การแข่งขัน เปตอง ชิงแชมป์โลก 2023 ที่เมืองโกโตนู ประเทศเบนิน ระหว่าง 8-17 ก.ย.66 ชิงชัยรวม 7 ประเภท ประกอบด้วย ประเภทเดี่ยวชาย, เดี่ยวหญิง, คู่ชาย, คู่หญิง, คู่ผสม, ทีมชาย และชูตติ้งชาย ล่าสุดเมื่อช่วงดึกวันที่ 12 ก.ย.66 เป็นการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศของทั้งหมด 5 ประเภท ซึ่งนักกีฬาไทย ทำผลงานยอดเยี่ยม ผ่านเข้ามาชิงชนะเลิศได้ 2 ประเภท ได้แก่ ประเภทหญิงคู่ และ ชายเดี่ยว
ประเภทชายเดี่ยว รัชตะ คำดี หรือ “ทรี สุโขทัย” จอมแม่นดาวรุ่ง ดีกรีเหรียญทองแดงประเภททีม ศึกเยาวชนโลก รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี และแชมป์ซีเกมส์ 2 สมัย ปี 2022 และ 2023 ประเภทชายคู่ โชว์ฟอร์มเยี่ยม ทำผลงานชนะ 3 แพ้ 1 จบอันดับที่ 6 รอบแรก ผ่านเข้าสู่รอบน็อตเอาท์ (16 คนสุดท้าย)
รอบ 16 คน รัชตะ เอาชนะนักกีฬา ยอน เลเมลิน แคนาดา 13-0 รอบ 8 คน ชนะ บีโอ มาเซล นักกีฬาเบนิน 13-10 ก่อนจะพลิกเอาชนะเต็งแชมป์ คริสโตเฟอร์ ซาร์ริโอ จากฝรั่งเศส 13-9 ผ่านเข้ามาชิงชนะเลิศกับ โมฮัมเหม็ด คาลิด บูร์กรีบา จากตูนีเซีย ซึ่งผลปรากฎว่าเป็น รัชตะ คำดี ที่ในจังหวะสำคัญๆโยนได้อย่างแม่นยำและเฉียบขาด เอาชนะไป 13-3 คว้าแชมป์โลกสมัยแรกให้ตัวเองได้สสำเร็จ พร้อมกับเป็นการประเดิมแชมป์โลกแรกให้กับไทยในทัวร์นาเมนต์นี้
ต่อด้วยประเภทหญิงคู่ ไทยส่ง “ฝ้าย” นันทวัน เฟื่องสนิท จอมแม่นประสบการณ์สูง ซึ่งในปี 2017 และ 2019 เจ้าตัวเคยผนึกกำลังกับ พันธ์ทิพา วงศ์ชูเวศ สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์โลกหญิงคู่มาแล้ว มาคราวนี้ ผนึกกำลังกับอีกหนึ่งมือแม่นฝีมือดี “แนท” สุนิตา พ่วงอยู่ ลงชิงชัย โดยรอบแรก 2 สาวไทยลงสนาม 4 นัด ทำผลงานยอดเยี่ยม กวาดชัยชนะทั้ง 4 เกม ผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ด้วยการเป็นอันดับ 1
รอบ 16 คู่สุดท้าย สองสาวไทยยังเครื่องร้อน โยนเอาชนะคู่จากคาซัคสถานขาดลอย 13-0 ก่อนที่รอบก่อนรองชนะเลิศ จะเอาชนะทีมเบนิน เจ้าถิ่น 13-1 และรอบรองชนะเลิศ เอาชนะสเปนได้อีก 13-2 ผ่านเข้ามาชิงกับ เนลลี เปย์เร กับ ออเดรย์ บันเดียรา คู่เต็งแชมป์ของฝรั่งเศส ปรากฎว่าคู่สาวไทยเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมตั้งแต่ต้น เอาชนะไป 13-1 คว้าแชมป์โลกรายการที่ 2 มาครอง
ประเภทคู่ผสม “แจ๊ค” ศราวุฒิ ศรีบุญเพ็ง กับ “ฝ้าย” นันทวัน เฟื่องสนิท พ่ายให้ ดีแลน โรเชอร์ กับ ออเดรย์ บันเดียรา จากฝรั่งเศส 4-13 รอบรองชนะเลิศ ได้เหรียญทองแดงปลอบใจ ส่วนชายคู่ รัชตะ คำดี กับ ศราวุฒิ ศรีบุญเพ็ง ตกรอบก่อนรองชนะเลิศ หลังพ่ายให้กับคู่นักกีฬาจากกัมพูชาไปอย่างหวุดหวิด 12-13 ชวดเหรียญรางวัล เช่นกันกับประเภทหญิงเดี่ยว “แนท” สุนิตรา พ่วงอยู่ พ่ายนักกีฬาจากกัมพูชา ตกรอบ 16 คนสุดท้าย ชวดเหรียญรางวัลเช่นกัน
สรุปหลังจบการชิงชัย 5 ประเภท ทีมเปตองไทยคว้ามา 2 เหรียญทอง จากหญิงคู่ และ ชายเดี่ยว และยังได้อีก 1 เหรียญทองแดงประเภทคู่ผสม โดยในรายการนี้ไทยยังเหลือแข่งอีก 2 รายการ คือ ทีมชาย และชูตติ้งชา
