หลังจาก ทอฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน โดนลงโทษตัด 10 แต้ม จากการทำผิดกฎควบคุมการเงิน หรือ ไฟแนนเชียล แฟร์เพย์(FFP) ล่าสุดหลายฝ่ายมองว่า หากมีการดำเนินการลงโทษที่เข้มงวดในมาตรฐานเดียวกัน”เรือใบสีฟ้า” แมนฯซิตี้ และ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี อาจจะตกที่นั่งลำบากด้วย

สเตฟาน บอร์สัน ทนายความเชี่ยวชาญด้านกีฬา ซึ่งเคยทำหน้าที่ที่ปรึกษาด้านการเงินให้กับสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แสดงความเห็นว่า การที่เอฟเวอร์ตันโดนลงโทษตัด 10 แต้มนั้น เป็นการบังคับใช้กฎ FFP ที่โหดมาก เป็นการตอกย้ำว่า ทั้งแมนซิตี้ และเชลซี ที่ต่างเข้าข่ายทำผิดกฎ FFP ในข้อหาที่หนักกว่าเอฟเวอร์ตัน อาจจะโดนบทลงโทษขั้นรุนแรงซึ่งอาจถึงขั้นโดนปรับตกชั้นได้

ไซม่อน ลีฟ ทนายความหัวหน้าฝ่ายกฎหมายกีฬาของสำนักงานทนายความ “มิชคอน เด รายา” ระบุว่า การตัดแต้ม เอฟเวอร์ตัน ถือเป็นหน้าประวัติศาสตร์สำคัญของวงการฟุตบอลลีกอาชีพ เรื่องนี้จะสะเทือนไปยังบอร์ดบริหารของเชลซีและแมนซิตี้ในขณะนี้ เพราะเป็นครั้งแรกที่ พรีเมียร์ ลีก นำบทลงโทษตัดแต้มมาใช้กับสโมสรที่ละเมิดกฎการเงิน

ส่วนแคทเธอรีน ฟอร์ชอว์ ทนายความด้านกีฬาชื่อดังอีกราย กล่าวว่า หากคุณต้องรับหน้าที่ว่าความให้ทั้งสองทีมนี้ มันเป็นสถานการณ์ที่น่ากังวลมากๆ เมื่อเอฟเวอร์ตันถูกลงโทษ เพราะถ้าเทียบกับ แมนฯซิตี้และเชลซีแล้ว เอฟเวอร์ตันน่าจะถือว่าเป็นการลงโทษสถานเบา และโทษปรับตกชั้นไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมายเลยด้วยซ้ำ

“สกาย สปอร์ตส์” และ “เดลี่ มิร์เรอร์” ระบุว่า ถ้าคณะกรรมการไต่สวนอิสระพิจารณาว่า แมนซิตี้ หรือ เชลซี ทำผิดกฎการเงินสถานหนัก ก็อาจจะโดนลงโทษตัดแต้มถึง 30 คะแนน หรือโดนปรับตกชั้นได้

ก่อนหน้านี้ แมนซิตี้ โดน พรีเมียร์ ลีก ตั้งข้อหาละเมิดกฎการเงินถึง 115 ข้อหา เมื่อเดือนมกราคม ขณะที่ เชลซี กำลังโดนตรวจสอบเรื่องความไม่โปร่งใสของการใช้เงินในยุค โรมัน อับราโมวิช มหาเศรษฐีรัสเซีย เป็นเจ้าของทีม ซึ่ง แมนฯซิตี้ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ขณะที่เจ้าของใหม่เชลซีเป็นฝ่ายแจ้งข้อมูลความผิดปกติด้านบัญชีการเงินให้ทางลีกและสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ทราบด้วยตัวเองเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน