หลังจากทัพนักกีฬาไทยปิดฉากผลงานในศึกโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 26 กรกฎาคม-11 สิงหาคมที่ผ่านมา ด้วยผลงาน 1 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง จบอันดับ 44 จากประเทศที่เข้าร่วมการแข่งขัน 206 ประเทศ โดย 1 เหรียญทองได้มาจาก “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ เทควันโดรุ่น 49 กก.หญิง / 3 เหรียญเงิน จาก “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ แบดมินตัน ชายเดี่ยว, “ฟ่าง” ธีรพงศ์ ศิลาชัย ยกน้ำหนัก รุ่น 61 กก.ชาย, “เวฟ” วีรพล วิชุมา ยกน้ำหนัก รุ่น 73 กก.ชาย / 2 เหรียญทองแดง จาก “ออย” สุรจนา คำเบ้า ยกน้ำหนัก รุ่น 49 กก.หญิง และ “บี” จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง มวยสากล รุ่น 66 กก.หญิง

ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ร่วมกับคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ และกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NSDF) จัดขบวนแห่ฉลองชัยนักกีฬาที่ได้รับเหรียญรางวัล ไปตามเส้นทางต่างๆ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเริ่มขบวนแห่ฉลองความสำเร็จนักกีฬาไทย มีพิธีอัญเชิญของขวัญพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานของขวัญ ช่อดอกไม้ และกระเช้า ให้กับนักกีฬาที่ได้รับเหรียญรางวัลสร้างความปลื้มปิติเป็นล้นพ้น และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ แก่นักกีฬา ผู้ฝึกสอน สมาคมกีฬาและเจ้าหน้าที่ ตลอดจนคณะกรรมการโอลิมปิคฯ ในโอกาสอันเป็นมงคลนี้

โดย “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า หลายสมาคมฯ ประสบความสำเร็จทำผลงานได้อย่างน่าพอใจ และทำให้นานาประเทศได้เห็นถึงศักยภาพของนักกีฬาทีมชาติไทย ซึ่งทัพนักกีฬาไทยยังสามารถรักษามาตรฐานผลการแข่งขันกีฬาระดับโลกไว้ได้อย่างงดงาม และยังได้สร้างชื่อเสียงจากการได้รับเหรียญรางวัลรวม มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มประเทศอาเซียนด้วยกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลงานของ “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ที่ได้เหรียญรางวัลโอลิมปิกเหรียญทอง 2 สมัยติดต่อกัน นับเป็นนักกีฬาคนแรกของไทย และเป็นประวัติศาสตร์ที่จะต้องถูกจารึกไว้ เชื่อว่าผลงานครั้งนี้ สะท้อนความสำเร็จได้ตามเป้า อันเกิดจากนโยบายสำคัญ ที่ตนให้ไว้โดยเฉพาะเรื่องการใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาเพื่อความเป็นเลิศ อย่างจริงจัง

อย่างไรก็ตามนักกีฬายังคงต้องมีการพัฒนาเพิ่มขึ้นอีกอย่างต่อเนื่อง ทุกสมาคมจะต้องนำประสบการณ์จากการแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้ ไปปรับปรุงแก้ไข และถอดบทเรียนเพื่อสร้างผลงานให้ดียิ่งขึ้น ในรายการแข่งขันอื่นๆ ต่อไป ฝากให้สมาคมกีฬามุ่งใช้วิทยาศาสตร์การกีฬา ที่มีมาตรฐานสากล อย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยยกระดับผลงานของนักกีฬาทุกประเภท ให้ดียิ่งๆขึ้น รวมถึงมาตรการป้องกันการใช้สารต้องห้ามจะต้องมีการควบคุมอย่างเข้มงวด และเด็ดขาดด้วยเช่นกัน

จากนั้นเป็นขบวนแห่ฉลองชัยนักกีฬาไทยเริ่มจากเลี้ยวซ้ายออกจากคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย เลี้ยวซ้ายตรงแยกเพื่อเลี้ยวเข้า ถนนพิษณุโลกตรงไปตามถนนพิษณุโลก จนถึงแยกสวนมิสกวัน เลี้ยวขวาแยกสวนมิสกวัน เพื่อเข้าถนนราชดำเนินนอกเลี้ยวขวาแยกสะพานผ่านฟ้าลีลาศ เข้าถนนราชดำเนินกลางตรงผ่าน อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ผ่านแยกคอกวัว ผ่านแยกพระแม่ธรณีบีบมวยผม เลี้ยวขวา ไปทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ผ่านหน้าวัดพระแก้ว เลี้ยวซ้ายเข้าถนนราชดำเนินใน ผ่านหน้าศาลฎีกา มุ่งหน้าเพื่อไปทำเนียบรัฐบาล ผ่านแยก พระแม่ธรณีบีบมวยผม เลี้ยวขวา เข้าถนนราชดำเนินกลางเลี้ยวซ้ายแยกสะพานผ่านฟ้าลีลาส มุ่งหน้า ถนนราชดำเนินนอกตรงตามถนนราชดำเนินนอก ถึงแยกสวนมิสวัน แล้วเลี้ยวขวา เข้าถนนพิษณุโลก ซึ่งตลอดเส้นทางขบวนแห่ฉลองชัยประชาชนต่างร่วมแสดงความยินดี และเฉลิมฉลองความสำเร็จของทัพนักกีฬาไทย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน