การแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย รายการ “เอเอฟซี ฟุตซอล เอเชียน คัพ 2024” ที่บางกอก อารีนา เมื่อวันที่ 28 เมษายน เป็นรอบชิงชนะเลิศ ฟุตซอลทีมชาติไทย ลงดวลกับ ทีมชาติอิหร่าน
สำหรับทีมชาติไทย เคยเข้าชิงรายการนี้มาแล้ว 2 ครั้ง ในปี 2008 (ชิงกับอิหร่าน) และ 2012 (ชิงกับญี่ปุ่น) แต่ก็ทำได้เพียงรองแชมป์ ส่วนอิหร่าน เคยเข้าชิงทั้งหมด 14 ครั้ง คว้าแชมป์มา 12 สมัย โดยในปี 2008 ที่ทั้งสองทีมพบกันในรอบชิงชนะเลิศ ครั้งนั้น อิหร่าน เป็นฝ่ายชนะ 4-0
เริ่มเกมได้เพียง 56 วินาที อิหร่าน มาได้ประตูขึ้น 1-0 อย่างรวดเร็ว แบบช็อกแฟนชาวไทย จากจังหวะคิกอินฝั่งซ้ายที่ไหลให้ ซาลาร์ อักฮาปัวร์ พลิกยิงด้วยซ้ายเสียบมุมเข้าไป จากนั้นไทย พยายามบุกสู้แต่ก็โดนความแน่นอนของอิหร่าน เล่นงานอีกครั้ง ในนาที 6 โดยอิหร่านต่อบอลกันจากแดนหลังขึ้นมาหน้าประตู ก่อนสุดท้ายเป็น อาลี ฮาสซานซาเดห์ ที่สังหารเข้าไปให้ อิหร่าน นำ 2-0
หลังเสียสองประตู ทีมชาติไทย กลับมาตั้งเกม และสร้างโอกาสยิงลุ้นประตูได้อยู่หลายจังหวะ พร้อมทั้งปิดเกมรุกของอิหร่านเอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่เฉียบขาดพอ ทำให้จบครึ่งไทย ทีมชาติไทย ตามหลัง อิหร่าน 0-2
ครึ่งหลังไทยแก้เกมมาดี และจากการต่อบอลอันยอดเยี่ยมไปถึง จิรวัฒน์ สอนวิเชียร ที่จบสกอร์ได้อย่างเฉียบขาด ก็ทำให้ไทย ได้ประตูไล่เป็น 1-2 ในนาที 26
แต่ถัดมา 1 นาที อิหร่าน ได้ประตูหนีอีกครั้งเป็น 3-1 จากจังหวะเตะมุมที่ยกไปให้ อาลี ฮาสซานซาเดห์ ซัดจังหวะเดียวเข้าไป
หลังจากนั้นไทย ยังคงไม่ลดละความพยายามจะทวงประตูคืน พอเข้าช่วง 8 นาทีสุดท้ายก็เทหมดหน้าตักด้วยแผน เพาเวอร์เพลย์ แต่นาที 35 โดนอิหร่านตัดได้ และยิงสวนเร็วทันที โดย บาเฮอร์ โมฮัมมาดี ผู้รักษาประตู ทำให้ อิหร่าน ทิ้งห่างเป็น 4-1
ช่วงเวลาที่เหลือ ทีมชาติไทย ยังเล่นเพาเวอร์เพลย์ต่อเนื่อง แต่ก็ไม่สามารถเจาะแนวรับอันเหนียวแน่นของอิหร่านได้ จบเกม ทีมชาติไทย แพ้ อิหร่าน 1-4 ไม่สามารถสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์สมัยแรก ส่วน อิหร่าน นั้นคว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 13
อย่างไรก็ตามแม้จะคว้าแชมป์ไม่ได้ แต่ทีมชาติไทย ยังเป็นหนึ่งใน 4 ทีมเอเชีย ที่คว้าตั๋วไปเล่นใน ฟุตซอลโลก 2024 ที่ประเทศอุซเบกิสถาน ส่วนอีก 3 ทีมคือ อิหร่าน (แชมป์), ทาจิกิสถาน (อันดับ 3) และอัฟกานิสถาน (เพลย์ออฟ) ส่วน อุซเบกิสถาน ที่คว้าอันดับ 3 นั้น ได้โควตาในฐานะเจ้าภาพ