สำนักงานสลาก กินแบ่งรัฐบาล ร่วมกับสมาคมฟุตบอลจัดฟุตบอลเยาวชน 7 คน รุ่นไม่เกิน 13 ปี ชิงเงินรางวัลรวมเกือบ 1 ล้านบาท พร้อมจัดแข่งทั่วประเทศ
เมื่อ 27 มี.ค. ที่ห้องพระศิวะ โรงแรมอัศวิน แกรนด์คอนเวนชั่น พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (กองสลาก) พร้อมด้วย “บิ๊กป๋อม”อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ อุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ร่วมเป็นประธานเปิดโครงการแข่งขันฟุตบอล 7 คน เยาวชน 13 ปี GLO CUP 2024 โดยมีแขกรับเชิญ “ลีซอ”ธีรเทพ วิโนทัย อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย พร้อมแขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชนมาร่วมงานอย่างคับคั่ง
พ.ท.หนุน กล่าวว่า “ปัจจุบันปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการพนันในเด็กและเยาวชน เป็นปัญหาที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิต และอนาคตของเด็กและเยาวชน ซึ่งผลสำรวจของศูนย์วิจัยเพื่อพัฒนาสังคมและธุรกิจ พบว่าในกลุ่มอายุ 15 ปีขึ้นไป มีการเล่นพนันประมาณร้อยละ 29.5 ขณะเดียวกันเยาวชนอายุ 19-25 ปี เล่นพนันร้อยละ 54.6 และยังพบว่าพ่อแม่และบุคคลแวดล้อมที่มีอิทธิพลต่อเด็กและเยาวชนนำสู่การเล่นพนัน”
“ดังนั้นการให้เด็กและเยาวชนได้ใช้เวลาว่างในการออกกำลังกาย ทำให้สุขภาพแข็งแรง และสามารถลดเวลาการเข้าถึงการพนัน โดยกีฬาฟุตบอลเป็นกีฬาเด็กให้ความสนใจ และเป็นกีฬาที่เยาวชนนิยมเล่น ทางกองสลากกินแบ่งรัฐบาล ตระหนักถึงความสำคัญจึงร่วมกับสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จัดโครงการฟุตบอล GLO CUP 2024 เพื่อส่งเสริมเยาวชนใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ มีสุขภาพแข็งแรง และห่างไกลยาเสพติด”
ด้าน “บิ๊กป๋อม” กล่าวว่า “สมาคมฟุตบอลมีนโยบายให้การสนับสนุนฟุตบอลในระดับเยาวชน โดยเห็นว่ารายการฟุตบอล GLO CUP 2024 ครั้งนี้ เป็นการแข่งขันฟุตบอล 7 คน รุ่นอายุ 11-13 ปี เป็นประโยชน์ในการให้โอกาสเด็กเยาวชนได้มีพื้นที่ในการพัฒนาความสามารถ ซึ่งมีการชิงเงินรางวัลเกือบ 1 ล้านบาท เป็นการสนับสนุนนโยบายของสำนักงานสลากฯ เพื่อให้เยาวชนใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และห่างไกลยาเสพติด สำหรับรูปแบบการแข่งขัน จะทำการแข่งขันรอบคัดเลือก 77 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อหาแชมป์ในแต่ละจังหวัด แต่ละภูมิภาคหรือโซน เข้าเล่นรอบสุดท้ายชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทยต่อไป”
สำหรับการแข่งขันฟุตบอลเยาวชน GLO CUP 2024 เป็นการแข่งขันฟุตบอล 7 คน รุ่นอายุระหว่าง 11-13 ปี ชิงเงินรางวัลรวมเกือบ 1 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ห่างไกลการพนัน ยาเสพติด และอบายมุข
โดยรูปแบบการแข่งขัน รับสมัครจังหวัดละ 8 ทีม หาแชมป์ตัวแทนแต่ละจังหวัด 77 ทีม เพื่อไปแข่งในระดับโซนทั้งหมด 12 โซน จากนั้นจะหาแชมป์ในแต่ละโซนภูมิภาค 12 ทีม ไปเล่นรอบสุดท้ายชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย โดยจะเริ่มโซนแรกในวันที่ 29 มี.ค. ที่จังหวัดชัยภูมิ, เพชรบูรณ์, ลพบุรี, สระบุรี, นครนายก และนครราชสีมา ขณะที่รอบชิงแชมป์ประเทศไทย จะเริ่มแข่งขันในช่วงเดือนมิ.ย.
ผู้ชนะเลิศระดับประเทศ ได้เงินรางวัล 500,000 บาท, รองชนะเลิศ 300,000 บาท, อันดับ 3 100,000 บาท, อันดับ 4 50,000 บาท, ทีมมารยาทยอดเยี่ยม 10,000 บาท, ผู้เล่นยอดเยี่ยม 10,000 บาท, ผู้ทำประตูสูงสุด 10,000 บาท, ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม 10,000 บาท
นอกจากนั้นทีมแชมป์ระดับโซนยังได้รับเงินรางวัล 35,000 บาท, แชมป์จังหวัดรับ 20,000 บาท และยังมีเงินบำรุงทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันอีกทีมละ 2,000 บาท โดยนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ 1 คน เล่นได้ 1 ทีมเท่านั้น (เฉพาะรอบแรก คัดเลือก 77 จังหวัด แต่ไม่สามารถย้ายข้ามจังหวัดได้) หากมีรายชื่อซ้ำซ้อนจะถูกตัดสิทธิ์ไม่ให้เข้าร่วมแข่งขันตลอดการแข่งขัน