เนเธอร์แลนด์กับเยอรมนีผลัดกันแลกหมัด สุดท้ายกินกันไม่ลงจบเจ๊า ส่วนอังกฤษได้ “แฮร์รี เคน” เป็นฮีโร่ยิงเบิ้ล ทีมจึงเก็บชัยต่อเนื่องในยูฟ่า เนชันส์ ลีก

การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า เนชันส์ ลีก ฤดูกาล 2024-25 เมื่อวันที่ 10 กันยายน ลีกเอ กลุ่ม 3 “กังหันสีส้ม”เนเธอร์แลนด์ เปิดสนามโยฮัน ครัฟฟ์ อารีนา รับการมาเยือนของ “อินทรีเหล็ก”เยอรมนี

เกมนี้เจ้าบ้านส่ง ไบรอัน บรอบบีย์, โคดี กักโป, ชาวี ซิโมนส์ ลงสนาม ส่วนทีมเยือนเลือกใช้งาน เดนิซ อุนดาฟ, ไค ฮาแวร์ตซ์, จามาล มูเซียลา

เริ่มเกมมาแค่ 2 นาที กองเชียร์เจ้าถิ่นเฮลั่นสนาม เมื่อแนวรับเยอรมนีเปิดช่องเบ้อเริ่ม ไรอัน กราเฟนแบร์ก จึงสบโอกาสแทงขึ้นหน้าให้ ทิจจานี ไรน์เดอร์ส หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงผ่านผู้รักษาประตูแบบง่ายๆ เนเธอร์แลนด์นำเร็ว 1-0

นาที 12 โฟลเรียน เวียร์ตซ์ จ่ายบอลทะลุแนวรับให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ หลุดเข้าพื้นที่เขตโทษแล้วสับไกยิงด้วยขวา บาร์ต แฟร์บรูกเกน ปัดโดนปลายนิ้วออกหลังไป เยอรมนียังตีเสมอไม่สำเร็จ

นาที 21 เนเธอร์แลนด์สกัดลูกเตะมุมได้แล้วโต้กลับเร็ว ไรอัน กราเฟนแบร์ก สาดบอลจากแดนตัวเองขึ้นหน้าไปถึง ชาวี ซิโมนส์ รับได้แล้วพยายามกระชากหนีคู่แข่งจนได้ยิง มาร์ก-อังเดร แทร์ สเตเกน ยังเซฟไว้ได้

นาที 38 เดนิซ อุนดาฟ ไหลบอลให้ โฟลเรียน เวียร์ตซ์ ยิงในเขตโทษแฉลบกองหลังแล้วผู้รักษาประตูปัดได้ แต่ลูกยังกระดอนมาหาอุนดาฟยิงซ้ำอีกทีเข้าไป เป็นประตูแรกของอุนดาฟกับทีมชาติ และช่วยให้เยอรมนีตีเสมอ 1-1

นาที 45+3 โรเบิร์ต อันดริช วางบอลไปทางด้านซ้ายของเขตโทษ ดาวิด เราม์ สปีดไปตวัดเข้ากลาง เดนิซ อุนดาฟ จะสับไกยิงแต่ถูกกองหลังขวางทำให้โดนไม่เต็มเท้า แต่บอลกลายเป็นดีหลุดมาเข้าทาง โยซัว คิชมิช ยิงเข้าไปง่ายๆ เยอรมนีจึงขึ้นนำเมื่อจบครึ่งแรก 2-1

ครึ่งหลังนาที 50 ชาวี ซิโมนส์ แทงบอลเข้าเขตโทษให้ ไบรอัน บรอบบีย์ ใช้ลำตัวบังบอลจากกองหลัง จากนั้นจึงสบจังหวะตวัดเข้ากลางให้ เดนเซล ดุมฟรีส์ เข้าฮอร์สระยะเผาขนไม่มีเหลือ เนเธอร์แลนด์ตีเสมอ 2-2

นาที 56 จูร์เรียน ติมเบอร์ ไหลบอลให้ ไรอัน กราเฟนแบร์ก ลองยิงจากระยะประมาณ 30 หลา ลูกพุ่งเรียดมีลุ้นว่าจะเสียบเสา มาร์ก-อังเดร แทร์ สเตเกน ตัดสินใจล้มตัวปัดเพื่อความปลอดภัย เนเธอร์แลนด์ไม่ได้ประตูเพิ่ม

หลังจากนั้นทั้งคู่ยังคงพยายามหาช่องบุกเพื่อยิงประตูชัยให้ได้ แต่สุดท้ายไม่มีฝั่งไหนเจาะตาข่ายเพิ่มสำเร็จ จบเกมจึงเสมอกันไป 2-2

อีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน ฮังการี เสมอ บอสเนีย 0-0

ทำให้ผ่านไป 2 นัดเท่ากัน เยอรมนีนำจ่าฝูง โดยมี 4 คะแนนเท่ากับอันดับ 2 เนเธอร์แลนด์ แต่ประตูได้เสียเยอรมนีดีกว่า ส่วนอันดับ 3 บอสเนีย และอันดับ 4 ฮังการี มีอยู่ 1 คะแนนเท่ากัน แต่ประตูได้เสียบอสเนียดีกว่า

(Action Images via Reuters/Peter Cziborra)

ด้านลีกบี กลุ่ม 2 “สิงโตคำราม”อังกฤษ รองแชมป์ยูโร 2024 เปิดสนามเวมบลีย์ สเตเดียม รับการมาเยือนของฟินแลนด์

เจ้าบ้านส่ง แฮร์รี เคน, แจ๊ก กรีลิช, บูคาโย ซากา ลงสนาม ส่วนทีมเยือนนำมาโดย ตีมู ปุกกี, เฟรดริก เยนเซน, โทปี เคสคิเนน

ครึ่งแรกนาที 23 บูคาโย ซากา เปิดบอลจากบริเวณริมเขตโทษด้านขวาไปหน้าประตูให้ แฮร์รี เคน โฉบมาโหม่งระยะเผาขนไม่เหลือซาก แต่ผู้กำกับเส้นยกธงล้ำหน้าไปก่อนแล้ว อังกฤษจึงไม่ได้ประตูขึ้นนำ และสกอร์เสมอกันอยู่ 0-0

ครึ่งหลังนาที 57 ไคล์ วอล์กเกอร์ จ่ายบอลขึ้นหน้าไปถึง แฮร์รี เคน ทำท่าจะหาช่องส่งต่อให้เพื่อน แต่เคนกลับตัดสินใจหักหลบกองหลังเข้าเขตโทษได้ ก่อนจะสับไกยิงเข้าไปอย่างเด็ดขาด อังกฤษนำ 1-0

นาที 76 เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ จ่ายบอลทะลุผ่านแนวรับให้ โนนี มาดูเอเก หลุดเข้าทางพื้นที่ด้านขวาของเขตโทษ ก่อนดีดเข้ากลางให้ แฮร์รี เคน ตวัดยิงเสียบตาข่าย อังกฤษจึงชนะไป 2-0

อีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน ไอร์แลนด์ แพ้ กรีซ 0-2

ทำให้ผ่านไป 2 นัดเท่ากัน กรีซนำจ่าฝูง โดยมี 6 คะแนนเต็มเท่ากับอันดับ 2 อังกฤษ แต่ประตูได้เสียกรีซดีกว่า ส่วนอันดับ 3 ไอร์แลนด์ และอันดับ 4 ฟินแลนด์ ยังไม่มีคะแนนเหมือนกัน แต่ไอร์แลนด์ประตูได้เสียดีกว่า

ส่วนผลกลุ่ม 1 แอลเบเนีย แพ้ จอร์เจีย 0-1, สาธารณรัฐเช็ก ชนะ ยูเครน 3-2

ผลคู่อื่น

ลีกซี : ลัตเวีย ชนะ หมู่เกาะแฟโร 1-0, นอร์ทมาซิโดเนีย ชนะ อาร์เมเนีย 2-0

ลีกดี : อันดอร์รา แพ้ มอลตา 0-1

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน