การแข่งขันฟุตบอล เอเชียน คัพ 2023 ที่กาตาร์ เดินทางมาถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย เป็นศึกของทีมบิ๊กเนมเจอกันเอง “โสมขาว” เกาหลีใต้ โคจรมาเจอกับ “จิงโจ้” ออสเตรเลีย ที่อัล จานูบ สเตเดียม
เกาหลีใต้ ที่ทุลักทุเลมาตลอดทัวร์นาเมนต์ เกือบจะได้เฮก่อนจากการส่งบอลเข้าไปก้นตาข่ายก่อนในนาที 32 จากจังหวะที่ซน ฮึง มิน เปิดให้ โซล ยัง วู แบ็กที่เติมขึ้นมาปาดเข้ากลาง ฮวาง ฮี ชาน เข้าชาร์จหน้าปากประตูโล่งๆ แต่ VAR เช็กเป็นล้ำหน้าไปก่อน
นาที 42 ความผิดพลาดของเกาหลีใต้ในแดนตัวเอง จาก ฮวาง อิน บอม ที่ออกบอลพลาด เปิดโอกาสให้ ออสเตรเลีย ต่อบอลเข้าทำ และเป็นเคร็ก กู๊ดวิน วอลเลย์เข้าไปในนาที 42 ส่ง ออสเตรเลีย ออกนำ 1-0
นาที 53 เกาหลีใต้เกือบโดนลูก2 มาร์ติน บอยล์ ได้ลอยตัวโขกเน้นๆ โจ ฮยอน วู นายด่านเกาหลี ป้องกันเอาไว้ได้บอลไม่พ้นอันตราย บอยล์ ปรี่เข้าซ้ำอีกครั้งแต่ ฮยอน วู ออกมาปิดมุมปัดออกไปได้อีกหน
หลังจากนั้นเกาหลีใต้ โหมหนักในช่วงท้ายเกม นาทีม 90+4 ซน ฮึง มิน หัวหอกจากทอตแน่ม ฮอตสเปอร์ ลากเลื้อยปั่นป่วนแนวรับ ออสเตรเลีย เข้าถึงกรอบเขตโทษก่อนโดน ลูอิส มิลเลอร์ เตะรวบ อวาง ฮี ชาน รับหน้าที่สังหารไม่พลาดไล่ตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ ต้องไปสู้กันต่อในช่วงต่อเวลา
นาที 103 เกาหลีใต้บุกขึ้นมาจน ลูอิส มิลเลอร์ ทำฟาวล์ใส่ ฮวาง ฮี ชาน บนเส้นกรอบเขตโทษ เกาหลีใต้ได้ฟรีคิกนอกกรอบมุมฝั่งซ้าย ซน ฮึง มิน บรรจงปั่นโค้งเสียบสามเหลี่ยม เข้าไปเป็นประตูออกนำ 2-1 จากนั้น ออสเตรเลีย ยิ่งเสียเปรียบหนักเข้าไปอีก ไอเดน โอนีล ไปฟาวล์หนักใส่ ฮวาง ฮี ชาน ผู้ตัดสินเช็ก VAR และควักใบแดงไล่ออก ออสเตรเลีย เหลือ 10 คน แถมสกอร์ตามหลัง
ช่วงเวลาที่เหลือเป็นฝั่งเกาหลีใต้ที่ถือไพ่เหนือกว่าไล่บดหนัก แต่เจาะเพิ่มไม่ได้ จบเกม เกาหลีใต้ ลุ้นเหนื่อยอีกครั้งเอาชนะ ออสเตรเลีย 2-1 ผ่านเข้ารอบตัดเชือก ไปพบกับ จอร์แดน ที่เฉือนเอาชนะ ทาจิกิสถานไป 1-0 ในวันที่ 6 ก.พ. โดยจอร์แดน ผ่านเข้าสู่รอบตัดเชือกเป็นครั้งแรก
