บัวขาว จ่อปะทะ ปาเกียว ยอดมวยอดีดแชมป์โลก 8 รุ่น เฟรชแอร์ เฟสติวัล ทุ่มงบกว่า 860 ล้านบาท ด้าน นายวินิจ เผยจัดใหญ่ ค่าตัวทุบสถิติจัดชกมวยในประเทศไทยแน่นอน

เมื่อวันที่ 21 ก.ค.66 ที่ไอคอนสยาม นายวินิจ เลิศรัตนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด เป็นประธานในงานแถลงข่าว “THE MATCH OF LEGEND” การแข่งขันชกมวยครั้งประวัติศาสตร์ ระหว่าง 2 ตำนานนักชกระดับโลก โลก “เดอะแพ็คแมน” แมนนี่ ปาเกียว อดีตแชมป์โลก 8 รุ่นคนแรกของโลก ชาวฟิลิปปินส์ ปะทะ บัวขาว บัญชาเมฆ ยอมมวยไทยขวัญใจชาวไทย

นายวินิจ เลิศรัตนชัย กล่าวว่า “THE MATCH OF LEGEND เป็นแนวคิดการสร้างสรรค์งานอีเวนต์ในรูปแบบใหม่ที่มุ่งเน้นที่การดึงดูดนักกีฬาระดับเวิลด์คลาส มาจัดแข่งขันกัน มวยไฟต์นี้ถือเป็นแมตช์ประวัติศาสตร์ ที่จะได้เห็น 2 ยอดมวยโลกได้มาดวลหมัดกัน ที่สำคัญจะเป็นครั้งแรกที่ บัวขาว มาต่อยมวยสากล ซึ่งถือเป็นความท้าทายของ บัวขาว ในขณะที่ ปาเกียว เองถือเป็นนักมวยที่รู้จักกันทั่วโลกด้วยผลงานที่ยังไม่มีนักมวยคนไหนมาล้มได้ และที่สำคัญทั้งสองยังคงโลดแล่นอยู่บนสังเวียนผืนผ้าใบ การนำเอา 2 นักชกระดับตำนานมาดวลหมัดกันจึงเป็นปรากฏการณ์ที่เชื่อว่าวงการกีฬาโลกจะให้ความสนใจกับแมตช์นี้ และการมาปรากฏตัวของ ปาเกียว ในวันนี้เป็นการยืนยันว่า ไฟต์หยุดโลกจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

“เป็นที่ทราบกันดีว่าการจะจับยอดมวย 2 คนนี้มายืนบนสังเวียนเดียวกันนั้นเป็นเรื่องยากมาก ครั้งนี้ได้มีการติดต่อไปหาปาเกียว ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา โดยใช้เวลาราว 6-7 เดือนในการเจรจา โดยในการชกจะชกในรูปแบบมวยสากล ภายใต้กติกาขององค์กรสภามวยโลก (WBC) ใช่กรรมการตัดสินจาก WBC ความพิเศษของเดอะแมตช์ จะใช้กติกากลาง ระหว่างมวยสากลกับมวยไทย ซึ่งจะมีความปลอดภัยและสนุกตื่นเต้น ชก 6 ยก ยกละ 3 นาที พัก 2 นาที พิกัดน้ำหนัก 70 กก. โดยมูลค้าในการจัดไฟต์นี้อยู่ที่ 25 ดอร์ล่า หรือราว 860 ล้านบาท ส่วนค่าตัวของทั้งคู่ทุบสิติในการจัดการแข่งขันชงมวยในประเทศไทยแน่นอน ผู้ชนะจะได้รับเข็มขัดแชมป์ซึ่งถูกออกแบบมาเป็นพิเศษจาก WBC และเงินรางวัล นอกจากนี้ยังมีรางวัลพิเศษสำหรับคู่น็อกเร็ว ซึ่งเงินรางวัลอัดฉีดพิเศษที่จตะมาจากผู้สนับสนุนใจดีเชื่อว่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาทแน่นอน”

“อย่างไรก็ตามเรื่องของววันเวลาสถานที่ นั้นจะจัดการแข่งขันในช่วงไตรมาสแรกของปีแน่นอน ส่วนสถานที่ วันเวลานั้นจะมีการแจ้งให้ทราบอีกครั้ง ซึ่งทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับความเหมาะสม”

ขณะที่ แมนนี่ ปาเกียว กล่าวว่า รู้จักบัวขาวในฐานะที่เป็นยอดนักมวยไทยที่เป็นโด่งดั่งไปทั่วโลก ถนัดเข่าศอก ต่างจากมวยสากลที่ใช้หมัด ทำให้บัวขาวคงต้องไปซ้อมหนัก แต่ยังพอทีเวลา ส่วนตัวนั้นก็ชื่นชอบมวยไทย และเคยมาฝึกมวยไทยที่ไทยเมื่อปี 2005 ซึ่งยากกว่ามวยสากลมาก เพราะต้องใช้ทุกอย่าง ทั้งหมัดเท้าเข่าศอก ส่วนอาหารไทยที่ชื่นชอบคือผัดไท

ปาเกียวกล่าวอีกว่า สภาพร่างกายตนเองนั้นอยู่ที่ 90 เปอร์เซ็นต์ และยังฝึกซ้อมอย่างหนักต่อเนื่อง ส่วนคำถามว่าจะน็อกบัวขาวภายในยกไหนนั้น ตามสไตล์ของตนจะทำเต็มที่ให้มีความสนุก และแฮปปี้โดยไม่ได้มองว่าจะน็อกให้ได้ยกไหน อย่างไรก็ต่า รู้สึกภูมิใจ และเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้ขึ้นชกกับยอดนักมวยไทยที่โด่งดังไปทั่วโลกอย่างบัวขาวในไฟต์ประวัติศาสตร์ครั้งนี้

ด้าน บัวขาว บัญชาเมฆ กล่าวว่า ตนพูดกับนายวินิจว่าสิ่งที่อยากทำก่อนแขวนนวม แต่ยังไม่ได้ทำ เป็นความฝันคืออยากชกกับปาเกียว กระทั้งผ่านไป 2 เดือน นายวินิจได้ติดต่อมาว่าจะเกิดไฟต์นี้ขึ้น ก็รู้สึกตกใจ และไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นจริง เพราะเราติดตามปาเกียวชกมาโดยตลอด เขาเป็นยอดนักชกระดับโลก และขอบคุณที่เราได้มาปะทะกันในไฟต์นี้ เนื่องจากเราเป็นสายนักสู้เหมือนกัน

บัวขาวกล่าวอีกว่า การซ้อมของตัวเองก็ทำอย่างต่อเนื่อง แต่คงเพิ่มมากขึ้นในเรื่องการคุมความคิดไม่ให้ออกอาวุธมวยไทย แต่ไม่ต้องกลัว ยังไงก็อาจจะมีหลุด แต่ยืนยันว่าพร้อมขึ้นสังเวียนแน่นอน พร้อมสู้เต็มที่ ส่วนคำถามว่าจะน็อกปาเกียวในยกไหนนั้น ขึ้นอยู่กับสถาการณ์ ไม่แน่ว่าเริ่มต้นยกแรกมาก็อาจจะน็อกแรกก็ได้ ซึ่งหากตนน็อกได้จะได้เงินรางวัลพิเศษก็จะนำไปทำการกุศลด้วยการสร้างวิทยาลัยการกีฬาให้กับเยาวชนที่ขาดโอกาส เพื่อสร้างนักกีฬา และนักมวยรุ่นใหม่ขึ้นมา

สำหรับ แมนนี่ ปาเกียว เป็นนักมวยอาชีพที่ได้แชมป์โลก 8 รุ่นคนแรกของโลก ถือเป็นตำนานที่ยังมีลมหายใจ ขณะที่ บัวขาว บัญชาเมฆ เป็นสุดยอดมวยไทย ผู้สร้างตำนานคว้าแชมป์ K-1 ถึง 2 สมัย และได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักมวยไทยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล ซึ่งศึกดวลหมัดไฟต์นี้จะถ่ายทอดสุดยอดความเป็นมืออาชีพที่ยากจะหาคู่เทียบได้ และถือเป็นโอกาสครั้งหนึ่งที่โลกจะได้ชมนักชกผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาลขึ้ามาอยู่บนสังเวียนเดียวกัน แมตช์นี้จะใช้การแข่งขันภายใต้กติกามวยสากล ยิ่งทำให้ทวีความน่าสนใจ และความน่าตื่นเต้นขึ้นไปอีก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน