ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ภายใต้การคุมทัพของ มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือชาวญี่ปุ่น ผลงานน่าพอใจ มีรูปแบบการเล่นชัดเจน แม้ร่วงเอเชียน คัพ มีลุ้นคัดบอลโลก

ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ เพิ่งกุนซือใหม่จาก มาโน โพลกิง ชาวเยอรมัน-บราซิเลียน มาเป็น มาซาทาดะ อิชิอิ ผู้ฝึกสอนชาวญี่ปุ่น เพิ่งจบเส้นทางในฟุตบอลเอเชียน คัพ 2023 ไว้เพียงรอบ 16 ทีมสุดท้าย หลังจากพ่ายแพ้อุซเบกิสถาน หวุดหวิด 1-2

ทัพช้างศึก ต้องลุ้นพอสมควรก่อนทัวร์นาเมนต์จะเริ่มขึ้น ไม่ว่าการเปลี่ยนตำแหน่งผู้ฝึกสอน นักเตะตัวสำคัญอย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์ รวมถึง ธีรศิลป์ แดงดา บาดเจ็บไม่ได้ร่วมทัพไปกาตาร์ แถมดาวเตะอย่าง “บุ๊ค”เอกนิษฐ์ ปัญญา กองหน้าจากอูราวะ เรด ไดมอนด์ส ในเจลีก ญี่ปุ่น ขอถอนตัวกะทันหัน

กระนั้นก็ดี จะด้วยการที่ อิชิอิ เคยอยู่ในไทยมานานทั้งคุมสมุทรปราการ ซิตี้ ยกระดับทีมขึ้นได้อย่างยอดเยี่ยม หรือการพา บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เหมาแชมป์ทุกรายการในประเทศไทย 2 ฤดูกาลติด ทำให้กุนซือรายนี้มองออกว่า “ช้างศึก” ต้อง “แก้” ตรงไหน ต้อง “เสริม” จุดใด

ไทยเริ่มต้นรอบแบ่งกลุ่มในฐานะทีมรองบ่อนของกลุ่มเอฟ เมื่ออันดับโลกต่ำสุดในกลุ่ม แต่ทำช็อกด้วยการเล่นงานคีร์กิซสถาน 2-0 หักปากกาเซียนกระจุย แถมเกมสองยังเล่นเอาโอมานแทบกระอักเมื่อยันเสมอแบบมีลุ้นชนะ 0-0

นัดสุดท้ายรอบแบ่งกลุ่ม อิชิอิ ตัดสินใจเปลี่ยนทีมยกชุด เนื่องจากเข้ารอบ 16 ทีมแน่นอนแล้ว แต่การเล่นกับซาอุดีอาระเบีย เต้ยของฟุตบอลเอเชีย ที่เคยปราบอาร์เจนตินา เจ้าของแชมป์โลก ทีมล่าสุดมาแล้วกลับทำได้อย่างน่าประทับใจ สร้างจังหวะจบสกอร์หลายครั้ง แถมยังส่งบอลสู่ก้นตาข่ายไปถึง 2 ครั้ง แต่โดน “วีเออาร์” ริบคืนหมด ก่อนจะลงเอยด้วยการ 0-0 ไม่เสียประตูให้ใครเลยในรอบแรก

เกมกับอุซเบกิสถาน ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย อิชิอิ ทำเซอร์ไพรส์อีกครั้ง ด้วยการจัดตัวจริงที่ทำเอางงกันเป็นแถบ ตัวจริงที่เล่นได้ดีอย่าง ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา, สุภโชค สารชาติ, พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี, บดินทร์ ผาลา ต้องนั่งสำรอง พร้อมกับเลือก ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์, วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ, สารัช อยู่เย็น และ รุ่งรัฐ ภูมจันทึก ออกสตาร์ตตัวจริงในแดนกลาง

รูปเกมอย่างที่แฟนบอลไทยได้เห็นกันอยู่แล้วว่าอุซเบกิสถานเหนือกว่าในการครองบอลบีบให้ทีมชาติไทยต้องเล่นเกมรับ ดังนั้นมีความเป็นไปได้ว่าการที่ อิชิอิ เลือกผู้เล่นแดนกลางใหม่แทบยกแผงเพื่อใช้กำลังไล่บดไล่บี้ให้นักเตะคู่แข่งให้พลังงานให้มากที่สุดในครึ่งแรก แต่ด้วยความผิดยอดเยี่ยมของอุซเบกิสถานทำให้เป็นฝ่ายขึ้นนำ 1-0 จนได้

ครึ่งหลัง อิชิอิ ทำให้เห็นว่าการเลือกใช้ตัวหลักในแดนกลางพักเอาไว้นั้นมีเป้าหมาย เพราะทันทีที่ สุภโชค รวมถึง ศุภณัฏฐ์ ลงสนาม ทำเกมรุกของไทยดูวูบวาบขึ้นชัดเจน ก่อนจะมาได้ประตูตีเสมอจากการยิงสุดสวยของ สุภโชค สารชาติ

แม้ว่าอุซเบกิสถาน จะกลับขึ้นนำอีกครั้ง แต่ว่าวิธีการเล่นของทัพช้างศึกที่เมื่อต้องการประตูนั้นสามารถกดดันให้อุซเบกิสถานโงนเงนไม่น้อย และหวุดหวิดจะตีเสมอเพื่อยื้อไปเล่นช่วงต่อเวลาพิเศษได้อยู่แล้ว แต่อย่างที่เห็นว่าความยอดเยี่ยมของคู่แข่งที่มีแรงกิ้งอันดับ 68 ของโลกนั้น “เอาตัวรอด” ไปได้

ถึงแม้จะไม่ได้ไปต่อในเอเชียน คัพ หนนี้ แต่ว่าลูกทีมของ มาซาทาดะ อิชิอิ ชนะใจของแฟนบอลชาวไทย ซึ่งเชื่อว่า อิชิอิ คงมองไว้แล้วว่าจะปรับลูกทีมแต่ละคนอย่างไรเพื่อให้ทีมชาติไทยทำผลงานได้ดีขึ้นในรายการต่อไป นักเตะทุกคนน่าจะได้ “การบ้าน” จากกุนซือแดนปลาดิบไปแล้วว่าเมื่อกลับสโมสรต้องพัฒนาอะไรเพิ่มเติมบ้าง

หากนักเตะทุกคนทำการบ้านตามที่โค้ชชาวญี่ปุ่นได้ รับรองว่าการเล่นของทีมชาติไทยครั้งต่อไปจะทำให้แฟนบอลได้ฮือฮาแน่นอน เพราะโปรแกรมครั้งหน้านั้นสุดสำคัญ และเป็นงานยากมากด้วยเช่นกัน นั่นคือ ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ที่ต้องยกพลไปเยือน “โสมขาว” เกาหลีใต้ ในเดือนมี.ค.

ยังเหลือเวลาอีกเกือบ 2 เดือนกว่าจะถึงเกมกับเกาหลีใต้ มาดูกันว่า อิชิอิ จะทำให้ช้างศึกโขลงนี้สร้างเซอร์ไพรส์ให้คนไทยได้ยิ้มแก้มปริกันหรือไม่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน