เรอัล มาดริด เปิดบ้านย้ำแค้นลิเวอร์พูลอีกยก เช่นเดียวกับนาโปลีที่ขยี้ไอน์ทรักต์ แฟรงก์เฟิร์ต ทำให้ได้ครบ 8 ทีมในรอบก่อนรองชนะเลิศยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก

การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่สอง เมื่อวันที่ 15 มีนาคม “ราชันชุดขาว”เรอัล มาดริด แชมป์เก่าจากสเปน เปิดสนามเอสตาดิโอ ซานติอาโก เบร์นาเบว รับการมาเยือนของ “หงส์แดง”ลิเวอร์พูล รองแชมป์เก่าจากอังกฤษ

โดยเกมแรกลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายแพ้คาบ้าน 2-5 ส่วนเกมนี้เจ้าบ้านใช้งาน คาริม เบนเซมา, วินิซิอุส จูเนียร์, เฟเดริโก บัลเบร์เด ขณะที่ทีมเยือนนำโดย ดาร์วิน นูนเญซ, โคดี กักโป, โมฮาเหม็ด ซาลาห์

นาที 7 ลิเวอร์พูลได้ลุ้นก่อน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ชนะการแย่งบอลจากกองหลัง ก่อนจ่ายเข้าเขตโทษให้ ดาร์วิน นูนเญซ โฉบมายิง แต่บอลพุ่งตรงตัว ธิโบต์ กูร์กตัวส์ ป้องกันเอาไว้ได้

นาที 14 โทนี โครส เปิดบอลจากฝั่งขวาไปเสาสองเข้าทาง อันโตนิโอ รูดิเกอร์ โขกชงมาให้ วินิซิอุส จูเนียร์ ปราดเข้าชาร์จระยะเผาขน อลิสซอน เบ็กเกอร์ บล็อกไว้ได้อย่างเหลือเชื่อ มาดริดจึงอดขึ้นนำ

นาที 20 โอกาสเป็นของมาดริดอีกครั้ง นาโช เฟร์นานเดซ จ่ายบอลให้ เอดูอาร์โด กามาวิงกา ยิงจากระยะประมาณ 25 หลา บอลพุ่งผ่านมือผู้รักษาประตูไปชนคาน

นาที 33 ดาร์วิน นูนเญซ เกือบทำประตูให้ลิเวอร์พูล เมื่อกระชากบอลผ่านคู่แข่งเข้าทางด้านซ้ายของเขตโทษแล้วปั่นหวังให้เสียบเสาสอง ธิโบ กูร์กตัวส์ พุ่งสุดตัวปัดโดนปลายนิ้วบอลออกหลัง

นาที 36 ดิโอโก โชตา จ่ายบอลไปทางด้านขวาของเขตโทษให้ โคดี กักโป แต่งแล้วสับไกยิงเต็มข้อ ธิโบ กูร์กตัวส์ ต้องทุบออกหลัง ลิเวอร์พูลยังไม่ได้ประตู และจบครึ่งแรกยังเสมอกัน 0-0








Advertisement

ครึ่งหลังนาที 53 โอกาสเป็นของมาดริด คาริม เบนเซมา แทงทะลุช่องให้ เฟเดริโก บัลเบร์เด สปีดแซงแนวรับแล้วกระชากบอลไปยิงในเขตโทษ อลิสซอน เบ็กเกอร์ ปราดออกมาปิดมุมดีเลยเซฟไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม

นาที 78 วินิซิอุส จูเนียร์ ตั้งใจจะสับไกยิงในเขตโทษแล้วจั่วลม แต่วินิซิอุสแก้ไขได้ดีจิ้มบอลต่อไปให้ คาริม เบนเซมา ยิงเข้าไปง่ายๆ กลายเป็นประตูชัยให้มาดริดชนะ 1-0 และมาดริดผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศด้วยผลรวม 6-2

ส่วนอีกคู่ “อัซซูรา”นาโปลี จากอิตาลี เปิดสนามสตาดิโอ ดิเอโด อาร์มันโด มาราโดนา รับการมาเยือนของ “อินทรีแดงดำ”ไอน์ทรักต์ แฟรงก์เฟิร์ต จากเยอรมนี เกมแรกแฟรงก์เฟิร์ตแพ้คาถิ่น 0-2

เกมนี้เจ้าบ้านได้ประตูจาก วิกเตอร์ โอซิเมน นาที 45+2 และ 53, พิโอเตอร์ เซียลินสกี นาที 64 (จุดโทษ) ทำให้นาโปลีชนะขาดลอย 3-0 เข้ารอบก่อนรองชนะเลิศด้วยผลรวม 5-0

โดยทีมที่เข้ารอบก่อนรองชนะเลิศมีดังนี้ เชลซี (อังกฤษ), แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (อังกฤษ), บาเยิร์น มิวนิก (เยอรมนี), อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี), เอซี มิลาน (อิตาลี), นาโปลี (อิตาลี), เบนฟิกา (โปรตุเกส), เรอัล มาดริด (สเปน)

สำหรับพิธีจับสลากประกบคู่รอบก่อนรองชนะเลิศ, รอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ (เพื่อชิงสิทธิ์สถานะทีมเหย้า) จะมีขึ้นที่เมืองนียง ของสวิตเซอร์แลนด์ ในวันที่ 17 มีนาคม เวลา 18.00 น. ของประเทศไทย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน