ลิเวอร์พูลต้องลุ้นถึงนาทีสุดท้ายกว่าจะตีเสมอแอสตัน วิลลา โอกาสจบท็อปโฟร์ พรีเมียร์ลีก แทบไม่เหลือ ขณะที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าชัยชนะสำคัญได้

การแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม “หงส์แดง”ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟิลด์ รับการมาเยือนของ “สิงห์ผงาด”แอสตัน วิลลา

เกมนี้เจ้าบ้านจัด โคดี กักโป, หลุยส์ ดิอาซ, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ นำเกมรุก ด้านทีมเยือนมี โอลลี วัตกินส์, ลีออน เบลีย์, จอห์น แม็กกินน์ ลงสนาม

นาที 20 โอลลี วัตกินส์ สบโอกาสหลุดเข้าเขตโทษแล้วโดน อิบราฮิมา โคนาเต ปะทะล้มลง วิลลาจึงได้จุดโทษ วัตกินส์ลุกขึ้นมาสังหารเองแต่ดันยิงหลุดกรอบอย่างน่าเสียดาย ทำให้สกอร์ยังคงเสมอกันอยู่

นาที 27 จากจังหวะที่วิลลาเดินหน้าบุก ดักลาส หลุยซ์ เก็บบอลได้แล้ววางบอลไปหน้าประตูถึง เจค็อบ แรมซีย์ โฉบมาแปวอลเลย์เสียบตาข่าย ทีมเยือนออกนำ 1-0

นาที 39 วิลลาได้ฟรีคิกระยะค่อนข้างไกล ดักลาส หลุยซ์ หลอกจะโยนแต่เล่นลูกสูตรส่งให้ เจค็อบ แรมซีย์ หลุดเข้าเขตโทษด้านขวาแล้วซัดมุมแคบ อลิสซอน เบ็กเกอร์ ยังเซฟไว้ได้ จบครึ่งแรกทีมเยือนนำ 1-0

ครึ่งหลังนาที 55 เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ หยอดบอลเข้าเขตโทษ หลุยส์ ดิอาซ โขกชงให้เพื่อนแล้วไปติดกองหลังกระดอนมาหา เฟอร์จิล ฟาน ไดก์ ส่งต่อให้ อิบราฮิมา โคนาเต ยิงไปโดนกองหลังสกัดออกจากเส้นประตู โคดี กักโป เก็บได้แล้วยิงซ้ำเข้าไป

อย่างไรก็ตาม ผู้ตัดสินเช็กวีเออาร์แล้วมองว่าจังหวะเล่นของฟาน ไดก์ เป็นการล้ำหน้า ลิเวอร์พูลจึงถูกปฏิเสธประตูนี้ วิลลายังคงนำอยู่เช่นเดิม








Advertisement

นาที 90 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้บอลทางด้านขวา ก่อนจะสบจังหวะดีดด้วยซ้ายไปหน้าประตูให้ โรแบร์โต ฟีร์มิโน โฉบมาเข้าฮอร์สตุงตาข่าย ลิเวอร์พูลตีเสมอ 1-1 ก่อนที่เกมจะจบสกอร์นี้ในที่สุด

ลิเวอร์พูลลงเล่น 37 นัด มีอยู่ 66 คะแนน อยู่อันดับ 5 โอกาสลุ้นท็อปโฟร์แทบไม่เหลือ เพราะนอกจากต้องชนะเกมปิดฤดูกาลแล้ว ยังต้องลุ้นให้นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด หรือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ต่างเหลือโปรแกรม 2 เกม มีอย่างน้อยทีมใดทีมหนึ่งแพ้รวดด้วย แล้วต้องมาวัดลูกได้เสียกันอีกที

ส่วนวิลลาเตะไปแล้ว 37 นัดเช่นกัน เก็บได้ 58 คะแนน ยึดอันดับ 8 ยังคงมีลุ้นตั๋วยูฟ่า ยูโรปา ลีก ในนัดสุดท้ายของฤดูกาล

ขณะที่ “เดอะ เชอร์รีส์”บอร์นมัธ เปิดสนามไวตาลิตี สเตเดียม รับการมาเยือนของ “ปีศาจแดง”แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

เกมนี้เจ้าบ้านส่ง โดมินิก โซลันกี, ไรอัน คริสตี, เดวิด บรูกส์ ลงตัวจริง ส่วนทีมเยือนนำโดย อองโธนี มาร์กซิยัล, บรูโน แฟร์นานเดส, อันโตนี

เริ่มเกมมา 9 นาที คริสเตียน อีริกเซน หยอดบอลไปหน้าประตู กองหลังบอร์นมัธพยายามสกัดแต่บอลไม่ไปไหน กลายเป็นว่าลอยตั้งให้ คาเซมิโร ที่อยู่ตรงนั้นกระโดดฟาดเข้าไปอย่างยอดเยี่ยม แมนฯ ยูไนเต็ดนำ 1-0

นาที 27 บอร์นมัธเกือบตีเสมอ จากลูกเปิดลอยเข้าเขตโทษ โดมินิก โซลันกี เข้าปะทะแย่งบอลกับกองหลังแล้วเอาชนะได้ ก่อนจะสบโอกาสสับไกยิง ดาบิด เด เคอา ยังล้มตัวปัดทิ้งทัน จบครึ่งแรกแมนฯ ยูไนเต็ดนำอยู่ 1-0

ครึ่งหลังนาที 47 เป็นฝั่งบอร์นมัธที่ได้โอกาสลุ้น ไรอัน คริสตี จ่ายบอลเข้าเขตโทษให้ เดวิด บรูกส์ สับไกยิงลูกทำท่าจะเสียบใต้คาย ดาบิด เด เคอา ยังเหนียวกระโดดปัดทิ้งทัน

นาที 63 บรูโน แฟร์นานเดส งัดบอลเข้าเขตโทษแล้วกองหลังเตะสกัดไม่ขาดไปเข้าทาง เวาต์ เว็กฮอร์สต์ วอลเลย์สวนทันที แต่บอลตรงตัว เนโต เซฟเอาไว้ได้ แมนฯ ยูไนเต็ดจึงไม่ได้ประตูเพิ่ม

นาที 76 แมนฯ ยูไนเต็ดได้เตะมุมฝั่งซ้าย คริสเตียน อีริกเซน เปิดเข้ากลางแล้วแนวรับบอร์นมัธโหม่งสกัดมาเข้าทาง บรูโน แฟร์นานเดส วอลเลย์ในพื้นที่เขตโทษอย่างถนัดถนี่ เนโต ซูเปอร์เซฟพุ่งปัดทิ้งทันเหลือเชื่อ

นาที 84 โอกาสเป็นของบอร์นมัธ ด็องโก อูอัตตารา พลิกหลบคู่แข่งแล้วแทงบอลให้ คีฟเฟอร์ มัวร์ หลุดเข้าไปยิงในเขตโทษ ดาบิด เด เคอา ขยับออกมาปิดมุมเร็วเลยเซฟไว้ได้เยี่ยม จบเกมแมนฯ ยูไนเต็ดบุกชนะ 1-0

แมนฯ ยูไนเต็ดลงสนาม 36 นัด เก็บเพิ่มเป็น 69 คะแนน อยู่อันดับ 4 จากนี้อีก 2 เกมที่เหลือขอแค่ 1 แต้ม จะการันตีจบท็อปโฟร์แน่นอน ส่วนบอร์นมัธแข่ง 37 นัด มีอยู่ 41 คะแนน ยึดอันดับ 14 ลอยตัวไม่ต้องลุ้นอะไรแล้ว

ผลคู่อื่น ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ แพ้ เบรนต์ฟอร์ด 1-3, ฟูแลม เสมอ คริสตัล พาเลซ 2-2, วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส เสมอ เอฟเวอร์ตัน 1-1

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน