“เสธ.หมึก” เผยสมาคมกีฬาจักรยานฯ พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ด้วยการร่วมมือกับองค์กรกีฬาจักรยานทั้งในระดับโลกและในทวีปเอเชีย เพื่อพัฒนามาตรฐานวงการกีฬาจักรยานไทย หลังจากส่ง “โกเมธ สุขประเสริฐ” นักปั่นบีเอ็มเอ็กซ์มือ 1 ไปฝึกซ้อมอยู่ที่ศูนย์ฝึกจักรยานโลก (WCC) แล้วทำผลงานสุดยอดคว้าแชมป์เอเชีย พร้อมได้ตั๋วไปโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ฝรั่งเศส โดยอัตโนมัติ ขณะที่ “จาย อังค์สุธาสาวิทย์” นักปั่นประเภทลู่ก็ทำผลงานดีอย่างต่อเนื่อง และมีลุ้นได้ไปโอลิมปิกเกมส์เช่นเดียวกัน นอกจากนี้เตรียมส่งนักปั่นระดับอายุไม่เกิน 23 ปี และรุ่นเยาวชนไปฝึกซ้อมเพิ่มเติม ขณะเดียวกันก็นักกีฬาและผู้ฝึกสอนไปฝึกซ้อมและอบรมที่ศูนย์ฝึกฯ ในประเทศเกาหลีใต้ ด้านนักกีฬาประเภทลู่ชุดเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13 ซึ่งไปเก็บตัวเวลโลโดรม 250 เมตร ที่ประเทศจีน มีพัฒนาการที่ดี และเตรียมประลองกับนักปั่นเจ้าถิ่น 26 ก.ค.66 นี้

“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ มีแผนในการขยายกรอบความร่วมมือกับองค์กรกีฬาจักรยานทั้งในระดับโลกและในทวีปเอเชียเพื่อร่วมกันพัฒนามาตรฐานกีฬาจักรยานทั้งของไทยและในภูมิภาคเอเชียในทุกมิติ ส่วนแรกของแนวทางการพัฒนานักกีฬาจักรยานไทย สมาคมฯ มีความสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยม กับศูนย์ฝึกจักรยานโลก (WCC) ของสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สมาคมฯ ส่งนักปั่นไทยทุกประเภทเข้าฝึกซ้อมในโครงการร่วมกับศูนย์ฝึกฯ อย่างต่อเนื่อง ทั้งในประเภทถนน, ลู่, บีเอ็มเอ็กซ์ และเสือภูเขา

พลเอกเดชา กล่าวว่า ปัจจุบันมีนักปั่นทีมชาติไทย 3 คน ประกอบด้วย นักกีฬาชาย 2 คน ได้แก่ “ทีเจ” จาย อังค์สุธาสาวิทย์ ในประเภทลู่ และ “เจ้าเอ้” ส.ต.โกเมธ สุขประเสริฐ ในประเภทบีเอ็มเอ็กซ์เรซซิง เก็บตัวฝึกซ้อมระยะยาวในศูนย์ฝึกฯ และประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง โดยจายมีลุ้นที่จะผ่านการควอลิฟายโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศส ในประเภทคีรินและสปรินท์ ขณะที่โกเมธ เพิ่งคว้าแชมป์เอเชียเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน ในการแข่งขันบีเอ็มเอ็กซ์ชิงแชมป์เอเชีย 2023 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ พร้อมคว้าตั๋วโอลิมปิกเกมส์ได้สำเร็จในโควตาแชมป์ทวีปเอเชีย นอกจากนี้ยังมีนักปั่นหญิง “นันท์” น.ส.ยลธนันท์ พลกล้า ในประเภทเสือภูเขา ไปเก็บตัวฝึกซ้อมและตระเวนแข่งขันในประเทศต่าง ๆ ของยุโรป โดยทั้ง 3 คนนี้ก็เตรียมตัวไปแข่งขันจักรยานชิงแชมป์โลก 2023 หรือ “2023 ยูซีไอ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิปส์” ที่เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ ระหว่างวันที่ 3-13 สิงหาคม ซึ่งจัดแบบมหกรรมมีแข่งขันครบทุกประเภท

“ขณะนี้สมาคมฯ กำลังหารือกับศูนย์ฝึกจักรยานโลกในการส่งนักปั่นบีเอ็มเอ็กซ์ดาวรุ่งไปฝึกซ้อมเพิ่มเติม ที่อยู่ในข่ายก็จะมีนักกีฬาบีเอ็มเอ็กซ์ นายอภิสิทธิ์ ใจอยู่ ในรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีชาย กับ นายศรันย์วิทย์ รัศมี ในรุ่นเยาวชนชาย และ น.ส.เขมิกา ศรีโสภา กับน.ส.หทัยเพชร ใจสว่าง ในรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีหญิง เพื่อเตรียมสำหรับทดแทนรุ่นพี่ ๆ ในอนาคตต่อไป ส่วนประเภทลู่ ก็จะมีนักปั่นดาวรุ่งชุดเยาวชนหลายคนที่อยู่ในข่ายส่งให้ศูนย์ฝึกจักรยานโลกพิจารณา ไม่ว่าจะเป็น นายนรเศรษฐ์ธาดา บุญมา, นายณัฐกฤต แก้วน้อย, นายธนวัฒน์ แสนตา หรือยุวชนอย่าง นายกิตติรัตน์ ฤกษ์ปรีดี” พลเอกเดชา กล่าว

“เสธ.หมึก” กล่าวอีกว่า สำหรับ “เอ้” โกเมธ หลังจากเสร็จสิ้นการแข่งขันจักรยานชิงแชมป์เอเชียที่ประเทศฟิลิปปินส์ ล่าสุดได้เดินทางกลับมาประเทศไทยแล้วพร้อมกับเพื่อนร่วมทีม เมื่อเย็นวันที่ 17 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งตนเองได้เดินทางไปรับเพื่อแสดงความยินดีกับโกเมธและนักกีฬาทุก ๆ คน พร้อมทั้งสตาฟฟ์โค้ช ซึ่งหากสมาคมฯ ไม่ส่งโกเมธไปฝึกซ้อมที่ศูนย์ฝึกจักรยานโลก ก็คงไม่ประสบความสำเร็จในวันนี้ เพราะโกเมธได้ไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์การแข่งขันรายการต่าง ๆ ในยุโรปอย่างต่อเนื่อง เมื่อมาแข่งขันชิงแชมป์เอเชียก็สู้กับ อาซูมะ นากาอิ นักปั่นมือ 1 จากญี่ปุ่นได้ และในการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่นครหางโจว ประเทศจีน ก็คงจะต้องเจอกันอีก ซึ่งโกเมธจะต้องเพิ่มมาตรฐานของตัวเองให้สูงกว่านี้อีก หลังจากโกเมธพักผ่อนกับครอบครัวประมาณ 1 สัปดาห์ ก็จะเดินทางกลับไปฝึกซ้อมที่ศูนย์ฝึกจักรยานโลกต่อเพื่อเตรียมสู้ศึกเอเชี่ยนเกมส์ต่อไป

ส่วนความร่วมมือในภูมิภาคเอเชีย พลเอกเดชา กล่าวว่า สมาคมกีฬาจักรยานฯ ก็ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับศูนย์ฝึกจักรยานโลกแห่งภูมิภาคเอเชีย ในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งทั้งนักกีฬาจักรยานและบุคลากรทั้งผู้ฝึกสอนและช่างจากประเทศไทยจำนวนมาก ได้รับโอกาสคัดเลือกเข้าอบรมในหลักสูตรเฉพาะทางอย่างสม่ำเสมอ โดยในปี 2566 จะมีนักปั่นและผู้ฝึกสอนในประเภทลู่และถนนเข้ารับการอบรมหลักสูตรประจำปีของศูนย์ฝึกฯ ทั้งสองหลักสูตร ประกอบด้วย หลักสูตรประเภทลู่ ระหว่างวันที่ 22 กรกฎาคม – 21 สิงหาคม ที่สมาคมฯ จะส่งนักกีฬาประกอบด้วย นายเควิน อเล็กซานเดอร์ เบาค์ กับ นายวันชนะ ธรรมปัญญา และผู้ฝึกสอนคือ นายสุริยา วงศ์พันธุ์ เข้าอบรม ส่วนหลักสูตรประเภทถนน ระหว่างวันที่ 7 สิงหาคม – 6 กันยายน จะส่งนักกีฬาคือ น.ส.พิทยาพร แซ่ตั๋น ส่วนผู้ฝึกสอนคือ ร.ต.อ. ประจักษ์ มหาวงศ์ เข้ารับการอบรม

“นอกจากนี้ หลังจากที่สภาวะการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกคลี่คลายลง สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ก็ได้รื้อฟื้นความร่วมมือกับพันธมิตรเก่าแก่คือสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศจีน ในโครงการแลกเปลี่ยนระหว่างกัน ซึ่งทางจีนก็จัดส่งนักกีฬาเข้ามาร่วมการแข่งขันและฝึกซ้อมในเมืองไทย ในขณะที่นักกีฬาทีมชาติไทย ก็ได้รับเชิญทั้งไปฝึกซ้อมและแข่งขันในการแข่งขันจักรยานรายการใหญ่ ๆ ของจีน ไม่ว่าจะเป็นทัวร์ ออฟ ชิงไห่ เลค, ทัวร์ ออฟ หวงซาน, ทัวร์ ออฟ โปยาง เลค ในประเภททีมชาย หรือทัวร์ ออฟ เหวินจู , ทัวร์ ออฟ จงหมิง ไอส์แลนด์ และ ทัวร์ ออฟ กวางซี ในประเภททีมหญิง ที่จะส่งผลดีสำหรับการเก็บคะแนนสะสมคัดโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่จะสิ้นสุดในเดือนตุลาคม 2566” พลเอกเดชา กล่าว

พลเอกเดชา กล่าวต่อไปว่า ขณะเดียวกัน ทางสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศจีน ก็ยังช่วยเหลืออำนวยความสะดวกให้แก่ทีมชาติไทยในประเภทลู่ เรื่องการฝึกซ้อมและตระเวนแข่งขันในจีนเช่นเดียวกัน ซึ่งในปัจจุบัน นักปั่นประเภทลู่ทีมชาติไทยชุดเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 อยู่ระหว่างการฝึกซ้อมที่เมืองกว่างสี มณฑลซานซี ร่วมกับนักปั่นทีมชาติจีนในเวลโลโดรมกว่างสี ระยะทาง 250 เมตร ที่จะทำให้นักกีฬาจักรยานไทยมีความคุ้นเคยกับเวลโลโดรม 250 เมตรเพิ่มมากขึ้นก่อนที่จะเข้าสู่การแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ในเดือนกันยายน ซึ่งนอกเหนือจากการฝึกซ้อม จีนยังได้จัดแมตช์ประลองพิเศษระหว่างทีมชาติไทยกับนักกีฬาจักรยานจีนเป็นระยะ ๆ เพื่อทดสอบพัฒนาการ โดยได้รับรายงานจาก ร.ต.อ.อดิศักดิ์ วรรณศรี ผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ที่คุมทีมเดินทางไปฝึกซ้อมตั้งแต่เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนจะเริ่มประลองนัดแรกกับทีมจักรยานเมืองกว่างสีในวันศุกร์ที่ 21 กรกฎาคมนี้ เป็นนัดแรก.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน