“สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี เกือบแย่ก่อนได้ประตูชัยท้ายเกม เอาชนะ “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูง จากแชมเปี้ยนชิพ ไป4-2 ในการแข่งขันฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อ 17 มี.ค.

Reuters/Andrew Boyers

เชลซี ยักษ์เกือบหลับของพรีเมียร์ ลีก ออกนำเร็วตั้งแต่นาที 13 จากจังหวะที่ นิโกลาส แจ็กสัน เผากองหลัง เลสเตอร์ ก่อนปาดให้ มาร์ก กูกูเรยา แปหน้าปากประตูง่ายๆ ก่อนจะมาได้ลูกโทษนาที 26 แต่ ราฮีม สเตอร์ลิง ยิงไปติด ยาคุบ สโตลาร์ชีค นายด่านเลสเตอร์ จนช่วงท้ายครึ่งแรก เชลซีได้ประตู 2-0 จาก โคล พาลเมอร์ ในนาที 45+1

Reuters/Andrew Boyers

ครึ่งหลังหนังคนละม้วน นาที 51 อักเซล ดิซาซี กองหลังเชลซี จ่ายคืนหลังแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ เพราะ โรเบิร์ต ซานเชส ผู้รักษาประตู ไม่ได้ยืนเฝ้าเสา บอลพุ่งเข้าประตูตัวเองไปเลย เลสเตอร์ไล่มาเป็น 1-2

Reuters/Andrew Boyers

จากนั้น สเตฟี่ มาร์วิดดี แนวรุก เลสเตอร์ สับขาหลอกกองหลังเชลซี ก่อนปั่นด้วยขวาบอลพุ่งเสียบเสาสองให้ เลสเตอร์ กลับมาตีเสมอ 2-2

Reuters/Andrew Boyers

นาที 71 เลสเตอร์ ที่กำลังจะดีมาเสียเปรียบผู้เล่น เมื่อ คัลลัม ดอยล์ กองหลัง เลสเตอร์จำเป็นต้องสกัด นิโกลาส แจ็กสัน แนวรุกเชลซี ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษ แต่หลังจากเช็ก VAR ชี้เป็นฟรีคิกนอกเขต แต่ ดอยล์ ตัวสุดท้ายต้องโดนใบแดงไล่ออกไป เลสเตอร์เหลือแค่ 10 คน

REUTERS/Dylan Martinez

เกมเกือบจบในช่วง 90 นาทีและต้องไปลุ้นต่อช่วงต่อเวลา แต่ก็เป็น เชลซี ที่ได้เฮ โคล พาล์มเมอร์ ไขว้ให้ คาร์นีย์ ชูควูเมกา กองหน้าตัวสำรอง หลุดเข้าไป ยิงลอดขา ยาคุบ สโตลาร์ชีค นายด่านเลสเตอร์ ในนาที 90+2 ให้ เชลซี ขึ้นนำ 3-2 และยังมาได้อีกลูกปิดเกมจาก โนโน่ มาดูเอเก้ ตัวสำรองอีกคนที่ยิงไกลปิดเกมให้ เชลซีเอาชนะ 4-2

REUTERS/Dylan Martinez

เวลานี้ แมนฯซิตี้, เชลซี และ โคเวนทรี ที่ผ่านเข้าไปยืนในรอบรองฯ แล้ว เหลืออีกทีมเดียว คือ ผู้ชนะหว่าง แมนยู หรือ ลิเวอร์พูล ที่จะเตะเป็นคู่สุดท้าย

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน