตัวเองที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เนื่องจากช่วงเวลาที่ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียนลงแข่งขันจะคาบเกี่ยวกับคอนเสิร์ตใหญ่ระดับโลก ซึ่งจะจัดที่ราชมังคลากีฬาสถานเช่นดียวกัน ประกอบด้วยวันที่ 6 พ.ย. เป็นคอนเสิร์ตของ จัสติน บีเบอร์ จากนั้นวันที่ 10 ธ.ค. จะมีคอนเสิร์ตของ มารูนไฟฟ์ ทำให้ทีมชาติไทย ต้องเตรียมสนามสำรองเอาไว้สำหรับทัวร์นาเมนต์นี้
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายพาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ยอมรับว่าโอกาสที่รอบแรกไทยจะได้เล่นในราชมังคลากีฬาสถาน นั้นค่อนข้างยาก และมีความเป็นไปได้น้อยมาก เนื่องจากสนามผ่านงานใหญ่การจะฟื้นฟูกลับมาให้ทันแข่งขันคงเป็นไปไม่ได้ จึงต้องหาสนามสำรอง
“ตามระเบียบการแข่งขันทางเอเอฟเอฟ กำหนดไว้อยู่แล้วว่าแต่ละประเทศต้องมีสนามสำหรับแข่งเตรียมไว้อย่างน้อย 2 สนาม โดยของไทยเรามีราชมังคลากีฬาสถาน เป็นสนามหลักอยู่แล้ว และกำลังมองหาสนามสำรองอีกหนึ่งแห่ง ซึ่งจากการที่เราคุยกับมาโน โพลกิง (หัวหน้าผู้ฝึกสอน) ไม่อยากใช้สนามที่ต้องเดินทางไกลมากนัก เพราะการกลับมาจากเยือนทีมจากรอบคัดเลือก หรือเยือนอินโดนีเซีย เชื่อว่านักเตะจะมีอาการเหนื่อยล้า ดังนั้นเราต้องมองหาสนามสำรองที่ได้มาตรฐานและไม่ไกลมากนัก”
“ส่วนรอบแรกผมต้องยอมรับตรงนี้ว่าโอกาสที่เราจะได้เล่นที่ราชมังคลากีฬาสถาน นั้นเป็นไปได้ยากมาก เพราะว่าคอนเสิร์ตใหญ่จะมีในวันที่ 10 ธ.ค. ส่วนเรามีเกมในบ้านนัดแรกวันที่ 26 ธ.ค. แม้จะมีเวลาห่างกัน 10 กว่าวัน แต่โอกาสที่สภาพสนามจะฟื้นความสมบูรณ์เต็มร้อยให้พร้อมใช้งานนั้นเป็นเรื่องยากมาก และต้องดูจากหลายองค์ประกอบ เช่นเมื่อคอนเสิร์ตจบแล้ว ทางสนามจะมีมาตรการเก็บกวาดสิ่งของรวมถึงฟื้นฟูสนามอย่างไรบ้าง ตรงนี้ไม่ใช่อำนาจของเรา เป็นของหน่วยงานที่ดูแลสนามโดยตรง”
“ดังนั้นเพื่อความไม่ประมาทเราจึงวางแผนร่วมกับโค้ชเอาไว้แล้วว่าในรอบแรกเราจะไม่ใช้งานสนามราชมังคลากีฬาสถาน โดยแผนของเราคือจะใช้สนามในรอบที่ลึกกว่านั้น ส่วนรอบแรกอย่างที่ผมแจ้งให้ทราบว่าเรากำลังพิจารณาสนามต่างๆ ที่มีอยู่ในข่ายเพื่อหารือร่วมกับโค้ชว่าสุดท้ายจะเลือกใช้สนามไหน ทั้งนี้ต้องดูด้วยว่าช่วงเวลาที่เล่นทัวร์นาเมนต์อาเซียนนั้นแต่ละสนามมีการวางแผนใช้งานในส่วนอื่นด้วยหรือไม่ เรื่องนี้คงไม่มีปัญหาอะไร เนื่องจากกว่าฝ่ายจัดการแข่งขันจะให้ส่งชื่อสนามคงใช้เวลาอีกเป็นเดือน”
