เบลเยียม ทำได้ดีที่สุดเพียงเจ๊ากับ โครเอเชีย ไปแบบไม่มีสกอร์ ในการแข่งขันนัดสุดท้าย ทำให้ต้องจบเส้นทางฟุตบอลโลก 2022 ไว้เพียงรอบนี้ กอดคอ แคนาดา ตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย
การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม F เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.65 เป็นการลงสนามนัดสุดท้าย ที่อาห์หมัด บิน อาลี สเตเดียม “ตราหมากรุก” ทีมชาติโครเอเชีย จ่าฝูงของกลุ่มที่มี 4 คะแนน ลงสนามพบกับ ทีมชาติเบลเยียม อันดับ 3 มี 3 คะแนน
Soccer Football – FIFA World Cup Qatar 2022 – Group F – Croatia v Belgium – Ahmad Bin Ali Stadium, Al Rayyan, Qatar – December 1, 2022
เกมนี้ โครเอเชีย มาในระบบ 4-3-3 ประกอบด้วย โดมินิก ลิวาโควิช : โยซิป ยูราโนวิช, เดยัน ลอฟเรน, ยอสโก กวาร์ดิโอล, บอร์นา โซซา : ลูกา โมดริช, มาร์เซโล โบรโซวิช, มาเตโอ โควาชิช : อังเดร ครามาริช, มาร์โค ลิวายา, อิวาน เปริซิช
ขณะที่ เบลเยียม มาในระบบ 3-4-3 ประกอบด้วย ธิโบต์ กูร์กตัวส์ : เลอันเดอร์ เดนดองก์เกอร์, โทบี อัลเดอร์ไวเรลด์, ยาน แฟร์ตองเกน : โธมาส์ เมอนิเยร์, อักเซล วิตเซล, เควิน เดอ บรอยน์, ติโมธี กาสตัญ : เลอันโดร ตรอสซาร์ด, ดรีส เมอร์เตนส์, ยานนิก การ์รัสโก
เปิดฉากเริ่มเกมทั้งสองทีมเปิดหน้าแลกกันทันที นาทีที่ 13 เบลเยียม ได้บุกขึ้นมาลุ้น เดวิน เดอ บรอยน์ พาบอลขึ้นมาตรงกลาง ก่อนแบงทะลุเข้าไปในเขตโทษ ไปถึงดรีส เมอร์เตนส์ ได้ยิง แต่บอลข้ามคาน
Soccer Football – FIFA World Cup Qatar 2022 – Group F – Croatia v Belgium – Ahmad Bin Ali Stadium, Al Rayyan, Qatar – December 1, 2022
ถัดมานาทีเดียว โครเอเชีย มาได้จุดโทษ ในจังหวะ ยานิก การ์รัสโก ไปทำฟาวล์ อังเดร ครามาริช ในเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันที ก่อนจะวิ่งมาเช็คที่จอวีเออาร์ เพื่อความแน่ใจ ปรากฎว่ามีผู้เล่น โครเอเชียไปยืนล้ำหน้าไปก่อนหน้านี้แล้ว ทำให้ไม่เป็นจุดโทษในจังหวะนี้
Advertisement
จากนั้นเกมยังเปิดแลกกันสนุก เบลเยียม บุกขึ้นมาอีกชุด เดวิน เดอ บรอยน์ ได้บอลริสเส้นทางซ้าย ก่อนจะจ่ายเรียดเข้าไปกลางประตู แต่บอลก็ยังลึกไปถึงมือนายด่านโครเอเชีย
ช่วงเวลาที่เหลือเกมยังแลกกันสนุก แต่จังหวะจบสกอร์ของทั้งสองทีมยังมีน้อยและไม่เฉียบคมพอ ทำให้จบครึ่งแรก ยังเสมอ 0-0
Soccer Football – FIFA World Cup Qatar 2022 – Group F – Croatia v Belgium – Ahmad Bin Ali Stadium, Al Rayyan, Qatar – December 1, 2022
ครึ่งหลัง เบลเยียม เปิดฉากบุกทันที นาทีที่ 48 ได้ลุ่นต่อเนื่องจากจังหวะเตะมุม บอลมาถึง เดวิน เดอ บรอยน์ เปิดโด่งไปกลางประตู โรเมลู ลูกากู ตัวสำรองที่เพิ่งถูกส่งลงมาช่วงครึ่งหลัง ได้โหม่ง แต่ยังไปตรงตัวนายด่านโครเอเชีย
ถัดมานาทีเดียว โครเอเชีย บุกขึ้นมาลุ้นบ้าง บอลมาถึงคริสติยาน ยาคิช หน้าเขตโทษ ก่อนจะจ่ายต่อไปให้ มาเตโอ โควาชิช ได้ยิง บอลพุ่งตรงกรอบ ธิโบต์ กูร์กตัวส์ นายด่านเบลเยียม ต้องออกแรงปัดออกหลังไป
จากนั้นเกมของทัพตราหมากรุก เริ่มดีกว่า ครองเกมบุกได้อย่างต่อเนื่อง ทว่านาทีที่ 60 เบลเยียม เกือบจะได้ประตูออกนำ ในจังหวะ เดวิน เดอ บรอยน์ ทะงบอลหลุดเข้าไปในเขตโทษ บอลไปถึง ยานนิก การ์นัสโก ได้ยิง แต่ โดมินิก ลิวาโควิช ผู้รักษาประตูโครเอเชีย ยังปัดออกมาได้ บอลมาเข้าทาง โรเมลู ลูกากู ได้ยิงซ้ำดาบสอง บอลก็ยังพุ่งไปชนเสาออกไปอย่างไม่น่าเชื่อ
เกมกลับมาสูสีอีกครั้ง ทั้งสองทีมเริ่มเร่งเกมให้เร็วขึ้น ทำให้เกมเปิดแลกกันสนุก นาทีที่ 86 เบลเยียมได้ลุ้นอีกครั้ง ในจังหวะแนวรับโครเอเชียสกัดบอลไม่ขาด อบอลมาเข้าทาง โธมาส์ เมอนิเยร์ ได้เปิดบอลเข้าไปในเขตโทษ บอลไปถึง โรเมลู ลูกากู ได้ดีด แต่บอลก็ยังหลุดกรอบออกหลังไป
ก่อนเข้าสู่ช่วงทดเวลานาทีเดียว เบลเยียม เร่งเกม และได้บุกขึ้นมาลุ้นอีกครั้งเฌเรมี โดกู ใช้ความสามารถเฉพาะตัวกระชอกบอลหลุดเข้ามาในเขตโทษ ก่อนจะจ่ายต่อออกมาให้ ธอร์กกาน อาซาร์ บรรจงเปิดไปกลางประตู บอลฉแลบไปถึง โรเมลู ลูกากู ได้พักอก แต่บอลยังแรกไปถึงมือนายด่านโครเอเชีย ทิ้งตัวรับไว้ได้
ช่วงเวลาที่เหลือเบลเยียม โหมบุกหนัก แต่จังหวะจบสกอร์ยังไม่ดีพอ ทำให้จบเกม เบลเยียม เสมอ โครเอเชีย 0-0 แบ่งกันไปทีมละคะแนน ส่วนผลอีกคู่ โมร็อกโก เฉือนชนะ แคนาดา 2-1 ทำให้กลุ่มนี้ โมร็อกโก มีเพิ่มเป็น 6 คะแนน ผ่านเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม ขณะที่ โครเอเชีย มีเพิ่มเป็น 5 คะแนน ผ่านเข้ารอบในฐานะรองแชมป์กลุ่ม ส่วน เบลเยียม และ แคนาดา เป็นอีก 2 ทีมที่ต้องจบเส้นทางฟุตบอลโลกไว้เพียงเท่านี้
