หลังจากที่ ศาลยุโรป ยืนยันว่า ฟุตบอลยูโรเปียนส์ ซูเปอร์ลีก ที่เรอัล มาดริด – บาร์เซโลน่า รวมทั้งอดีตพันธมิตร ไม่ผิดกฎหมายของยุโรป และ สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป(ยูฟ่า)- สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ(ฟีฟ่า) ไม่มีสิทธิ์ขัดขวางนั้น
อย่างไรก็ตาม หลายทีมยักษ์ในยุโรป มีความเห็นว่าจะไม่ร่วมสังฆกรรม เนื่องจากต้องการเคารพแฟนบอลที่หนุนหลังทีม
ล่าสุด รีชี ซูนัก นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้ร่วมแสดงจุดยืนเช่นกันผ่านการแถลงของกระทรวงดิจิตอล วัฒนธรรม สื่อสาร และการกีฬาของประเทศว่า. “ความพยายามแยกตัวไปก่อตั้งการแข่งขันใหม่จะไม่ส่งผลดีต่อวงการฟุตบอลอังกฤษ และมันจะได้รับการต่อต้าน จากแฟนบอล สโมสร และรัฐบาลอย่างเป็นเอกฉันท์ เราขอแสดงปฏิกริยาตามมุมมองของแฟนบอลซึ่งเรียกร้องให้กำหนดกฎเกณฑ์ขึ้นมาใหม่เพื่อให้ฟุตบอลอังกฤษมีความเป็นอิสระ เพื่อหยุดยั้งไม่ให้สโมสรเข้าร่วมการแข่งขันที่แยกตัวออกไปในลักษณะเดียวกันนี้ในอนาคต“
ด้าน เควิน ไมล์ส ซีอีโอของสมาคมแฟนฟุตบอลอังกฤษแถลงเช่นกันว่า “ไม่มีที่ว่างสำหรับ ซูเปอร์ลีก แฟนบอล นักเตะ และสโมสรแสดงออกอย่างชัดเจนแล้วว่าไม่ต้องการการแข่งขันนี้ จะไม่มีทีมจากอังกฤษเข้าร่วม“
ขณะที่ เคไลฟี ประธานสโมสร ปารีส แซงต์ แชร์กแมง แขวะ ฟลอเรนติโน เปเรซ ประธานสโมสรเรอัล มาดริด ตัวตั้งตัวตี ว่า ประธานราชันชุดขาวพยายามออกมาพูดเรื่องการก่อตั้ง ซูเปอร์ลีก แต่ระหว่างคลิปสัมภาษณ์นั้นกลับมีฉากหลังเป็นถ้วยแชมป์ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก จำนวนมาก
สำหรับซูเปอร์ลีก มีทีมร่วมก่อตั้งชุดแรกคือ อาร์เซนอล, เชลซี, สเปอร์, แมนฯยู, แมนฯซิตี้, ลิเวอร์พูล, อินเตอร์ มิลาน, เอซี มิลาน,ยูเวนตุส, แอตเลติโก มาดริด, เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลน่า ก่อนที่จะโดน แฟนบอล จวกยับจนถอนตัวกันหมด และเหลือเพียง เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลน่า ที่ยังเดินหน้าต่อ
