กองทุนกีฬา ขอความเป็นธรรม อัดฉีดบอลชายช้า เพราะทำชื่อเสีย ต้องรอคัดกรอง เชื่อว่าครั้งนี้น่าจะเป็นบทเรียน
ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NSDF) การกีฬาแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สำหรับประเด็นเรื่องเงินรางวัลของนักฟุตบอล ชุดกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชานั้น ที่มีข่าวว่าสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ส่งหนังสือมากว่า 20 ฉบับ เพื่อขอความเป็นธรรม หรือเพื่อขอเงินรางวัลนั้น กองทุนฯ ไม่ได้รับถึง 20 ฉบับ ขนาดนั้นแน่นอน
เมื่อเสร็จการแข่งขันกองทุนฯ ก็ดำเนินการนำเข้าการพิจารณา แต่ ณ วันนั้นมีเหตุการณ์เกิดขึ้น ทำให้คณะกรรมการบริหารกองทุนฯ เฉพาะเจาะจงซึ่ง ณ วันนั้นเรายังไม่ได้รับหนังสือจากทางสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) ว่าจะลงโทษหรือไม่ แต่กองทุนฯ ก็กันเงินไว้ให้
ดร.สุปราณี กล่าวอีกว่า ทางกองทุนฯประสานกับทาง นายพาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬา ฟุตบอลฯ และขอเอกสารที่เกี่ยวข้องจากเอเอฟซี ซึ่งบอกว่าส่งให้กับทางการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) แล้ว
อย่างไรก็ตาม เราขอเอกสารนี้มาดู และเห็นว่านักกีฬาถูกลงโทษจริงๆ ก็แปลว่ากระทำผิด ซึ่งทางกองทุนฯ ก็ประชุมคณะอนุกรรมการสวัสดิการและเงินรางวัล และมีมติตามที่สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ นำเสนอคือ ขอให้เงินรางวัลกับนักกีฬาทุกคน และขอให้เงินรางวัลกับผู้ฝึกสอนทุกคนเหมือนกัน สมาคมจะไปกระจายเงินรางวัลนี้เอง
แต่ในส่วนเงินรางวัลของสมาคมนั้น สมาคมมีหนังสือมาถึงกองทุนฯ ว่าให้หักเงินบางส่วนที่เป็นส่วนของนักกีฬาทำผิด ซึ่งตรงนี้เราก็ไม่ได้หักเยอะ หลังจากนี้ก็จะประชุมบอร์ดกองทุนฯ ในเร็วๆ นี้ และเมื่อมีผลประชุมแล้ว ทาง กกท.ก็สัญญาไว้ว่าจะตั้งรอเป็นรายบุคคลแล้วในการจ่ายเงินให้กับทั้งนักกีฬา ผู้ฝึกสอน และสมาคมกีฬา
“เชื่อว่าครั้งนี้น่าจะเป็นบทเรียน และขอร้องนักกีฬา ผู้ฝึกสอน และสมาคมกีฬา ที่นำพาทัพนักกีฬาไทยไปแข่งขันมหกรรมกีฬาให้อดกลั้น และอดทน เพราะว่าพอเกิดเหตุแล้ว มันไม่ได้สร้างชื่อเสียง แต่มันสร้างชื่อเสีย ยิ่งถ่ายทอดสดไปมากเท่าไหร่ จะทำให้ ณ วันนั้นประเทศไทยถูกประณาม เราก็ทำหน้าที่ของเรา ถ้ามีการกระทำผิดเกิดขึ้นแล้วเราไปให้เงินโดยที่ไม่มีการกรอง แล้วต่อไปเกิดเหตุการณ์ขึ้นอีกมันจะเป็นอย่างไร ซึ่งก็อยากให้ประชาชนคนไทยให้ความเป็นธรรมกับการทำงานของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ การกีฬาแห่งประเทศไทย ในเรื่องนี้ด้วย”
ดร.สุปราณี กล่าวเพิ่มเติมว่า ทุกสมาคมกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขัน และได้ชัยชนะมาไม่ว่าจะเป็นเหรียญทอง เหรียญเงิน หรือเหรียญทองแดง กองทุนฯ ทำงานอย่างรวดเร็วมาก เพราะว่าเป็นมหกรรมกีฬา และคำนวณเงินรางวัลเข้าไปตามจำนวนนักกีฬา โดยกองทุนฯ ก็โอนเงินเข้าให้กับนักกีฬาทุกๆ คนโดยตรงอย่างชัดเจน
รวมทั้งผู้ฝึกสอน และสมาคมกีฬาแต่ละชนิดกีฬา กองทุนฯ จะโอนเงินให้กับสมาคม ถือว่าเราดำเนินการได้เบ็ดเสร็จเรียบร้อย
“อย่างในกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ และเอเชี่ยนพาราเกมส์ จะไม่มีการบ่นเรื่องเงินรางวัล เพราะทุกคนปฏิบัติตามกฏและระเบียบของมหกรรมกีฬา แต่ในกีฬาฟุตบอลที่เกิดเหตุการณ์ขึ้น” ดร.สุปราณี กล่าว
