เปิดตัวคู่ชก บัวขาว บัญชาเมฆ ยอดนักชกชาวไทย หลังคัมแบ็กชกจริง ที่ราชดำเนิน ประเดิมสังเสียนพบ ยาสุฮิโระ คิโดะนักคิกบ็อกซิ่ง ซูเปอร์สตาร์มากประสบการณ์จากญี่ปุ่น ซึ่งดีกรีไม่ธรรมดาเคยคว้าแชมป์ K-1 มาแล้วเช่นกัน
หลังจากที่ห่างหายจากการขึ้นชกในประเทศไทยไปนาน ในที่สุด บัวขาว บัญชาเมฆ ยอดนักชกชาวไทยก็ได้ฤกษ์กลับมาสานต่อตำนานของเขาอีกครั้งในศึก RWS: Legend of Rajadamnern วันที่ 9 กันยายนนี้ โดยคู่ชกที่เขาจะต้องรับมือในคราวนี้ก็คือ ยาสุฮิโระ คิโดะ นักคิกบ็อกซิ่งซูเปอร์สตาร์มากประสบการณ์จากญี่ปุ่น ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมายไม่แพ้กัน
สำหรับไฟต์นี้จะพิเศษกว่าไฟต์ก่อนๆของบัวขาวใน RWS เพราะว่าจะเป็นการชกแบบมีการนับผลแพ้ชนะลงในสถิติอาชีพของทั้งคู่ ไม่ใช่ Exhibition fight เหมือนไฟต์ก่อนหน้า โดยจะเป็นการเจอกันในกติกาคิกบ็อกซิ่งแบบสามยก มีการเปิดผลคะแนนในแต่ละยกให้ทราบตามกฎของ RWS
เรื่องราวของ บัวขาว กับคิโดะ ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยเลยเนื่องจากทั้งคู่ได้ชื่อว่าเป็นนักมวยคิกบ็อกซิ่งจากยุคสมัยที่ถูกเรียกขานว่า “ยุคทองของคิกบ็อกซิ่ง” ต่างฝ่ายต่างก็แจ้งเกิดจากรายการคิกบ็อกซิ่งระดับโลกอย่าง K-1 มาเหมือนกัน และต่างฝ่ายต่างก็เคยได้แชมป์ K-1 มาแล้วด้วยกันทั้งคู่ ผ่านสารพัดยอดมวยร่วมยุคสมัยมาแล้วมากมายนับไม่ถ้วน
ครั้งหนึ่งนั้น เส้นทางของ บัวขาว กับคิโดะถือว่าเข้าใกล้กันมากเมื่อทั้งคู่ได้มีโอกาสเข้าร่วมทัวร์นาเมนต์ K-1 World MAX ปี 2008 ซึ่งเป็นปีเดียวกันที่คิโดะ ได้แชม์ K-1 World MAX Japan Tournament แต่น่าเสียดายที่พวกเขาอยู่กันคนละสายและพลาดท่าตกรอบไปก่อนที่เส้นทางของพวกเขาจะโคจรมาเจอกัน ซึ่งในทัวร์นาเมนต์นั้น บัวขาว อดีตแชมป์เค-วันปี 2004 และ 2006 ก็ลงแข่งขันด้วย แต่ทั้งคู่ไม่ได้มีโอกาสเจอกัน เพราะในรอบ 8 คนสุดท้าย บัวขาว พ่ายน็อกให้กับโยชิฮิโระ ซาโตะ ไปเสียก่อนในยกที่ 3 ส่วนคิโดะก็พ่ายเทคนิเกิลน็อคเอ๊าท์ในยกที่สองให้กับอาเธอร์ คีเชนโก้นักชกยาวยูเครนในยกที่สอง
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าวันเวลาจะผ่านไปหลายปีจนบรรดายอดมวยในยุคสมัยของพวกเขาต่างก็โบกมือสังเวียนการต่อสู้กันไปหมด ทั้ง บัวขาว และคิโดะ กลับยังตั้งหน้าตั้งตาสร้างตำนานของพวกเขาต่อไป จนในที่สุดเส้นทางของพวกเขาก็ได้โคจรมาบรรจบกันเสียที
ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือการปะทะกันของสองตำนานร่วมสมัยอย่างแท้จริง นี่คือศึกแห่งศักดิ์ศรีที่จะทำให้ผู้คนทั่วโลกได้เห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อสองยอดมวยคิกบ็อกซิ่งมากประสบการณ์ได้พบกันบนสังเวียน 9 กันยายนนี้ มาพิสูจน์ด้วยตาคุณกันว่าบทสรุปของเรื่องราวทั้งหมดนี้จะเป็นอย่างไร อีกทั้งยังอัดแน่นไปกับคู่มวยคุณภาพกับ RWS 2023 Tournament ในรอบ 4 คนสุดท้ายของรุ่น Super Welterweight 154 ปอนด์
Advertisement
ศึก RWS : Legend of Rajadamnern ในวันที่ 9 กันยายนนี้ แฟนมวยสามารถหาซื้อบัตรได้ที่ rajadamnern.com หรือสามารถติดตามชมการถ่ายทอดสดได้ทางทีวีเวิร์คพอยท์ช่อง 23 รวมทั้งยังมีช่องทางรับชมเพิ่มเติมทาง Youtube : WorkpointOfficial และ Facebook : Workpoint Entertainment และยังมีการถ่ายทอดสดทาง ดะโซน (DAZN) บริษัทสตรีมมิงคอนเทนต์กีฬายักษ์ใหญ่ โดยจะมีการถ่ายทอดสดไปกว่า 200 ประเทศและเขตการปกคองทั่วโลก
