ทัพ มวยสากล ทีมชาติไทย เหลือเพียงมวยหญิง 2 รุ่น เท่านั้น ในรอบ 8 คนสุดท้าย ประกอบด้วย รุ่นฟลายเวท 50 กิโลกรัมหญิง “หวาน” จุฑามาศ รักสัตย์ นักชกจากอำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ วัย 31 ปี ต้องเจอกับ หวู หยู แชมป์โลกคนล่าสุด วัย 29 ปีชาวจีน ถือเป็นการล้างตาคู่ชิงเหรียญทองเอเชียนเกมส์ 2022 ที่หังโจว ซึ่งครั้งนั้น จุฑามาศ แพ้ไป 0-5 ได้เหรียญเงิน

และอีกคนคือในรุ่นเวลเตอร์เวต 66 กิโลกรัมหญิง “บี” จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง วัย 23 ปีจากหนองคาย รองแชมป์โลก 2023 และเหรียญเงินเอเชียนเกมส์ 2022 เตรียมชกกับ บูเซญาซ ซูร์เมเนลี่ วัย 26 ปีจากตุรกี เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ ที่โตเกียว เมื่อ 3 ปีก่อน และเป็นแชมป์โลก 2 สมัย ปี 2019 กับ 2022 ล่าสุดเพิ่งได้แชมป์ยุโรป ในปีนี้ที่เบลเกรด โดยทั้งสองคู่จะชกกันในวันที่ 3 สิงหาคม

ล่าสุด พ.ต.ท.วิจารณ์ พลฤทธิ์ อดีตนักชกเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ปี 2000 ที่ปัจจุบันเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนมวยสากลหญิงทีมชาติไทย กล่าวว่า ในรายของ จุฑามาศ เคยแพ้มาที่จีน แต่การชกวันนั้นไม่ได้ห่างมาก มาในครั้งนี้นักกีฬาไทยร่างกายดีมาก และมีความมั่นใจจากชัยชนะนัดล่าสุด ทำให้มีลุ้นแน่นอน

ส่วนในฝั่งของ แจ่ม อาจจะเคยแพ้ ตุรกี คนนี้มา แต่ล่าสุดจากเทรนนิ่งแคมป์ที่ฝรั่งเศส บวกกับการชกในครั้บนี้จะเห็นว่า ซูร์เมเนลี่ ดูช้าลงไปเยอะเหมือนกัน อาจจะมีปัญหาเรื่องของการควบคุมน้ำหนัก ส่วน จันทร์แจ่ม น้ำหนักแทบไม่ได้ลดลง จุดนี้จะทำให้เรามีโอกาส แต่สิ่งที่เราต้องทำคือ ต้องรับมือมวยหมัดเน้น และหมัดขว้าง ที่ต่อยกว้าง ๆ ได้ดี ส่วนของเราเป็นจังหวะฝีมือ ต้องหลบหลีกให้ได้”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน