จตุภูมิ ชินวงศ์ นักยกน้ำหนักไทย มีโอกาสได้เหรียญทองแดง ย้อนหลังมากขึ้นเรื่อยๆ หลัง นีจัต ราฮิมอฟ นักยกน้ำหนักทีมชาติคาซักสถาน ส่อโดนริบเหรียญโอลิมปิก “ริโอ 2016” หลังจากถูกตรวจพบว่ามีการส่งตัวอย่างปัสสาวะของนักกีฬาคนอื่นระหว่างการตรวจหาสารกระตุ้น

ราฮิมอฟ คว้าเหรียญทองในรุ่น 77 กก.ชาย ด้วยการทำลายสถิติโลกถึง 4 กิโลกรัม (สแนตช์ 165 ก.ก.-คลีน แอนดเจิร์ก 214ก.ก.-น้ำหนักรวม 379 ก.ก.) แต่หลังจากการตรวจโด๊ปพบว่าตัวอย่างปัสสาวะที่ นิจัต ส่งตรวจนั้นเป็นของนักกีฬาคนอื่น หลังจากที่ องค์การต่อต้านสารกระตุ้นโลก(วาดา) พัฒนาการตรวจจับการปลอมแปลงตัวอย่าง และพบหลักฐานดังกล่าวของนักยกน้ำหนัก 18 คน จาก 6 ประเทศ ระหว่างการสอบสวนในปี 2020 ซึ่งทำให้ ราฮิมอฟ โดนแบน 8 ปี และยกเลิกผลแข่งขันตั้งแต่ มี.ค. 2016 เป็นต้นไป

หากมีการปรับอันดับเหรียญใหม่ จตุภูมิ ชินวงศ์ นักยกน้ำหนักทีมชาติไทยซึ่งได้อันดับ 4 จะขยับขึ้นมาได้เหรียญทองแดง โอลิมปิก 2016 ซึ่งจะทำให้ เจ้าตัวได้เงินรางวัลย้อนหลังจากภาครัฐบาล ส่วน หลู่ เสียวจุ่น จากจีน จะถูกเลื่อนจากเหรียญเงิน ขึ้นไปรับเหรียญทอง แทน ส่วน โมฮัมเหม็ด อิฮาบ จากอียิปต์ จากเหรียญทองแดง จะได้รับเหรียญเงิน

โดย จตุภูมิ ซึ่งปัจจุบันรับหน้าที่โค้ช เผยว่าหากได้เหรียญโอลิมปิกย้อนหลังจะกลายเป็นฝันที่เป็นจริง เนื่องจากจะทำให้ตนมีโอกาสได้รับราชการ และได้เงินรางวัลย้อนหลังซึ่งจะเปลี่ยนชีวิตตนเองและครอบครัวไปมาก โดยตามหลักเกณฑ์แล้ว จตุภูมิ จะได้รับเงินรางวัล 4 ล้านบาทจากการคว้าเหรียญทองแดง โอลิมปิก

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการโอลิมปิกสากล(ไอโอซี) ระบุว่า ไอโอซีจะยังไม่สามารถจัดสรรเหรียญรางวัลใหม่ได้จนกว่า นักกีฬา/ทีมที่ถูกลงโทษจะยุติการอุทธรณ์ หรือ จนกว่ากระบวนการทั้งหมดจะจบสิ้นลง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน