ย้อนไปเมื่อ เดือน มิ.ย. 2022 “เช็ค” สุภโชค สารชาติ แนวรุกทีมชาติไทยของสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ย้ายไปร่วมทัพ คอนซาโดเล ซัปโปโร ในศึกเจลีก 1 ญี่ปุ่น พร้อมเป็นผู้เล่นจากไทยรายที่ 7 ซึ่งได้ไปค้าแข้งในลีกดังกล่าวต่อต่อจากผู้เล่นรุ่นพี่อย่าง ชนาธิป สรงกระสิทธ์ (คอนซาโดเล ซัปโปโร), คาวาซากิ ฟรอนตาเล), กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ (คอนซาโดเล ซัปโปโร) และ ธีราทร บุญมาทัน (โยโกฮามา เอฟ มารินอส) และ ธีรศิลป์ แดงดา (ชิมิสุ เอส-พัลส์) เป็นต้น ก่อนที่ในเดือน ม.ค. 2023 สุภโชค ได้เซ็นสัญญาระยะยาว 5 ปีหรือถึงปี 2027 กับ ซัปโปโร
โดยช่วงเวลาที่ผ่านมา “เช็ค” ต้องพิสูจน์ตัวเองอย่างมากในการย้ายไปค้าแข้งในลีกใหม่ และถือเป็นลีกระดับท็อปของเอเชีย เพราะกว่าเขาจะได้โอกาสลงสนามนัดแรกกับทีมนั้นล่วงเลยไปจนถึงเดือน ส.ค. 2022 แมตช์ที่ ซัปโปโร บุกชนะ โชนัน เบลมาเร่ 5-1 โดยลงสนามแทน คาสุกิ ฟูไก นาที 68 ก่อนจะจบช่วงเวลา 6 เดือนด้วยการลงสนามไปด้วยเวลารวมเพียง 93 นาที
ทว่าหลังจากเซ็นสัญญาถาวรดาวเตะวัย 25 ปีก็ได้โอกาสลงสนามต่อเนื่องแม้จะเป็นในฐานะตัวสำรอง ก่อนจะสามารถปรับตัวได้ดีขึ้นเรื่อยๆ เริ่มเข้าใจจังหวะฟุตบอล และแท็คติกของ มิไฮโล เปโตรวิช เฮดโค้ชชาวเซอร์เบีย จนเจ้าตัวได้ลงสนามาแล้ว 14 เกมติดต่อกัน และล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ก.ย. เจ้าตัวระเบิดฟอร์มด้วยการเหมาคนเดียว 2 ประตูพาต้นสังกัดเปิดบ้าน ถล่ม กัมบะ โอซากา 4-0 ในศึกเจลีก พร้อมขยับสถิติเป็นยิง 8 ประตูทุกรายการในซีซั่นนี้ (เจลีก 6 ประตู และลูวาน คัพ 2 ประตู) นอกจากนั้นเป็นการปลดล็อกชัยนัดแรกรอบ 10 เกมในลีกของสโมสรด้วย
จากผลงานที่เกิดขึ้นทำให้ สุภโชค ได้รับการจับตาว่า จะสามารถขึ้นมาเป็นดาวดวงใหม่ของลีกสูงสุดแดนอาทิตย์อุทัยในอนาคต ซึ่งล่าสุด “ข่าวสดกีฬา” ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษเปิดใจ สุภโชค ถึงประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับช่วงเวลาการค้าแข้งในแดนอาทิตย์อุทัยช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา
ความรู้สึกกับช่วงเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา ให้คะแนนตัวเองกับผลงานเท่าไหร่?
สุภโชค : ก็ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ดี และเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่ท้าทายของชีวิต ก็เป็นเรื่องราวที่ดีมาตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา โดยรวมฟอร์มของตัวเองก็อาจจะให้คะแนนไม่เยอะมากเนื่องจากโอกาสลงสนามที่ได้รับ เลยอาจจะให้สัก 6-7 คะแนนเต็ม 10 ก็คือว่าค่อนข้างพอใจในระดับนึง แต่คิดว่าตัวเองน่าจะทำได้ดีกว่านี้
อุปสรรคสำคัญในการค้าแข้งที่ญี่ปุ่น?
สุภโชค : อุปสรรคที่สุดของผมคงเป็นเรื่องแท็คติกของทีม เพราะว่ามันอาจจะแตกต่างกับที่เราเล่นมาที่ไทย รวมถึงความเข้มข้นในการฝึกซ้อม, การเบียดแย่งตำแหน่งตัวจริงภายในทีม รวมถึงการเจอกับคู่แข่งในแต่ละอาทิตย์ซึ่งทุกอย่างล้วนเป็นความท้าทาย
Advertisement
มีปรึกษานักเตะรุ่นพี่ร่วมทีมชาติบ้างไหมในการมาค้าแข้งที่ญี่ปุ่น?
สุภโชค : ผมก็มีปรึกษากับ พี่อุ้ม (ธีราทร บุญมาทัน) และพี่เจ (ชนาธิป สรงกระสิทธ์) โดยคำพูดของพวกพี่ๆ ทำให้ผมเอาตัวรอดมาได้ โดยเฉพาะพี่เจ ที่ย้ายมาอยู่ญี่ปุ่นคนเดียวเหมือนผม เขาบอกว่า เวลาอยู่คนเดียว ใจมันจะคิดฟุ้งซ่าน คิดไปเรื่อยเปื่อย ดังนั้นอย่าคิดจินตนาการสิ่งที่ยังมาไม่ถึง สนใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้าพอ
ชีวิตประจำวันที่ญี่ปุ่นทำอะไรบ้างนอกจากการเล่นฟุตบอล?
สุภโชค : ชีวิตประจำวัน ตอนแรกที่มาก็ไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ แต่ตอนนี้ก็ไปมาหมดแล้ว ทำให้ทุกวันนี้ก็อยู่ห้องเล่นเกม และฟังเพลง
เป้าหมายกับทีมในฤดูกาลนี้ และเป้าหมายสูงสุดในอาชีพค้าแข้ง?
สุภโชค : เป้าหมายกับทีมในฤดูกาลนี้คือผมอยากจะยิงให้ได้ถึง 10 ประตูทุกรายการ แม้ปัจจุบันยิงไปแล้ว 8 ประตู แต่ก็อยากทำให้ได้อย่างที่บอกก่อน แล้วก็อยากช่วยทีมคว้าแชมป์มาครองสักรายการ แต่ก็ต้องดูอีกที่ว่าจะทำได้ไหม ส่วนเรื่องเป้าหมายสูงสุดในอาชีพตอนนี้คือการพา ซัปโปโร คว้าแชมป์เจลีก
ความมั่นใจเกี่ยวกับฟุตบอลถ้วยพระราชทานคิงส์คัพที่กำลังมาถึง?
สุภโชค : ก็มีความดดันเรื่องภารกิจการพาทีมชาติไทยคว้าแชมป์คิงส์คัพ ในครั้งนี้เนื่องจากการที่พี่เจ (ชนาธิป สรงกระสิทธ์) ไม่อยู่ (ถอนตัวจากอาการบาดเจ็บ) แต่ก็จะทำเต็มที่ที่สุด เพื่อให้ทีมชาติไทยคว้าแชมป์ให้ได้
การคัดเลือกฟุตบอลโลกที่ไทยต้องอยู่ร่วมสายกับทีมแกร่งอย่าง เกาหลีใต้ และจีน?
สุภโชค : ก็การที่อยู่กับ เกาหลีใต้ กับจีน เป็นกลุ่มที่ยาก เพราะทุกทีมอยากไปบอลโลก แต่เรามีเป้าหมายเดียวคืออยากไปบอลโลกให้ได้ ดังนั้นผมหวังว่า เราผ่านทีมเหล่านี้ให้ได้
อยากฝากอะไรถึงน้องๆ ที่มีความฝันจะมาค้าแข้งในลีกญี่ปุ่น?
สุภโชค : ฝากถึงน้องๆ ที่อยากจะมาเล่นฟุตบอลเจลีกในอนาคต ต้องเตรียมตัวมาให้ดีในทุกด้าน โดยเฉพาะเรื่องจิตใจที่เป็นเรื่องสำคัญที่สุด
และทั้งหมดนี้คือส่วนหนึ่งของช่วงเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมาของ สุภโชค สารชาติ ดาวเตะทีมชาติไทยซึ่งเจ้าตัวต้องเจอกับอุปสรรคมากมาย แต่สิ่งหนึ่งทุกคนเห็นได้ชัดคือการที่เขา “ต่อสู้กับร่างกาย และจิตใจของตัวเอง” เพื่อให้ได้รับการยอมรับในสนามแบบมืออาชีพ
