“มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าทีมชาติไทย จารึกชื่อในประวัติศาสตร์ฟุตบอล ในฐานะนักเตะไทยคนแรกที่ทำประตูในฟุตบอลเจ ลีก ลีกสูงสุดของญี่ปุ่นได้สำเร็จ พร้อมกับนำทัพ ซานเฟรชเช่ ฮิโรชิม่า เอาชนะ ฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร่ ทีมของ “ชนาคุง” ชนาธิป สรงกระสินธุ์ ไป 1-0 ในเกมเจ ลีกนัดเปิดสนาม ที่ฮิโรชิม่า บิ๊ก อาร์ช เมื่อ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา
ก่อนเกม ธีรศิลป์ อุ้ม “น้องมาดริด” ลูกชาย พร้อมด้วย ชนาธิป รับดอกไม้แสดงความยินดี
โดยเกมนี้ถือเป็นเกม ไทย แบทเทิ้ล ที่คนไทยตั้งตารอคอย และสมใจไปตามๆกันเมื่อนักเตะทีมชาติขวัญใจแฟนบอลถูกส่งลงสนามเป็น 11 ตัวจริงทั้งคู่ รูปเกมเป็นเจ้าถิ่นที่เดินหน้าพับสนามบุกแทบจะฝั่งเดียว ก่อนจะประสบความสำเร็จในนาที 28 โยชิโมริ คาชิวะ เปิดจากกราบซ้ายให้ “มุ้ย” ลอยตัวสะบัดศีรษะส่งบอลเสียบเข้าเสาไกลไปอย่างสวยงาม
จังหวะประวัติศาสตร์ของ “ธีรศิลป์ แดงดา” เครดิตภาพทวิตเตอร์ @Ebichans44
เครดิตภาพทวิตเตอร์ @Ebichans44
ขณะที่คอนซาโดเล่ ซัปโปโร่ เกมนี้ชนาธิป สรงกระสินธุ์ ถูกปรับมาเล่นแผงมิดฟิลด์ตัวกลางมากยิ่งขึ้น แต่ไม่มีโอกาสร้างเกมมากนัก นาที 55 “เจ้าเจ” มีโอกาสได้โขกบ้าง แต่ไม่ดีพอจะเป็นประตู เกมริมเส้นของคอนซาโดเล่ เริ่มดีขึ้นตามลำดับ ทำให้ซานเฟรชเช่ ต้องเล่นเกมรับมากขึ้นจน ธีรศิลป์ ได้บอลน้อยลง ก่อนที่คอนซาโดเล่ จะเปลี่ยนเกม เอาชินจิ โอโนะ ลงมาแทน ชนาธิป ในนาที 70 รวมทั้งโจนาธาน รีส ที่ลงมาแทน ฟุไก คาซึกิ
ธีรศิลป์ นำทัพฉลองประตูด้วยท่ายิงธนูสัญลักษณ์ของสโมสร
จากนั้นไม่มีทีมใดทำสกอร์ได้ จบเกมซานเฟรชเช่ ฮิโรชิม่า เอาชนะ ฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร่ ไปได้ 1-0 พร้อมกับประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในวงการลูกหนังของธีรศิลป์ แดงดา
