ภาพบรรยากาศ บาเยิร์น มิวนิก ฉลองแชมป์บุนเดสลีกา เยอรมนี สมัยที่ 11 ติดต่อกัน และนับรวมเป็นสมัยที่ 33 หลังจบเกมนัดสุดท้ายของฤดูกาลนี้ เมื่อ 27 พ.ค.
การแข่งขันฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมนี นัดปิดฤดูกาล “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์ ที่กำลังลุ้นแชมป์ เปิดบ้านรับการมาเยือนของ ไมนซ์ 05
โดยสถานการณ์ก่อนเกมนี้ โบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์ รั้งจ่าฝูง มี 70 แต้ม จาก 33 นัด ส่วน บาเยิร์น มิวนิก มี 68 นัด อยู่อันดับสอง ทำให้ทีมเสือเหลืองจะคว้าแชมป์ทันที หากคว้า 3 แต้มได้ โดยไม่ต้องสนผลการแข่งขันของทีมเสือใต้
อย่างไรก็ตามเปิดฉากมาครึ่งแรกเป็น ไมนซ์ ที่บุกมานำก่อน 1-0 จากจังหวะเตะมุม เอ็ดมิลสัน เฟอร์นันเดส เปิดให้ อันเดรียส ฮันเค-โอลเซน โฉบมาโหม่งเข้าไป ในนาที 15
จากนั้นทีมเสือเหลือง ได้โอกาสตีเสมอ จากจังหวะจุดโทษ แต่เป็น เซบาสเตียน อัลแลร์ ที่ยิงพลาดไป ทำให้สกอร์ยังตามหลัง 0-1 ในนาที 19
เกมดำเนินมาถึงนาที 24 อี แจซอง เปิดจากด้านข้างเข้าไปในเขตโทษ ให้ คาริม โอนิซิโว โขกเข้าไป ในนาที 24 ไมนซ์ นำห่าง 2-0 ก่อนจะจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ดังกล่าว
ครึ่งหลังดอร์ตมุนด์ พยายามโหมบุกอย่างหนัก ก่อนได้ประตูไล่มา 1-2 จาก ราฟาเอล เกอร์เรโร ในนาที 69
Advertisement
จากนั้นเจ้าบ้านมาได้ประตูตีเสมอ จาก นิคลาส ชูเล ในนาที 90+6 แต่และจบเกมด้วยสกอร์ 2-2
ส่วนอีกคู่ เอฟซี โคโลญจน์ เปิดบ้านรับการมาเยือนของ บาเยิร์น มิวนิก
ซึ่งเปิดฉากมาบาเยิร์น มิวนิก ขึ้นนำก่อน 1-0 จาก คิงส์ลีย์ โกมอง นาที 8 แต่ครึ่งหลัง โคโลญจน์ ได้ประตูตีเสมอจาก เดยาน ลูบิซิช ในนาที 80
แต่หลังจากนั้นช่วงท้ายเกม บาเยิร์น มิวนิก มาได้ประตูแซงนำ 2-1 จาก จามาล มูเซียลา ในนาที 89 ก่อนจะจบเก็บด้วยชัยชนะของทีมเสือใต้ด้วยสกอร์ 2-1
จากผลการแข่งขันของทั้งสองคู่ทำให้บาเยิร์น มิวนิก คว้าแชมป์บุนเดสลีกาไปครองเป็นสมัยที่ 11 ติดต่อกัน และนับรวมเป็นสมัยที่ 33 หลังเก็บไปได้ 71 คะแนน จาก 34 นัด ส่วนดอร์ตมุนด์ มี 71 แต้มเท่ากัน แต่ลูกได้เสียทัพเสือเหลืองเป็นรอง ได้แค่รองแชมป์ไปอย่างน่าเสียดาย
