การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ที่เอดูเคชั่น สเตเดียม กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ เมื่อคืนวันที่ 26 พ.ย. เป็นการลงสนามในกลุ่มซี นัดที่สอง โปแลนด์ พบ ซาอุดิอาระเบีย โดยเกมแรก โปแลนด์ เสมอ เม็กซิโก 0-0 มี 1 แต้ม ส่วน ซาอุดิอาระเบีย เซอร์ไพรส์ แซงชนะ อาร์เจนตินา 2-1 รั้งจ่าฝูงมี 3 คะแนน
เกมนี้ โปแลนด์ มาในระบบ 4-4-2 ประกอบด้วย วอยเช็ก เชสนี : แมตตี แคช, คามิล กลิก, ยาคุบ คิวิออร์, บาร์ตอส เบเรซินสกี : เพอร์เซมีสลาฟ ฟรานคอฟสกี, คริสเตียน เบียลิก, เกอร์เซกอร์ซ ครีโคเวียก, พิโอเตอร์ เซียลินสกี : โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี, อาร์คาดิอุส มิลิก
ส่วน ซาอุดีอาระเบีย มาในระบบ 4-3-3 ประกอบด้วย โมฮัมเหม็ด อัล-โอไวส์ : ซาอุด อับดุลฮามิด, อับดูเลลาห์ อัล-อัมรี, อาลี อัล-บูไลฮี, โมฮัมเหม็ด อัล-ไบรก์ : ซามี อัล-นาจี, อับดุลเอลลาห์ อัล-มาลกี, โมฮาเหม็ด คันโน : ฟิราส อัล-บูไรคาน, ซาเลห์ อัล-เชห์รี, ซาเล็ม อัล-โดว์ซารี
ครึ่งแรกทั้งสองทีมผลัดกันรุก ผลัดกันขึ้นเกมไปครองบอลบุกกันได้อย่างสนุก กระทั่งนาที 39 เป็นโปแลนด์ ที่ได้ประตูออกนำ 1-0 จากจังหวะที่ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ตบกลับมาในกรอบให้ พิโอเตอร์ เซียลินสกี ได้ซัดเข้าไปตุงตาข่าย
หลังเสียประตู ซาอุดีอาระเบีย เป็นฝ่ายโหมบุกหนัก ก่อนที่นาที 45 จะมาได้จุดโทษ โดย ซาเล็ม อัล-โดว์ซารี ผู้ยิงประชัยในเกมที่เอาชนะอาร์เจนตินา เป็นผู้สังหาร แต่ด้วยความยอดเยี่ยมของ วอยเช็ก เชสนี ที่ล้มไปถูกทาง ทั้งยังเซฟต่อเนื่องกับจังหวะซ้ำของ โมฮัมเหม็ด อัล-ไบรก์ ทำให้ โปแลนด์ รอดพ้นการเสียประตู และจบครึ่งแรกลงที่ โปแลนด์ ยังคงนำ ซาอุดีอาระเบีย 1-0
ครึ่งหลัง ซาอุดีอาระเบีย ลงสนามมาเล่นด้วยความดุดันมากขึ้น ขณะที่ โปแลนด์ พยายามเล่นตามเกมของตัวเอง เมื่อตัดบอลได้ก็พาบอลขึ้นมาลุ้นประตูที่สอง นาที 65 เลวานดอฟสกี ได้ชาร์จหน้าประตูแต่ไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย
จากนั้น ซาอุดีอาระเบีย ยังพยายามโหมบุกหนักแต่จนแล้วจนรอดก็ยังทำได้เพียงหวาดเสียว กลับเป็นโปแลนด์ ที่ยิ่งเล่นยิ่งทำได้ดีกว่า นาที 83 อับดุลเอลลาห์ อัล-มาลกี จับบอลพลาดหน้าประตู ก่อนโดน โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี โฉบตัดบอลเข้าไปยิงอย่างเลือดเย็น ให้ โปแลนด์ หนีเป็น 2-0 โดยหลังยิงประตู เลวานดอฟสกี ถึงกับร้องให้ออกมา เนื่องจากเป็นประตูแรกที่ทำได้ในฟุตบอลโลก
ช่วงเวลาที่เหลือ ซาอุดีอาระเบีย ยังเปิดเกมรุกสู้จนวินาทีสุดท้าย แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่สามารถ เจาะประตูโปแลนด์ได้ ทำให้จบ 90 นาที โปแลนด์ ชนะ ซาอุดีอาระเบีย 2-0 เก็บเพิ่มเป็น 4 คะแนน ขยับขึ้นไปรั้งจ่าฝูง กลุ่มดี ส่วน ซาอุดีอาระเบีย รั้งอันดับ 2 มี 3 คะแนน ยังต้องลุ้นเข้ารอบในนัดสุดท้ายทั้งคู่
