“หวาน” จุฑามาศ รักสัตย์ นักชกสาวทีมชาติไทยรุ่น 50 กก.หญิง และรุ่น 63 กก.หญิง ธนัญญา สมนึก ไม่ต้องออกแรงเหนื่อยเข้าสู่รอบ 16 คน หลังได้บายการประกบคู่ศึกมวยสากลหญิงชิงแชมป์โลก ปี 2025 ที่เซอร์เบีย เมื่อช่วงดึกที่ผ่านมา ขณะที่ พ.ต.ท. วิจารณ์ พลฤทธิ์ หัวหน้าสตาฟโค้ชทีมชาติไทย ยังมั่นใจว่า จุฑามาศ รักสัตย์ และรุ่น 57 กก.หญิง “เฟี้ยว” ปุณณ์รวี รื่นรส (จุฑามาศ จิตรพงศ์) มีโอกาสคว้าเหรียญทอง เนื่องจากมีประสบการณ์ในทีมชาติ
สมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย ภายใต้การบริหารของนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายกสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย พล.ต.ท. ชัยวัฒน์ โชติมา เลขาธิการสมาคมฯ มีเป้าหมายพาทีมมวยสากลทีมชาติไทยคว้าเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2028 ที่กรุงลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา
ล่าสุด เมื่อช่วงดึกของวันที่ 8 มีนาคม มีการจับสลากประกบคู่ศึกมวยสากลหญิงชิงแชมป์โลก 2025 “IBA Elite Women’s World Championship 2025” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-17 มีนาคม ที่เมืองนีซ ประเทศเซอร์เบีย
ผลปรากฏว่า ใน 4 รุ่นที่ไทยส่งเข้าร่วมแข่งขัน มี 2 รุ่นที่ได้บาย ไม่ต้องชกรอบแรก และผ่านเข้าสู่รอบ 16 คนทันที ได้แก่ รุ่น 50 กก.หญิง “หวาน” จุฑามาศ รักสัตย์ ที่จะพบกับผู้ชนะระหว่าง เอฟ. เฮอร์เรร่า อัลวาเรซ (เม็กซิโก) หรือ เอส. มิติค นักชกเจ้าภาพจากเซอร์เบีย และรุ่น 63 กก.หญิง ธนัญญา สมนึก ที่จะพบกับผู้ชนะระหว่าง เอช. คาเย่ (ซิมบับเว) หรือ เค. คูลูโฮว่า (เซอร์เบีย)
ขณะที่อีก 2 รุ่นที่ต้องแข่งขันในรอบแรก ได้แก่ รุ่น 54 กก.หญิง ณัฐนิชา จงโปร่งกลาง พบกับ เจ. เลฮาน (ไอร์แลนด์) และรุ่น 57 กก.หญิง “เฟี้ยว” ปุณณ์รวี รื่นรส (จุฑามาศ จิตรพงศ์) พบ แอล.เพอร์รี่จ็อค (โรมาเนีย)
ด้าน พ.ต.ท. วิจารณ์ พลฤทธิ์ หัวหน้าสตาฟโค้ชทีมมวยสากลทีมชาติไทย เปิดเผยว่า พอใจกับผลการจับสลากประกบคู่ และเชื่อว่านักชกไทยทุกคนมีโอกาสคว้าเหรียญ หากทำได้ตามแผนและรักษาฟอร์มการชกเหมือนช่วงฝึกซ้อม โดยเฉพาะรุ่น 50 กก.หญิง จุฑามาศ รักสัตย์ และรุ่น 57 กก.หญิง “เฟี้ยว” ปุณณ์รวี รื่นรส (จุฑามาศ จิตรพงศ์) ที่มีประสบการณ์ในทีมชาติ และผ่านการแข่งขันในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ ๆ มาแล้ว เชื่อว่าจะสามารถรับมือกับสถานการณ์เฉพาะหน้าได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ “หวาน” จุฑามาศ นักสัตย์ จะเป็นนักชกไทยคนแรกที่ลงแข่งขัน โดยจะขึ้นสังเวียนพบกับผู้ชนะระหว่าง เอฟ. เฮอร์เรร่า อัลวาเรซ (เม็กซิโก) หรือ เอส. มิติค (เซอร์เบีย) ในวันที่ 10 มีนาคมนี้
