โมร็อกโก เอาชนะในการดวลจุดโทษกับ สเปน ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมฟุตบอลโลก 2022 ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ด้วยแผนตั้งรับอย่างเหนียวแน่น และมีวินัย จนหยดสุดท้าย
เกมนี้ โมร็อกโก มาในระบบ 4-3-3 คอยตั้งรับคุมโซน พลางตัดบอลและสวนกลับโจมตีอย่างรวดเร็ว โดยอาศัยปีกความสามารถเฉพาะตัวสูงอย่าง โซฟียาน บูฟาล กับ ฮาคิม ซิเยช เล่นงานสร้างความปั่นป่วน โดยเฉพาะฝั่งซ้ายที่มี โซฟียาน บูฟาล นั้นเล่นงาน มาร์กอส ยอเรนเต เสียจนเอาไม่อยู่ และได้ฟาวล์หลายครั้ง
ขณะที่สเปน ยังคงเป็นฝ่ายขึงเกมบุกใส่โมร็อกโก แทบจะฝั่งเดียวตามสูตร แต่ก็ทำได้เพียงแค่ครองบอล ไม่สามารถส่งบอลเข้าถึงพื้นที่สุดท้ายได้ จากสถิติ ไม่น่าเชื่อว่าการเข้าทำครั้งแรกของสเปน ครั้งแรกต้องรอนานถึงนาที 26 แม้ช่วงก่อนหมดครึ่งแรกจะได้โอกาสจากความผิดพลาดของโมร็อกโกเอง แต่ก็ฉวยเอาไว้ไม่ได้
ครึ่งหลัง รูปเกมยังคงเดิม ไม่มีเปลี่ยนแปลง โมร็อกโก ยังคงใจเย็นตั้งรับอย่างมีวินัย รอคอยโอกาสชิงตัดบอลและสวนกลับเร็ว ซึ่งก็สร้างโอกาสได้อยู่เหมือนกัน แต่ก็ยังขาดความแน่นอน ขณะที่สเปน ก็ไม่สามารถพาบอลไปถึงพื้นที่สุดท้าย ทำได้เพียงถ่ายบอลไปมาในแดนหลัง และกลาง เมื่อจะเข้าทำก็โดนตัดบอลได้ก่อนทุกที จนนาที 75 เป็นเรื่องเหลือเชื่ออีกเหมือนกันที่สเปน มีโอกาสเข้าทำเพียง 2 ครั้ง ขณะที่ โมร็อกโก ที่รับแล้วสวนกลับมีโอกาสมากกว่าที่ 3 ครั้ง
ช่วง 5 นาทีสุดท้าย เหมือนทั้งคู่ก็อาศัยจังหวะที่ต่างฝ่ายต่างล้า เปิดเกมแลกกันสนุกแต่จนแล้วจนรอดยังไม่มีสกอร์เพิ่ม ต้องต่อเวลาพิเศษออกไป ก่อนจะจบ 120 นาที โมร็อกโก ที่ยังคงช่วยกันรับเหนียวแน่นสามารถยื้อไว้ได้สำเร็จ ต้องตัดสินที่จุดโทษ
ก่อนเกมนี้มีข่าวมาว่า หลุยส์ เอ็นริเก ได้สั่งให้ลูกทีมของเขาซ้อมยิงจุดโทษถึง 1,000 ลูก ก่อนเดินทางมากาตาร์ เพราะเคยพลาดในการดวลจุดโทษมาแล้วหลายรายการ แต่ด้วยความยอดเยี่ยมของ ยัสซิน โบโน ที่เซฟจนสเปน ไม่สามารถพังประตูได้เลย แม้แต่การยิงจุดโทษ ทำให้ โมร็อกโก เอาชนะ ผ่านเข้ารอบไปในที่สุด
