กกท. โดย นพ.มีชัย อินวู๊ด รองผู้ว่าการฝ่ายบริหาร การกีฬาแห่งประเทศไทย ยืนยัน กกท. เป็นกลาง คลี่ปม เลือกตั้งยิงปืน ยึดข้อบังคับตีโจทย์ 9 สโมสร
ความคืบหน้าปัญหายุ่งเหยิงสมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทยหลังการประชุมใหญ่เลือกตั้งนายกสมาคมคนใหม่ เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยที่ประชุมถกเถียงเรื่อง 9 สโมสรถูกตัดสิทธิ์ไม่ให้เข้าร่วมประชุม ซึ่งสุดท้ายนายสกล วรรณพงษ์ นายกสมาคม และผู้สมัครชิงตำแหน่งตัดสินใจสั่งปิดประชุมไปแล้ว แต่บรรดาสโมสรสมาชิกเสียงข้างมากเวลานั้น โหวตเปิดประชุมกลับมาใหม่และดำเนินการเลือกตั้งจนสุดท้ายยกโหวตให้ “บิ๊กแจ๊ส” พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นั่งนายกสมาคมคนใหม่ ต่อมาเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ฝั่ง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ส่งผู้แทนยื่นหนังสือขอจดทะเบียนคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ฯ ไปยัง กกท. โดยวันเดียวกันฝั่ง นายสกล วรรณพงษ์ ยื่นหนังสือคัดค้านผลการเลือกตั้งไปยัง กกท. เนื่องจากผิดข้อบังคับสมาคมข้อ 39 และขอให้ กกท. พิจารณาให้การประชุมเป็นโมฆะ
ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 มีนาคม นพ.มีชัย อินวู๊ด รองผู้ว่าการฝ่ายบริหาร การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ในฐานะนายทะเบียนสมาคมกีฬา “แห่งประเทศไทย” เปิดเผยว่า ยังไม่เห็นหนังสือของทั้ง 2 ฝั่ง รวมถึงรายงานการประชุมจากผู้แทน กกท. ที่ร่วมประชุม ยังคงต้องรอให้กระบวนการภายในเรื่องเอกสารเสนอมาถึงตัวเองก่อน แต่ทราบว่ายื่นหนังสือมาวันเดียวกัน เมื่อหนังสือมาถึงจะให้คณะกรรมการดูรายละเอียดของทั้ง 2 ฉบับ ประเด็นอยู่ที่ต้องไปดูข้อบังคับสมาคม เราจะเดินตามข้อบังคับสมาคมทุกเรื่อง ทุกประเด็นว่า อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ เรื่องที่มีการสั่งปิดประชุมไปแล้ว แต่สมาชิกโหวตกลับมาเปิดประชุมใหม่ ต้องไปดูว่า ทำได้หรือไม่ ถูกข้อบังคับหรือไม่ ยังไงก็ไม่เร็ว แต่ก็ไม่ช้ามากเรื่องนี้
“ผมไม่หนักใจนะ เราจะพิจารณาจากข้อบังคับ ว่ากันตามข้อบังคับล้วนๆ ถ้าทุกคนยอมรับกฎ กติกา มารยาท แต่การตรวจสอบคงต้องใช้เวลาสักระยะ ผมทำงานแบบตรงไปตรงมา ไม่มีประเภทบอกว่า ผมไม่ชอบคนนั้น ไม่ชอบคนนี้ คนนั้นนายเก่า คนนี้นายเก่า ทุกอย่างต้องยึดความถูกต้องเป็นหลัก เรื่องนี้ค่อนข้างละเอียดอ่อน เราไม่อยากให้มีปัญหาแบบนี้ เมื่อเราดำเนินการตรวจสอบเสร็จสิ้นเราจะแจ้งให้ทั้งสองฝ่ายรับทราบต่อไป” นพ.มีชัย กล่าว
รองผู้ว่าการ กกท. กล่าวต่อไปว่า ก่อนการประชุมเรามีการไกล่เกลี่ยเรื่อง 9 สโมสรกับทั้ง 2 ฝั่งไปแล้ว ตามข้อบังคับไม่ได้ให้อำนาจนายกสมาคมตัดสิทธิ์ 9 สโมสรที่จะร่วมประชุมใหญ่สามัญได้ กรณีดำเนินการตัดสิทธิ์ต้องเป็นมติคณะกรรมการบริหาร ซึ่งสโมสรที่ถูกตัดสิทธิ์ก็เป็นบรรดากรรมการบริหารอีก แต่ทางฝ่ายที่คัดค้านผลการเลือกตั้งก็บอกว่า เอาข้อที่ประชุมกรรมการบริหารแล้วซึ่งเป็นวาระแจ้งเพื่อทราบ ต้องย้อนไปดูว่า ถ้าฝั่งนายสกล วรรณพงษ์ สามารถทำได้เรื่องการตัดสิทธิ์ 9 สโมสรโดยไม่ขัดข้อบังคับสมาคมเลย นั่นหมายความว่า 9 สโมสรจะไม่มีสิทธิ์มาร่วมโหวตเลือกตั้งนายกสมาคมในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ และนำไปสู่การโมฆะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องอยู่ที่การตรวจสอบความถูกต้องของทั้ง 2 ฝ่าย ตามระเบียบไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ แต่ให้ดำเนินการให้เร็วที่สุด
