อรวรรณ พาระนัง – เทนเบิลเทนนิสทีมหญิงทีมชาติไทย เพิ่งสร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญทองแดงใน เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่เมืองหางโจว ประเทศจีน มาครองได้สำเร็จ
โดยเหรียญดังกล่าว ถือเป็นเหรียญรางวัลแรกในประวัติศาสตร์ของกีฬาเทเบิลเทนนิสทีมชาติไทย ในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ นับตั้งแต่ที่กีฬาชนิดนี้ได้รับการบรรจุเข้าร่วมการแข่งขัน เมื่อปี 1958 หรือ ในรอบ 65 ปี
“ทิพย์” อรวรรณ พาระนัง หนึ่งในทีมลูกเด้งหญิงทีมชาติไทยชุดนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญของทีม เพราะเธอคว้าชัยชนะได้ 2 คู่ ในการพบกับ อินเดีย ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ก่อนจะมาระเบิดฟอร์มจัดการเกาหลีเหนือไปอีก 2 คู่ ช่วยให้ไทยชนะทัพโสมแดงไป 3-2 คู่ในรอบก่อนรองชนะเลิศ อันเป็นที่มาของกาการันตีเหรียญทองแดงประวัติศาสตร์ ก่อนที่รอบรองชนะเลิศไทยจะไม่สามารถต้านทานความแกร่งของ จีน เจ้าภาพและเต็งหนึ่งของการแข่งขันได้ และจบด้วยการเป็นอันดับ 3 ในทัวร์นาเมนต์นี้
อย่างไรก็ตามกว่าจะก้าวมาถึงการคว้าเหรียญประวัติศาสตร์ในครั้งนี้ อรวรรณ พาระนัง นักตบลูกเด้งสาวจากอุบลราชธานี ต้องฟันฝ่าอุปสรรคมากมาย เพื่อไล่ตามความฝันบนเส้นทางลูกเด้งที่เหมือนกับว่าเธอ เกิดมาเพื่อมัน
“ทิพย์” มีแรงบันดาลใจที่ทำให้สนใจกีฬาชนิดนี้ จากการเห็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนได้ออกไปยืนหน้าเสาธงตอน เนื่องจากทางโรงเรียนต้องการจะประกาศว่าพวกเขาเหล่านั้นได้สร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียนจากการคว้าแชมป์การแข่งขันเทเบิลเทนนิส
เด็กน้อยในชั้นอนุบาล 3 เกิดความคิดขึ้นใจว่าอยากจะไปยืนอยู่ตรงจุดนั้นแบบพี่ๆบ้าง จึงมีความคิดที่จะหัดเล่นเทเบิลเทนนิสอย่างจริงจัง
เธอพยายามไปขอร้องให้อาจารย์ช่วยสอนให้ แต่ด้วยอายุที่ยังน้อย และเธอเป็นคนที่ตัวเล็ก ทำให้ในช่วงแรก อาจารย์นิวาศ สมคะเน ยังไม่ยอมสอนให้ เพราะเธอยังสูงไม่พอที่จะตีได้ เนื่องจากตัวเล็กกว่าโต๊ะ
แต่สาวน้อยก็ไม่ได้ยอมแพ้ เพราะแม้ว่าจะยังหัดตีบนโต๊ะไม่ได้เพราะติดปัญหาเรื่องส่วนสูง เธอยังคงซ้อมเดาะลูก และตีลูกกับกำแพง เป็นพันครั้งทุกวัน
และสุดท้าย เมื่อเธอได้ขึ้นชั้นป.1 ส่วนสูงของเธอ ถึงขอบโต๊ะที่ใช้เป็นสังเวียนการแข่งขันกีฬาชนิดนี้ และอาจารย์ นิวาศ สมคะเน ก็ได้กลายมาเป็นโค้ชคนแรกในชีวิตของเธอที่ไม่ได้เป็นแค่โค้ช
อรวรรณ เล่าถึงชีวิตในสมัยเด็กว่า ครอบครัวมีฐานะที่ค่อนข้างลำบาก แม้แต่เงินจะซื้อไม้ปิงปองก็ยังไม่มี ไม้แรกในชีวิตของเธอ ก็ได้รับมาจากอาจารย์นิวาศ และทุกวันนี้อาจารย์ก็ยังเป็นอีกหนึ่งกำลังใจสำคัญของเธอเช่นเดียวกับครอบครัว
ขณะที่ฝีมือของเธอพัฒนาขึ้น เธอก็เริ่มเดินสายแข่งขัน โดยได้พ่อกับแม่พาซ้อนมอเตอร์ไซค์ไปแข่งแม้ว่าในบางครั้ง จะต้องเดินทางไกลหลายสิบกิโลเมตรด้วยพาหนะชนิดนี้ก็ตาม
แต่ด้วยความมุ่งมั่นและแน่วแน่ ในการไล่ตามความฝันการเป็นนักกีฬาเทเบิลเทนนิส ทำให้ก้าวข้ามทุกอุปสรรค ทั้งการที่ต้องย้ายมาอยู่ที่กรุงเทพเพียงลำพัง แม้จะอยู่ในช่วงมัธยมต้น เพื่อยกระดับการเล่นของตัวเอง จนกลายมาเป็นกำลังหลักของทีมชาติไทย
แต่แน่นอนว่าทุกเส้นทางนั้นไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป ตัวเธอเองก็มีช่วงเวลาที่รู้สึกท้อ และเคยคิดจะหันหลังให้กับกีฬาชนิดนี้ ด้วยการลองห่างออกมาจากการตีปิงปอง ในวันที่รู้สึกว่าไม่โอเคกับการเล่น แต่สุดท้ายพอได้ลองห่างมันแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึง เลยทำให้เรากลับมาและเดินหน้าต่อไปบนเส้นทางนี้
จากฝันเล็กๆคือการได้ยืนหน้าเสาธงต่อหน้าพี่ๆ สู่การเป็นนักกีฬาทีมชาติ และคว้าเหรียญประวัติศาสตร์ในเอเชียนเกมส์ แต่ความฝันของเธอยังไม่สิ้นสุดแค่ไหน เหรียญรางวัลในมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง โอลิมปิก เกมส์ คือก้าวต่อไปที่เธออยากไปให้ถึง และเชื่อว่าทุกคนที่ได้รู้จัก “ทิพย์” อรวรรณ พาระนัง ก็คงอยากเห็นเธอได้ไปยืนอยู่ตรงจุดนั้นเช่นกัน