เรียกได้ว่าเป็นช่วงวิกฤตด้านผลงานของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา อย่างแท้จริงหลังจากการที่พวกเขาปราชัยต่อ ไบรตัน 1-2 ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2024-25 เมื่อวันที่ 9 พ.ย.

จากผลที่เกิดขึ้นทำให้ “เรือใบสีฟ้า” หยุดอยู่ที่ 23 คะแนนจาก 11 นัดอยู่อันดับ 2 ของศึกพรีเมียร์ลีกทว่าตามหลัง ลิเวอร์พูล จ่าฝูงไปแล้ว 5 คะแนนในจำนวนเกมเท่ากัน นอกจากนั้นแล้วยังเป็นการแพ้ 4 นัดติดต่อกันทุกรายการ ไล่จากแพ้ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 1-2 (คาราบาว คัพ), แพ้ บอร์นมัธ 1-2 (พรีเมียร์ลีก), แพ้ สปอร์ติง ลิสบอน 1-4 (ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก) และแพ้ ไบรตัน 1-2 (พรีเมียร์ลีก)

รวมไปถึงยังเป็นการปราชัย 4 นัดติดต่อกันเป็นครั้งแรกในอาชีพการคุมทีมของ เป๊ป ซึ่งเชื่อว่าเป็นเรื่องที่เจ้าตัวคงไม่คาดฝันเช่นกัน ถึงขนาดที่เจ้าตัวระบุว่า ในปีนี้ทีมของเขาอาจจะชวดแชมป์พรีเมียร์ลีกแม้จะเพิ่งผ่านมาเพียง 11 นัดก็ตาม

ทำให้ล่าสุด “ข่าวสดกีฬา” ได้วิเคราะห์ถึง 4 ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ แมนฯ ซิตี้ เจอวิกฤตเรื่องผลงานในขณะนี้

แข้งหลักบาดเจ็บ

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ แมนฯ ซิตี้ ทำผลงานได้ต่ำกว่ามาตรฐานอย่างมากในฤดูกาลนี้เนื่องจากปัญหาอาการบาดเจ็บของบรรดานักเตะตัวหลักที่รุมเร้าสโมสรมาอย่างต่อเนื่อง

เริ่มจากการบาดเจ็บหัวเข่าอย่างรุนแรงของ โรดรี กองกลางคนสำคัญ และเจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ 2024 ที่ถือว่าเป็นหัวใจของทีมมาตลอดทั้งในเกมรุก และรับโดยการหายไปของดาวเตะทีมชาติสเปนรายนี้ส่งผลกระทบให้ทีมอย่างชัดเจนโดยเฉพาะเรื่องของ “ความสมดุล” และ”การคุมจังหวะ” ที่แทบไม่มีให้เห็นเลยในช่วงหลังซึ่งถือเป็นโดมิโนชิ้นแรกที่ทำให้ทีมเจอปัญหาเรื่องผลงานมาต่อเนื่อง

นอกจาก โรดรี แล้วยังมี เควิน เดอ บรอยน์ เพลย์เมกเกอร์จอมทัพซึ่งเป็นผู้เล่นคนสำคัญในแผนการของ เป๊ป ในการปั้นเกมรุก และเล่นคู่กับ เออร์ลิง ฮาลันด์ ซึ่งเมื่อขาด เดอ บรอยน์ ไปเกมรุกของ “เรือใบสีฟ้า” ก็ดร็อปลงไปแบบชัดเจน รวมไปถึงบรรดากองหลังตัวหลักที่สลับกันเดี้ยงทั้ง จอห์น สโตนส์, ไคล์ วอล์กเกอร์, นาธาน อาเก รวมถึงมานูเอล อาคันจิ ด้วย

ส่งผลให้การจัดขุมกำลังลงสนามนั้นมีทางเลือกแบบจำกัด และส่งผลต่อฟอร์มในสนามอย่างเห็นได้ชัด

Manchester City’s Rodri reacts to an injury, during the English Premier League soccer match between Manchester City and Arsenal at the Etihad stadium in Manchester, England, Sunday, Sept. 22, 2024. ( Martin Rickett/PA via AP)

 

คุณภาพนักเตะที่ตกลงไป

แม้ แมนฯ ซิตี้ จะเต็มไปด้วยผู้เล่นซูเปอร์สตาร์แต่ในฤดูกาลนี้ต้องยอมรับว่ายังไม่มีผู้เล่นคนใดที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่น และช่วย “แบกทีม” ในสถานการณ์แข้งเดี้ยงรุมเร้า

ไม่เว้นแม้แต่ในรายของ เออร์ลิง ฮาลันด์ กองหน้าจอมถล่มประตูซึ่งมีโอกาสจบสกอร์น้อยลงจาก 38% เป็น 29.8% ต่อเกม และการทิ้งโอกาสทองในการยิงประตูซึ่งหัวหอกทีมชาตินอร์เวย์มีสูงสุดในลีกขณะนี้จากค่า XG หรือ ความน่าจะเป็นของการได้ประตูอยู่ที่ -4.07

เช่นเดียวกับ ฟิล โฟเดน ที่ถูกมองว่าจะมาระเบิดฟอร์มเก่งในฤดูกาลนี้หลังมีผลงานที่โดดเด่นอย่างต่อเนื่องทว่าเจ้าตัวกลับทำไปเพียง 3 ประตูกับ 2 แอสซิสต์จากการลงเล่น 13 นัดทุกรายการ ขณะที่ แบร์นาโด ซิลวา, เจเรมี โดกู, ซาวินโญ และมาเตโอ โควาซิช เป็นต้น ก็ขาดความสม่ำเสมอ

Soccer Football – Champions League – Sporting CP v Manchester City – Estadio Jose Alvalade, Lisbon, Portugal – November 5, 2024 Manchester City’s Erling Haaland looks dejected after he misses from the penalty spot Action Images via Reuters/Andrew Boyers

 

วางแผนเสริมทัพพลาด

ในตลาดนักเตะซัมเมอร์ที่ผ่านมา แมนฯ ซิตี้ เสริมผู้เล่นใหม่เข้ามาสู่ทีมชุดใหญ่เพียง 2 รายคือ ซาวินโญ แนวรุก ทรัวส์ และอิลคาย กุนโดกัน กองกลาง บาร์เซโลนา ที่กลับมาอยู่กับทีมเป็นคำรบสอง

ถึงกระนั้นพวกเขาตัดสินใจปล่อย ฆูเลียน อัลวาเรซ กองหน้าตัวเปลี่ยนเกมไปให้กับ แอตเลติโก มาดริด และกลายเป็น “ความเสียหาย” ที่ปรากฏต่อทีมขณะนี้จากการไม่เสริมทัพผู้เล่นหัวหอกคนใหม่
เนื่องจากในช่วงเวลาที่ ฮาลันด์ ฟอร์มดร็อปนั้นปกติแล้ว อัลวาเรซ มักจะลงสนามมาแล้วสร้างความแตกต่างได้ไม่มากก็น้อย

ทว่าปัจจุบันทีมไม่มีกองหน้าธรรมชาติคนใดเลยนอกจาก ฮาลันด์ ทำให้หากเจ้าตัวงัดฟอร์มเก่งออกมาไม่ได้ นั่นแทบจะปิดประตูเรื่องการผลิตสกอร์ และส่งผลให้ในซีซั่นนี้ “เรือใบสีฟ้า” มีสถิติการทำประตูเฉลี่ยลดลงจาก 2.53 ประตูต่อเกมเป็น 2 ประตู

Soccer Football – Champions League – Sporting CP v Manchester City – Estadio Jose Alvalade, Lisbon, Portugal – November 5, 2024 Manchester City’s Phil Foden and Mateo Kovacic look dejected after Sporting CP’s Viktor Gyokeres scores their fourth goal Action Images via Reuters/Andrew Boyers

 

แท็คติกของ เป๊ป

ในฤดูกาลนี้ เป๊ป ยังคงยึดแผนการเล่น 4-2-3-1 โดยมี “อินเวิร์ธ ฟูลแบ๊ก” เข้ามาช่วยเสริมเกมรุก อย่างไรก็ตามแผนการดังกล่าวดูเหมือนว่าจะถูกจับทางได้ และด้วยการที่แข้งหลักได้รับบาดเจ็บนั้นตัวสำรองที่ลงมาก็เล่นในแผนนี้ได้ด้วยศักยภาพที่ไม่ดีพอ

ส่งผลให้เฮดโค้ชวัย 53 ปีมีการปรับแท็คติกมาเป็น 4-1-4-1 บ้างทว่าก็ดูเหมือนจะยังไม่ใช่แผนที่ดีพอซึ่งส่งผลให้เป็นการบ้านข้อใหญ่ที่ เป๊ป ต้องเร่งแก้ไขระหว่างที่รอผู้เล่นหลักกลับมา

Soccer Football – Premier League – AFC Bournemouth v Manchester City – Vitality Stadium, Bournemouth, Britain – November 2, 2024 Manchester City manager Pep Guardiola REUTERS/Tony O Brien EDITORIAL USE ONLY.

 

ต้องมาติดตามกันว่า แมนฯ ซิตี้ จะกลับมาคืนฟอร์มเก่งได้หรือไม่หลังจากช่วงพักเบรกทีมชาติหนนี้ อย่างไรก็ตามหากพวกเขาสามารถคัมแบ๊กสู่ผลงานที่ควรจะเป็นได้อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการไล่ล่าแชมป์ต่างๆ ในฤดูกาลนี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน