ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ต้องเหลือ 10 คนตั้งแต่ครึ่งแรก แถมเป็นฝ่ายตามหลังสตุตการ์ต แต่ก็มาไล่ตีเสมอและชนะจุดโทษ คว้าแชมป์เดเอฟแอล-ซูเปอร์คัพไปครอง
การแข่งขันฟุตบอลเดเอฟแอล-ซูเปอร์คัพ เยอรมนี เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม “ห้างขายยา”ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ดับเบิลแชมป์บุนเดสลีกาและเดเอฟเบ โพคาล ฤดูกาลที่แล้ว เจอกับ “ม้าขาว”สตุตการ์ต รองแชมป์บุนเดสลีก เตะที่สนามไบอารีนา รังเหย้าของเลเวอร์คูเซน
ครึ่งแรกนาที 11 อเล็กซ์ การ์เซีย เปิดบอลจากฝั่งซ้ายลอยโค้งไปเสาสอง เอ็ดมงด์ ทัปโซบา กระโดดขึ้นโขกบอลหนีนายทวารจะเข้าอยู่แล้ว วิกเตอร์ โบนิเฟซ ปราดเข้าชาร์จบนเส้นประตูไม่เหลือซาก เลเวอร์คูเซนนำ 1-0 และเป็นเครดิตทำประตูของโบนิเฟซ
นาที 15 คริส ฟือห์ริช ได้บอลทางกราบซ้ายแล้วส่งให้ มักซิมิเลียน มิตเทลสเทดต์ เติมมารับช่วงต่อก่อนปาดเข้ากลางไปถึง เอ็นโซ มิโยต์ ตวัดยิงเสียบตาข่าย สตุตการ์ตตีเสมอ 1-1
นาที 37 เลเวอร์คูเซนต้องเหลือ 10 คน มาร์กแต็ง แตร์กริเยร์ ทำบอลกระฉอกจากเท้าแล้วตามไปเล่นต่อ แต่ดันไปเปิดปุ่มยันใส่ เออร์เมดิน เดมิโรวิช ทำให้ผู้ตัดสินควักใบแดงให้แตร์กริเยร์ทันที จบครึ่งแรกเสมอกัน 1-1
ครึ่งหลังนาที 63 คริส ฟือห์ริช พาบอลขึ้นมาแล้วจ่ายต่อให้ ฟรานส์ คราตซิก บุกขึ้นทางกราบซ้ายแล้วเปิดลูกพุ่งต่ำเข้ากลางไปถึง เดนิซ อุนดาฟ ชาร์จเข้าไป สตุตการ์ตแซงนำ 2-1
เกมทำท่าว่าจะเป็นฝั่งสตุตการ์ตชนะ กระทั่งนาที 88 ผู้เล่นเลเวอร์คูเซนเคาะบอลหาช่อง ก่อนจะเป็น อเล็กซ์ กริมัลโด จ่ายทะลุผ่านแนวรับให้ พาทริก ชิก หลุดเข้าเขตโทษแล้วบรรจงยิงผ่านนายทวารเข้าไป เกมจึงจบด้วยสกอร์ 2-2 ต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ
ปรากฏว่าสตุตการ์ตที่ยิง 5 คน กลับพลาดไปถึง 2 คน ได้แก่ ฟรานส์ คราตซิก และซิยาส ส่วนเลเวอร์คูเซนยิง 4 คนเข้าทั้งหมด “ห้างขายยา” จึงชนะ 4-3 คว้าแชมป์ไปครองเป็นสมัยแรก
