กองทุนกีฬา โดย ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ แจ้งเงินรางวัลเป็นของนักกีฬา มีการโอนตรงเข้าบัญชีนักกีฬา ชี้ไม่ควรมีหักหัวคิวนักกีฬาเกิดขึ้น
หลังจาก“โจ้” พ.ต.ท. สืบศักดิ์ ผันสืบ อดีตนักตะกร้อทีมชาติไทย เป็นตัวแทนอดีตนักกีฬาเรื่องการยื่นร้องร้องเรียนการทำหน้าที่ของ ผู้จัดการทีมชาติไทย, ผู้ฝึกสอน ทีมตะกร้อทีมชาติไทย โดยมี นายบุญชัย หล่อพิพัฒน์ อุปนายกสมาคมตะกร้อแห่งประเทศไทย เป็นผู้รับเรื่อง เมื่อวันที่ 7 พ.ย.66 ที่ผ่านมา ซึ่งเปิดเผยข้อมูลมีการหักหัวคิวเงินรางวัลนักกีฬาตะกร้อทีมชาติไทยมานานกว่า 10 ปี จนเป็นประเด็นให้พูดถึงเป็นวงกว้างในโลกโซเชียล
ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ออกมาเปิดเผยว่า ขั้นตอนในการเบิกจ่ายเงินรางวัลนักกีฬา สมัยก่อนจะเป็นการสั่งจ่ายเช็ค แต่ในยุคปัจจุบันมีการปรับปรุงระบบการจ่ายเงินเป็นการโอนเงินตรงเข้าบัญชีนักกีฬา ซึ่งก่อนหน้านั้นนักกีฬาทุกคนจะต้องมาเซ็นสัญญากับกองทุนฯ เนื่องจากจะมีเรื่องของการตรวจสารต้องห้ามเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งหากนักกีฬามีการตรวจพบสารต้องห้ามก็จะมีการยึดเงินรางวัลคืนเป็นต้น อย่างไรก็ตามเมื่อนักกีฬาแข่งขันจบแล้ว กองทุนฯ จะทำการโอนเงินเข้าบัญชีนักกีฬาโดยตรงโดยไม่ผ่านสมาคมกีฬา เนื่องจากเงินส่วนนั้นเป็นของนักกีฬาทั้งหมด
“อธิบายให้เข้าใจแบบง่ายๆ เงินรางวัลในส่วนของนักกีฬา กองทุนกีฬา จะโอนให้นักกีฬาทั้งหมด ส่วนเงินอีกส่วนเป็นของสมาคม 30 เปอร์เซ็นต์ของเงินรางวัลนักกีฬา และส่วนของผู้ฝึกสอน อีก 20-30 เปอร์เซ็นต์ ของเงินรางวัลนักกีฬา กองทุนฯจะโอนให้สมาคมกีฬานั้นๆไปบริหารจัดการเอง ซึ่งจะเห็นว่าเงินแต่ละส่วนถูกจ่ายอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามในส่วนที่นักกีฬาไปทำข้อตกลงกับสมาคมกีฬานั้น กองทุนฯ ไม่ได้รับทราบ เป็นข้อตกลงที่ สมาคมฯกับนักกีฬาทำขึ้นมาเอง แต่ส่วนตัวมองว่าไม่ควรเกิดขึ้น และไม่ควรมีเพราะแต่ละส่วนก็ได้เงินของตัวเองกันหมดแล้ว”
“ยกตัวอย่างสมาคมกีฬาตะกร้อ ที่มีปัญหาร้องเรียนกันอยู่ตอนนี้ นักกีฬาตะกร้อชุดเอเชียนเกมส์ครั้งล่าสุด ได้เงินรางวัลกว่า 86 ล้าน เงินส่วนนี้โอนตรงเข้าบัญชีนักกีฬา อีก 2 ส่วน คือเงินรางวัลของสมาคม จะได้ 30 เปอร์เซ็นต์ แต่ไม่เกิน 10 ล้านบาท ดังนั้นสมาคมฯก็จะได้เงินครั้งนี้ 10 ล้านบาท และส่วนของผู้ฝึกสอนตามเกณฑ์ ไม่เกิน 6 คน จะได้ 20 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งครั้งนี้ได้ไป 8.8 ล้านบาท ดังนั้นยอดรวมที่โอนให้สมาคมก็จะอยู่ที่ 18.8 ล้านบาท ซึ่งมองว่าเงินที่มากพอสมควรแล้ว เนื่องจากเงินส่วนนี้ที่สมาคมได้รับเป็นเงินได้เปล่า ยังไม่รวมไปถึงงบประมาณเก็บตัวฝึกซ้อมที่กองทุนก็จ่ายอยู่แล้ว หรืองบประมาณสนับสนุนประจำปี ที่การกีฬาแห่งประเทศไทย ก็จ่ายสนับสนุนให้ทุกปีอยู่แล้ว”
