ลิเวอร์พูลเริ่มต้นเส้นทางยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รูปแบบใหม่ ได้อย่างสวยงาม ด้วยการบุกอัดเอซี มิลาน ขณะที่บาเยิร์น มิวนิก ชนะคู่แข่งขาดลอยขึ้นนำจ่าฝูง
การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ฤดูกาล 2024-25 เมื่อวันที่ 17 กันยายน รอบลีก ซึ่งเป็นระบบใหม่ประเดิมใช้ฤดูกาลนี้หนแรก “ปีศาจแดงดำ”เอซี มิลาน จากอิตาลี เปิดสนามซาน ซิโร รับการมาเยือนของ “หงส์แดง”ลิเวอร์พูล จากอังกฤษ
เกมนี้เจ้าบ้านส่ง อัลบาโร โมราตา, คริสเตียน ปูลิซิช, ราฟาเอล เลเอา ลงสนาม ขณะที่ทีมเยือนนำโดย ดิโอโก โชตา, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โดมินิก โซโบสไล
เริ่มเกมมาเพียง 3 นาที มิลานตั้งเกมจากหน้าประตูตัวเองจนบอลมาถึงกลางสนาม อัลบาโร โมราตา ตวัดต่อให้ คริสเตียน ปูลิซิช มีพื้นที่กระชากขึ้นทางด้านขวาจนเข้าไปในพื้นที่เขตโทษ จากนั้นจึงยิงเสียบเสาสองอย่างเฉียบคม เจ้าบ้านนำ 1-0
นาที 17 ลิเวอร์พูลเกือบตีเสมอ ดิโอโก โชตา จ่ายบอลให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ บุกเข้าทางด้านขวาของเขตโทษ ก่อนยิงด้วยขวาลูกพุ่งผ่านมือผู้รักษาประตูไปชนคานเต็มๆ
นาที 23 เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดลูกฟรีคิกจากบริเวณใกล้เส้นเขตโทษด้านซ้ายไปหน้าประตู อิบราฮิมา โคนาเต กระโดดขึ้นโขกเผาขนไม่เหลือซาก ลิเวอร์พูลตีเสมอ 1-1
นาที 29 เป็นฝั่งลิเวอร์พูลที่เกือบแซงนำ โคดี กักโป พาบอลลุยเข้าทางด้านซ้ายของเขตโทษแล้วตัดสินใจยิงมุมแคบ ผู้รักษาประตูปัดมาเข้าทาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ตวัดยิงซ้ำอีกทีก็ไปชนคานเสียอีก
นาที 40 ลิเวอร์พูลได้โต้กลัวเร็ว ดิโอโก โชตา พาบอลขึ้นมาแล้วตักไปให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ล็อกเข้าซ้ายแล้วยิงจากบริเวณหน้าเขตโทษ ไมก์ เมนญอง ยังพุ่งปัดทิ้งทัน
อย่างไรก็ตาม จากจังหวะต่อเนื่องเป็นลูกเตะมุมฝั่งขวาของลิเวอร์พูลนาที 41 คอสตาส ซิมิคาส เปิดไปหน้าประตูให้ เฟอร์จิล ฟาน ไดก์ ขึ้นโขกระยะเผาขนตุงตาข่าย “หงส์แดง” แซงนำจนได้ 2-1
นาที 45+4 เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดบอลจากฝั่งขวาข้ามไปอีกฟาก โคดี กักโป ใช้อกพักบอลลงแล้วสบช่องยิงด้วยขวาจากบริเวณหน้าเขตโทษ ไมก์ เมนญอง ปัดทิ้งไม่ให้ลิเวอร์พูลได้ประตูเพิ่ม จบครึ่งแรก “หงส์แดง” นำอยู่ 2-1
ครึ่งหลังนาที 48 บอลถูกจ่ายให้ โคดี กักโป เข้าพื้นที่เขตโทษแล้วปาดต่อไปถึง ดิโอโก โชตา โฉบมายิงจ่อๆ ไมก์ เมนญอง ยังไวออกมาบล็อกได้ทัน ลิเวอร์พูลไม่ได้ประตูเพิ่ม แต่จังหวะนี้เมนญองก็บาดเจ็บซ้ำจนเล่นต่อไม่ไหว ต้องถูกเปลี่ยนตัวออกไป
นาที 67 ลิเวอร์พูลสบโอกาสสวนกลับเร็ว โคดี กักโป กระชากบอลหลุดเข้าทางด้านซ้ายของเขตโทษ ก่อนจะเปิดเข้ากลางให้ โดมินิก โซโบสไล ยกเท้าแปเข้าไป ทีมเยือนจึงเป็นฝ่ายชนะ 3-1
ทางด้าน “ราชันชุดขาว”เรอัล มาดริด แชมป์เก่าจากสเปน เปิดสนามเอสตาดิโอ ซานติอาโก เบร์นาเบว เอาชนะ “ม้าขาว”สตุตการ์ต จากเยอรมนี 3-1
เจ้าบ้านได้ประตูจาก คีลิยัน เอ็มบัปเป นาที 46, อันโตนิโอ รูดิเกอร์ นาที 83, เอ็นดริก นาที 90+5 ส่วนทีมเยือนได้จาก เดนิซ อุนดาฟ นาที 68
ขณะที่ “เสือใต้”บาเยิร์น มิวนิก จากเยอรมนี เปิดสนามอัลลิอันซ์ อารีนา ไล่ถล่มดินาโม ซาเกร็บ จากโครเอเชีย 9-2
นัดนี้ แฮร์รี เคน เหมาคนเดียว 4 ประตูให้เจ้าบ้านนาที 19 (จุดโทษ), 57, 73 (จุดโทษ), 78 (จุดโทษ) ทำให้เคนกลายเป็นนักเตะคนแรกที่ทำแฮตทริกยิงจุดโทษในแมตช์แชมเปียนส์ ลีก
ส่วนประตูที่เหลือของบาเยิร์นได้จาก ราฟาเอล เกร์เรยโร นาที 33, ไมเคล โอลิเซ นาที 38 และ 61, ลีรอย ซาเน นาที 85, เลออน โกเร็ตซ์กา นาที 90+2 ขณะที่ดินาโมได้จาก บรูโน เพ็ตโควิช นาที 48, ทาคุยะ โองิวาระ นาที 50
ผลคู่อื่น : ยูเวนตุส (อิตาลี) ชนะ พีเอสวี (เนเธอร์แลนด์) 3-1, ยัง บอยส์ (สวิตเซอร์แลนด์) แพ้ แอสตัน วิลลา (อังกฤษ) 0-3, สปอร์ติง ลิสบอน (โปรตุเกส) ชนะ ลีลล์ (ฝรั่งเศส) 2-0
ตอนนี้บาเยิร์น มิวนิก, แอสตัน วิลลา, ลิเวอร์พูล, ยูเวนตุส, เรอัล มาดริด และสปอร์ติง ลิสบอน เก็บไป 3 คะแนนเท่ากันทั้งหมด แต่บาเยิร์นขึ้นนำจ่าฝูงของลีก เนื่องจากประตูได้เสียดีที่สุด