เสี่ยวินิจ ลั่นไฟต์ ‘บัวขาว-ปาเกียว’ ชกจริงไม่ชกโชว์ ยกเป็นแมตช์ที่โลกจดจำ สภามวยโลกทำเข็มขัดแชมป์ระดับตำนาน ให้กับผู้ชนะ
เมื่อวันที่ 20 ก.ค.66 ที่อาคารรับรองสายการบินเอ็มเจ็ต นายวินิจ เลิศรัตนชัย ผู้บริหารบริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด ให้การต้อนรับ แมนนี ปาเกียว ยอดนักชกชาวฟิลิปปินส์ ซึ่งเดินทางมาประเทศไทย เพื่อเซ็นสัญญา และแถลงข่าวการขึ้นชกแมตช์พิเศษกับ บัวขาว บัญชาเมฆ ยอดนักชกมวยไทย ที่จะมีขึ้นเดือนม.ค.2567 ในรายการ “เดอะ แมตช์ ออฟ ลีเจนด์”
นายวินิจ กล่าวว่าตนเองรู้จักและสนิทกับบัวขาวมาเป็นเวลานานแล้ว และบัวขาวถือเป็นยอดนักชกมวยไทยที่โด่งดังไปทั่วโลก ก่อนหน้านี้เคยถามบัวขาวว่าเมื่อประสบความสำเร็จในวงการมวยไทยมาหมดแล้วอยากทำอะไรจากนี้ ได้รับคำตอบว่าสักครั้งในชีวิตก่อนตายอยากขึ้นชกกับแมนนี ปาเกียว สักครั้ง
“คำตอบที่ได้ทำให้ผมแทบตกเก้าอี้และถามกลับไปว่าจะสู้ปาเกียวได้หรือ ซึ่งตัวบัวขาวเองมั่นใจว่าพร้อมที่จะเจอกับปาเกียวอย่างแน่นอน นั่นทำให้เราเริ่มโปรเจกต์ครั้งนี้ แน่นอนว่าการเจรจากับทีมงานของปาเกียวนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะทันทีที่เรายื่นข้อเสนอไปคำถามแรกที่ได้คือ บัวขาว คือใคร เราจึงส่งโปรไฟล์ของบัวขาวให้ปาเกียวพิจารณา ก่อนที่การเจรจาจะดำเนินมาถึงตรงนี้”
“การจัดศึกใหญ่ครั้งนี้ผมเชื่อว่าจะเป็นงานใหญ่ที่สุดที่เมืองไทยเคยจัดมา เพราะเป็นการชกกันระหว่างสุดยอดนักมวยโลกในแต่ละฟาก บัวขาวขึ้นชื่อว่าเป็นเบอร์หนึ่งด้านมวยไทย ขณะที่ปาเกียวนั้นเป็นหมายเลขหนึ่งของฝั่งมวยสากล ดังนั้นการเจอกันครั้งนี้จึงเป็นการชกที่โลกจดจำ”
“แน่นอนว่าหลายคนอาจจะสงสัยว่าการชกจะเป็นรูปแบบไหน ผมบอกได้เลยว่าเป็นการชกที่จริงจัง ไม่ใช่ชกโชว์ และจะเป็นครั้งแรกที่บัวขาวจะขึ้นชกมวยสากล ส่วนกฎกติกาจะเป็นแบบไหนนั้นเราจะมีการแถลงแจกแจงรายละเอียดอีกครั้ง”
“อย่างที่บอกการชกครั้งนี้จริงจังมาก ดังนั้นเราจึงร่วมมือกับหลายฝ่ายโดยเฉพาะสภามวยโลก (WBC) ได้เข้ามาร่วมด้วย และครั้งนี้สภามวยโลกจะทำเข็มขัดแชมป์ระดับตำนานของสภามวยโลกมอบให้กับผู้ชนะในครั้งนี้ด้วย”
“นอกจากคู่เอกประจำรายการระหว่างปาเกียวกับบัวขาวในครั้งนี้แล้ว เรายังมีมวยคู่อื่นๆ ที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กันให้แฟนมวยได้ชมแบบใกล้ชิด พร้อมกันนี้เราจะมีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลกในทุกแพลตฟอร์มขึ้นอยู่กับว่าประเทศนั้นๆ จะรับสัญญาณถ่ายทอดสดในรูปแบบใด”
